เขียนโดย: BEW FASTERLIFE

เมื่อ: 2 กันยายน 2558 - 11:52

เทคนิคการเข้าโค้งที่ถูกต้อง 4 ประเภทที่ชาวสองล้อทั้งหลายควรรู้

 

เทคนิคการเข้าโค้งที่ถูกต้อง 4 ประเภทที่ชาวสองล้อทั้งหลายควรรู้

 

การเข้าโค้ง 4 ประเภทที่ชาวไบค์เกอร์ควรรู้
 

          พูดได้เลยว่าเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ชาวสองล้อทุกคนนั้นมีความจำเป็นจะต้องทราบกันสักนิดหน่อยก็ยังดี สำหรับเทคนิคการเข้าโค้งที่ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลเป็นอย่างมากต่อความปลอดภัยจากการขับขี่ของชาวไบค์เกอร์ทั้งหลาย เพราะหากเราไม่มีกลวิธีที่ถูกต้องสำหรับการเข้าโค้งต่างๆ แล้วล่ะก็ อาจจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดก็เป็นได้

 

การเข้าโค้ง 4 ประเภทที่ชาวไบค์เกอร์ควรรู้
 

          ซึ่งวันนี้ BoxzaRacing ของเราก็จะพาทุกท่านมาพบกับ เกร็ดความรู้ในเรื่องของวิธีเข้าโค้งที่ถูกต้อง โดยจริงๆ แล้วในเรื่องนี้นั้น ก็ได้มีการแบ่งแยกประเภทในกรณีต่างๆ สำหรับชาวสองล้อไว้ทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตามเรามาดูกันเลยครับ

          โดยการแบ่งแยกประเภทนี้ ได้ถูกจัดหมวดหมู่ตามท่าทางของผู้ขับขี่ เนื่องจากการเข้าโค้งแต่ละแบบนั้นก็จะส่งผลดีที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงความสอดคล้องกับความเร็ว และมอเตอร์ไซค์ผู้ขับมาอีกด้วย

 

ประเภทของการเข้าโค้ง

เข้าโค้งแบบ Lean-out
 

1.แบบ Lean-out (ลีน เอ้าท์)

          การเข้าโค้งแบบนี้ผู้ขับขี่จะถ่วงน้ำหนักตัวค่อนไปทางด้านนอกโค้ง โดยตัวรถจะเอียงเข้าไปด้านในโค้งเล็กน้อย ซึ่งจะเหมาะสำหรับสภาพผิวทางโค้งที่สามารถลื่นไถลได้ง่าย การเข้าโค้งในลักษณะ Lean-out นี้จึงพบมากในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์วิบาก เนื่องจากสามารถควบคุมรถแม้เมื่อเกิดการลื่นไถลต่างๆ ได้ดี

 

การเข้าโค้งแบบ Lean-With
 

2.แบบ Lean-With (ลีน วิท)

          การเข้าโค้งในลักษณะนี้ เรียกได้ว่าผู้ขับขี่นั้นจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับตัวรถเลยก็คงจะไม่ผิด กล่าวคือทั้งรถและผู้ขับขี่จะเอียงไปเท่าๆ กัน ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานปกติเพราะผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนทิศทางและควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย โดยที่มือและเท้ายังคงทำงานได้อย่างสะดวก เป็นท่าทางการเข้าโค้งแบบมาตรฐานของการขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกประเภท ที่จะช่วยให้เรามีความปลอดภัยในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ

 

การเข้าโค้งแบบ Lean-In
 

3.แบบ Lean-In (ลีน อิน)

          การเข้าโค้งแบบนี้ทางด้านผู้ขับขี่จะต้องถ่วงน้ำหนักไปทางด้านในโค้ง โดยเอียงมากกว่าตัวรถเล็กน้อย เหมาะสำหรับการเข้าโค้งที่ต้องการความเร็วและมั่นใจในการยึดเกาะของรถได้ การเข้าโค้งแบบนี้จะให้ความคล่องตัวในการบังคับควบคุมน้อยกว่าแบบ Lean-with

 

การเข้าโค้งแบบ Hang-on
 

4.แบบ Hang-on (แฮงค์ ออน)

          การเข้าโค้งแบบนี้ผู้ขับขี่จะถ่วงน้ำหนักตัวไปด้านในโค้งมาก จนอยู่ในลักษณะแบบที่เราเรียกกันว่า "โหนรถ" เพื่อการทรงตัวที่ต้องบาล้านซ์กับแรงเหวี่ยงมากๆ จากการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การเข้าโค้งแบบนี้ผู้ขับขี่จะสามารถควบคุมรถได้ค่อนข้างยาก ไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานปกติ เพราะส่วนมากแล้วจะใช้การแบนโค้งในลักษณะนี้เฉพาะในสนามแข่งทางเรียบเท่านั้น

 

การเข้าโค้งแบบ Lean-With 
 

         จากท่าทางการเข้าโค้ง 4 แบบที่กล่าวมา เราจะเห็นได้ว่าการขับขี่เข้าโค้งแบบ Lean-With (แบบมาตรฐาน) เป็นท่าที่เหมาะสมและให้ความปลอดภัยมากที่สุด ตลอดจนเป็นท่าทางที่ต่อเนื่องมาจากท่าทางการขับขี่แบบปกติ ผู้ขับขี่จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนท่าก่อนหรือในขณะเข้าโค้ง กล่าวง่ายๆ ก็คือ เท้าทั้งสองอยู่บนพักเท้า หัวเข่าแนบกระชับถังน้ำมัน 
แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือจากที่รถอยู่ในลักษณะตั้งตรงมาอยู่ในลักษณะเอียงและที่สำคัญก็คือไม่ว่าจะเอียงมากน้อยแค่ไหน ศีรษะจะต้องตั้งตรงเท่านั้น การที่ศีรษะตั้งตรงนี้ทำให้เรา
สามารถอ่านเหตุการณ์ข้างหน้าและรักษาสมดุลของร่างกายกับตัวรถได้ดียิ่งขึ้น

 

การเข้าโค้งที่ถูกต้องช่วยให้เราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
 

          และนี่ก็คือ 4 ประเภทการเข้าโค้งที่ถูกจัดหมวดหมู่ไว้ตามการแบ่งจากท่าทางการขับขี่ รวมไปถึงความเร็ว ลักษณะของรถมอเตอร์ไซค์ และสภาพของท้องถนนนะครับ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีปัญหาในเรื่องของการเข้าโค้งต่างๆ ก็ควรจะรู้ไว้สักหน่อยก็ยังดีนะครับ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดอุบัติหตุแบบที่เราๆ นั้นไม่เคยคาดคิดกันมาก่อนเลยก็เป็นได้ สำหรับครั้งหน้าเราจะนำเกร็ดความรู้ในเรื่องไหนมาฝากเพื่อนๆ ชาวไบค์เกอร์กันอีก ติดตามกันได้เลยที่ BoxzaRacing ของเรานะครับ

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก er6thailand.com

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook