เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 5 พฤศจิกายน 2562 - 23:51

Honda CBR1000RR-R เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยกับการปรับโฉมอัพเกรดเต็มสเปคเทียบเท่าตัวแข่ง MotoGP

 

 

          ในที่สุดการรอคอยกับกระแสที่ยืดยาวกันมาสักพักใหญ่ๆของข่าวการให้กำเนิดซูเปอร์ไบค์สุดท๊อปฟอร์มจากค่ายปีกนกอย่าง Honda CBR1000RR-R ที่ล่าสุดเมื่อคืนนี้ ก่อนเปิดม่านงาน EICMA Motorcycle Show 2019 เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ทาง Honda ได้ทำเซอร์ไพรซ์กับการเปิดตัวของ Honda CBR1000RR-R ที่ได้รับการอัพเกรดสเปคจัดองค์ประกอบใหม่ทั้งคันโดยเฉพาะขุมพลังและเทคโนโลยีในตัว SP ที่ทางค่ายเคลมแล้วว่าเทียบเท่ารถแข่ง MotoGP เดี๋ยวเราจะมาชมเจ้า Honda CBR1000RR-R 2020 ในแบบฉบับคร่าวๆ กันก่อนครับ

 

 

 

          โดยสเปคเครื่องยนต์ของ Honda CBR1000RR-R 2020 นั้น ได้รับการพัฒนาใหม่ให้จัดจ้านขึ้นกว่าเดิมในบล็อค 4 ลูกสูบเรียงยกชุดลูกสูบใหม่กับเทคโนโลยี Piston-Jet ด้วยการเปลี่ยนไซส์ลูกสูบเป็น 81 มม. และเปลี่ยนใช้ก้านสูบไทเทเนียม พร้อมกับเพิ่มช่วงชักเป็น 48.5 มม. ที่ขนาดความจุกระบอกสูบ 999.9 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ในจุดนี้จึงทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้นมาได้สูงสุดถึง 215 แรงม้า ที่ 14,500 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 113 นิวตันเมตร ที่ 12,500 รอบต่อนาที และแบกน้ำหนักของตัวรถที่ 201 กิโลกรัม พร้อมทีเด็ดกับการติดตั้งท่อไอเสียไทเทเนียมดีไซน์ปลายดาบจาก Akrapovic แบบ 4-2-1 มาให้แจ่มๆ โดยการอัพเกรดเครื่องยนต์ใหม่ในตัว CBR1000RR-R ยังมีมากกว่าการเปลี่ยนไซส์ลูกสูบและเพิ่มช่วงชัก นั่นก็คือการจัดวางองค์ประกอบภายในเครื่องยนต์ใหม่คือ การจัดวางชิ้นส่วนต่างๆ ภายในฝาสูบพร้อมเปลี่ยนใส่ชุดวาล์วไทเทเนียมใหม่ที่มีน้ำหนักเบากว่าเดิม มีความทนทานสูงและสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมไปถึงการดีไซน์จัดวางตำแหน่งของแรมแอร์ใหม่ให้อยู่ตรงกลางระหว่างไฟหน้าตามสมัยนิยมและให้อากาศเข้าได้ดีกว่าเดิม แต่ในเรื่องของการติดตั้ง VTEC ยังไม่มีการติดตั้งอย่างที่มีข่าวลือกัน ก็ถือว่าน่าเสียดายไปอีกจุดหนึ่ง แต่ทาง Honda ได้คอนเฟิร์มว่าประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์บล็อคนี้เทียบเท่ากับตัวแข่ง MotoGP ได้เลยทีเดียว ก็นับว่าโดนใจไม่เบาครับ

 

Honda CBR1000RR-R SP 

 

Honda CBR1000RR-R

 

 

 

          ในส่วนช่วงล่างของ Honda CBR1000RR-R ในตัว SP นั้น จะได้รับการติดตั้งโช้คหน้าไฟฟ้าแบบ Up Side Down ของ Ohlins NPX Semi-Active Fork ขนาด 43 มม. ระยะยุบตัวอยู่ที่ 125 มม. ที่สามารถปรับเซ็ตค่าได้อย่างละเอียดจากหน้าจอแสดงผล TFT ตามด้วยปั๊มเบรกหน้าจาก Brembo Stylema ควบคู่กับดิสก์เบรกหน้าขนาด 330 มม.ที่จะมีให้ในตัว SP แต่ในตัวธรรมดานั้นจะได้ปั๊มเบรกหน้าของ Nissin แบบเรเดียลเมาท์โมโนบล็อค 4 พอท ขยับมาด้านหลังกับโช้คอัพ Ohlins TTX36 Smart-EC Unit แบบมีซับแทงค์ที่จะมีให้ในตัว SP มีระยะยุบตัวอยู่ที่ 143 มม. และในตัวของ Honda CBR1000RR-R 2020 ทั้งในรุ่นธรรมดาและ SP จะได้รับการติดตั้งปั๊มเบรกหลังของ Brembo ตัวเดียวกันกับที่ใช้ใน Honda RC213V-S เป็นที่เรียบร้อย ก็ถือว่าเป็นการอัพเกรดจุดเล็กๆน้อยๆที่ทำให้แฟนๆ Honda ใจชื้นขึ้นบ้าง เพราะในโฉมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา Honda CBR1000RR จะใช้ปั๊มเบรกหลังเป็นของ Nissin มาโดยตลอดครับ เรียกได้ว่าในโซนช่วงล่างอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการอัพเกรดทั้งในด้านของซอร์ฟแวร์และฮาร์ดแวร์เพื่อให้การใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในส่วนของขนาดไซส์ยางคาดว่าขนาดยางหน้าจะอยู่ที่ 120/70R17 และยางหลังอยู่ที่ 200/55R17 แต่จะให้ยางยี่ห้อใดมาจากโรงงานนั้นระหว่าง Pirelli หรือ Bridgestone เราต้องมารอดูกันอีกทีครับ

 

 

          ส่งท้ายกันที่จุดที่น่าสนใจในตัวเจ้า Honda CBR1000RR-R กับการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดที่ไม่ใช่แค่การดัดแปลงจากโฉมเดิม แต่มันคือการขึ้นรูปงานสร้างใหม่หมดจดตั้งแต่ชุดเฟรมยันแฟริ่ง เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการซูเปอร์ไบค์สมรรถนะสูง เริ่มที่ชุดแฟริ่งที่ได้รับการออกแบบหน้าตาที่เรียกได้ว่าดุดัน เฉียบคม หน้าจิก คิ้วขมวดเหมือนโกรธใครมาก็ไม่ปาน พร้อมติดตั้งชุด Winglet พร้อมปีกขนาดเล็กซ้อนอยู่ภายในอีก 3 ปีก ดีไซน์เดียวกันกับ Honda RCV213V จากโรงงานมาให้เป็นที่เรียบร้อยตามคำเรียกร้องยึดเข้ากับเฟรมอลูมิเนียมดีไซน์ใหม่ช่วยลดน้ำหนักตัวรถและสร้างเสถียรภาพมากขึ้น

 

 

 

          และในส่วนของเทคโนโลยีที่จัดหนักจัดเต็มมาไม่เบากับระบบเซ็นเซอร์ประมวลผล IMU 6 แกน ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรวจจับทุกอาการของรถในการขับขี่ใช้งานตั้งแต่บนท้องถนนจนถึงการขับขี่ในสนามแข่งโดยจะเห็นได้จากรูปภาพหน้าจอเรือนไมล์ TFT ที่แสดงองศาการเอียงของตัวรถที่บอกได้เลยว่าโดนใจสายสนามไม่น้อย รวมไปถึงระบบที่รถซูเปอร์ไบค์ในปัจจุบันต้องมีมาให้กับระบบ Launch Control หรือระบบล็อครอบออกตัวที่จะมีให้ในตัว SP และ Quick Shifter ที่จะได้รับการติดตั้งทั้งในตัวธรรมดาและ SP เป็นระบบพื้นฐาน รวมไปถึงระบบช่วยเหลือในการขับขี่ไม่ว่าจะเป็น Engine Brake Control ที่สามารถปรับความหน่วงของ Engine Brake ได้ และ Wheelie Control ที่จะเข้ามาควบคุมอาการหน้าลอยของตัวรถให้มีสเถียรภาพมากขึ้น ควบคู่กับระบบ Honda Selectable Torque Control (HSTC) ที่จะทำหน้าที่ควบคุมแรงบิดหรือที่เรารู้จักกันก็คือ Traction Control นั่นเองครับ ตามด้วยชุดกันสะบัดไฟฟ้า Honda Electronic Steering ที่สามารถปรับความหนืดได้ 3 ระดับ ก็ถือได้ว่ารอบนี้ Honda ได้จัดความคุ้มค่าเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความพึงพอใจเป็นที่สุดครับ

 

 

          ก็ถือว่าสำหรับการเปิดตัว Honda CBR1000RR-R 2020 นั้น BoxzaRacing ก็ได้พาแฟนๆมาทำความรู้จักกับสเปคเบื้องต้นกันมาแบบพอหอมปากหอมคอแล้ว...ในส่วนของราคาค่าตัวพร้อมข้อมูลเชิงลึกและภาพตัวรถจริง สดๆ จากงาน EICMA Motorcycle Show 2019 เราจะมาอัพเดทกันต่อไปในภายหลัง สามารถติดตามข่าวสารการอัพเดทรถใหม่ได้เลยครับที่ www.BoxzaRacing.com ครับ  

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook