Naked Bike เรียกได้ว่าเป็นมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคปัจจุบัน ด้วยดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย ขับขี่ได้ง่ายในทุกๆ วัน บวกกับพละกำลังและสมรรถนะที่มีความโดดเด่น รถในสไตล์นี้จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ไบค์เกอร์เลือกมาเป็นม้าศึกคู่กาย โดยเนคเก็ตไบค์มิดเดิ้ลไซส์รุ่นหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นม้ามืดแห่งวงการ คงหนีไม่พ้น Yamaha MT-09 เจ้าของฉายา The Dark Side of Japan ที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ได้สัมผัส โดยเฉพาะเรื่องความดุดันที่ต้องบอกว่า มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ไม่เป็นรองใครเลยจริงๆ
Dark Side of Japan ฉายานี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยอย่างแน่นอน
ลองตัดสินใจดูใหม่ ถ้าใครยังคิดว่าผู้หญิงซิ่งไม่เป็น
Yamaha MT-09 คันที่ปรากฎโฉมอยู่ต่อหน้าทุกท่าน อยู่ในความครอบครองของ คุณพฮาวด์ สาวผู้ประสงค์ออกนาม แต่ไม่ประสงค์ออกหน้า ซึ่งสำหรับใครที่จะคิดว่า "ผู้หญิง...ซิ่งไม่เป็น" เราขอแนะนำให้คุณลองพิจารณาใหม่จากสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยตา เพราะเมื่อได้เห็นคันนี้แล้ว ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ แม้จะเป็นการตกแต่งโดยใช้อารมณ์ล้วนๆ (ทางเจ้าของไม่ได้เน้นสมรรถนะการขับขี่เป็นหลัก) แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า นอกจากเรื่องของความสวยงาม ดุดันมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังได้ในเรื่องของสมรรถนะมาเป็นของแถมแบบเต็มกระบุงเลยทีเดียว เพราะของแต่ละชิ้นที่ประเคนใส่เข้าไปนั้น ล้วนแล้วแต่ช่วยลบจุดอ่อนที่ติดตัวเจ้า Yamaha MT-09 มาจากโรงงานเลยทีเดียว และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมพร้อมๆ กันเลยครับ
เริ่มตั้งแต่ในส่วนของภาพลักษณ์ จากมุมมองโดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่า Yamaha MT-09 โฉมปี 2016 เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีภาพลักษณ์ที่เรียบง่าย ถึงง่ายที่สุด แต่ด้วยความเรียบง่ายนี้เอง เป็นความกลมกล่อมที่ช่วยส่งให้รถรุ่นนี้ดูกลมกลืน ลงตัว ไม่หวือหวา แต่ก็มองได้ไม่เบื่อ เท่าที่เห็นการเปลี่ยนแปลงภายนอกโดยหลักๆ คงมีแค่เติมการ์ดหม้อน้ำจาก Evotech Performance เพื่อป้องกันสิ่งไม่พึงประสงค์เข้าไปสร้างความเสียหายให้กับหม้อน้ำ จับคู่กับชุดท่อหม้อน้ำซิลิโคนจาก DRC ไฟท้ายที่เปลี่ยนเป็นของ Moto Dynamic แบบมีไฟเลี้ยวในตัว รวมถึงหลอดไฟและไฟหรี่คู่หน้า เพื่อเติมทัศนวิสัยและมุมมองยามค่ำคืนที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ขุมพลัง Crossplane CP3 ได้ลองสักที...รู้เลย !
เครื่องยนต์ถือเป็นหนึ่งองค์ประกอบหลักที่เรียกได้ว่า ค่ายส้อมเสียงบรรจงสร้างออกมาได้แบบตรงจุด ด้วยขุมพลัง 3 สูบ ที่มาในรูปแบบ Crossplane CP3 พิกัด 847 ซีซี. กำลัง 112 แรงม้า พร้อมกับแรงบิดอันหนักหน่วง 87.5 นิวตัน-เมตร ที่เรียกมาใช้งานได้อย่างไม่มีอิดออด เป็นคาแร็กเตอร์อันโดดเด่นของรถในตระกูล MT Series ที่ใครๆ ไม่อาจปฏิเสธถึงความร้อนแรงได้ แม้จะเป็นรองบ้างในเรื่องของ Top Speed ที่ถูกตอนเอาไว้จากโรงงาน แต่ก็เอาเถอะครับ...ในชีวิตจริง ไม่มีใครสามารถขี่ด้วยความเร็วที่สูงขนาดนั้นในทุกๆ ครั้งที่บิดอย่างแน่นอน หรือถ้าใครคิดเป็นอื่นก็...แล้วแต่ครับ ในเมื่อชีวิตและความปลอดภัยอยู่ในมือคุณ เลือกเอาที่สบายใจได้เลย สิ่งที่ทางเจ้าของอัพเกรดเพิ่มเติมเพื่อเรียกฟีลลิ่งการขับขี่ให้เร้าใจมากยิ่งขึ้นก็คือ การเปลี่ยนท่อไอเสียเป็นแบบ Full System จาก Termignoni เนื่องจากท่อเดิมที่เงียบเป็นเป่าสากขนาดนั้น ใครที่ขี่อยู่ประจำก็คงจะรู้ ว่าความแรงมันอาจจะยังมีอยู่จริง แต่ความสนุกมันหายไปกว่าครึ่ง และเพื่อให้สอดคล้องกับการคลายไอเสียที่โฟล์วยิ่งขึ้น ทางเจ้าของยังได้เปลี่ยนชุดกรองอากาศจาก BMC รวมถึงหัวเทียนไร้เขี้ยวจาก Brisk เพื่อให้การจุดระเบิดทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย
กันสะบัด...ของต้องมีสำหรับ MT-09
โช้กหลัง Ohlins กับความหลากหลายในการใช้งานที่ตอบโจทย์สุดๆ
สิ่งที่ MT-09 ต้องการมากกว่าการเพิ่มพลังของเครื่องยนต์ก็คือ ความง่ายและประสิทธิภาพในการควบคุม เพราะหัวใจสำคัญในการขับขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์อย่างปลอดภัยนั้น นอกจากความแรงแล้ว สมรรถนะโดยรวมนั้น ต้องมีความสอดคล้องกันด้วย ซึ่งแม้สิ่งนี้อาจจะเป็นจุดที่ทางเจ้าของรถไม่ได้โฟกัสสักเท่าใดนัก แต่ของที่ใส่มาทั้งหมด ก็ล้วนแล้วแต่ช่วยเรียกสมรรถนะในการควบคุมรถให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ชุดบนที่ติดตั้งชุดกันสะบัดจาก HyperPro รุ่น RCS ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ คือ การเพิ่มความหนืดโดยอัตโนมัติ หากมีการสะบัดอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังอัพเกรดชุดโช้กอัพหลังเป็นของแบรนด์ Ohlins STX 535 ที่สามารถปรับการทำงานได้อย่างสะดวกและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รีบาวน์ คอมเพรสชั่น รวมถึงพรีโหลด ที่มาพร้อมรีโมทแบบไฮดรอลิคส์ สามารถปรับได้เองง่ายๆ แบบเรียลไทม์เลยทีเดียว โดยหากคุณเป็นคนที่อยากจะจริงจังกับ Yamaha MT-09 เมนูเด็ดเซ็ตนี้ จัดว่าเป็นเครื่องเคียงที่คุณมิอาจพลาดได้ ซึ่งโดยส่วนตัวถ้าจะบอกว่า นี่คือ เมนูเปลี่ยนชีวิต ผมก็ยังคงเชื่อว่า นี่ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงแต่อย่างใด
ขึ้นชื่อว่า Brembo เอาอยู่ทุกสถานการณ์
พูดกันถึงจุดที่ขาดไปแล้ว ที่เหลือนั้นถือเป็นกำไรชีวิตในการได้แต่ง แน่นอนว่าความสวยงามยังคงเป็นวัตถุประสงค์อันดับหนึ่ง ซึ่งในส่วนของระบบเบรกนั้น Yamaha MT-09 คันนี้ จัดทรงมาได้แบบน่าดูชมทั้งเซ็ตหน้าและหลัง ด้วยการเปลี่ยนปั๊มบนเป็นของแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Brembo RCS19 ส่งน้ำมันเบรกจากสายถัก Hel สู่คาลิเปอร์แบบ 4 POT ที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันในชื่อ Brembo M4 ที่ให้ฟีลลิ่งในการเบรกที่กระชับกว่าเบรกเดิมมากๆ และเพื่อให้มุมมองดูสอดคล้องกัน ทางเจ้าของไม่ลืมที่จะอัพเกรดระบบเบรกเซ็ตหลังด้วยคาลิเปอร์ผีเสื้อปักข้างแบบ 2 POT เข้าไปด้วย ด้านฟีลลิ่งอาจไม่ได้รู้สึกว่าเหนือกว่าเบรกสแตนดาร์ดจากโรงงาน แต่ถ้าว่ากันด้วยภาพลักษณ์นั้น ย่อมดีกว่าอยู่หลายขุม ซึ่งก็ถือว่าตรงกับวัตถุประสงค์ของการตกแต่ง เช่นเดียวกับในส่วนของยาง ที่ทางเจ้าของเลือกอัพเกรดด้วยยางระดับกึ่งสนามอย่าง Pirelli Diablo SuperCorsa SP ไซส์ 120/70 R17 ในด้านหน้า และ 190/55 R17 ในด้านหลัง แม้จะไม่ได้ใช้งานในสนามหรือขี่โหดอะไรมากมาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ ว่ายางสายฟ้าเป็นยางที่ใส่แล้วรถดูซิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแน่นอนว่าได้มุมมองที่ถูกใจ...ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
การแต่งรถนั้น ไม่มีถูกผิด ไบค์เกอร์ทุกคนล้วนมีจุดประสงค์ในการตกแต่ง โมดิฟายที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดของการแต่งรถ คงหนีไม่พ้นเรื่องของ "ความลงตัว" แต่งออกมาอย่างไรไม่ให้รู้สึกว่าขาดๆ เกินๆ ซึ่ง Yamaha MT-09 คันนี้ ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามารถดูไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการสร้างคาแร็กเตอร์ให้กับสองล้อที่คุณรัก แต่งไปเถอะครับ แต่งให้ถูกใจ หากไม่ได้ทำให้ใครโดยเฉพาะคนในครอบครัวเดือดร้อน ซึ่งเมื่อคุณได้รถที่ถูกใจแล้ว เชื่อว่าคุณจะมีความสุข แม้แค่ได้นั่งมองมันอยู่เฉยๆ อย่างแน่นอนครับ...สวัสดี
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook