Honda ได้ฤกษ์ปล่อยสายลุยรุ่นใหญ่ระดับตำนานอย่าง Honda CRF1100 L Africa Twin 2020 ออกมาเอาใจสายลุยเป็นที่เรียบร้อย โดยการกลับมาของแอดเวนเจอร์พี่ใหญ่ค่ายปีกนกครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการพลิกโฉมของวงการสองล้อเลยก็ว่าได้ ลืมภาพเดิมๆ ของ Africa Twin ที่คุณเคยรู้จัก แล้วไปเจาะลึกสเปคขั้นเทพของ Honda CRF1100 L Africa Twin 2020 ไปพร้อมๆ กันครับ
Honda CRF1100 L Africa Twin 2020 Adventure Sport
Honda CRF1100 L Africa Twin 2020
Honda CRF1100 L Africa Twin 2020 มาพร้อม 3 เวอร์ชั่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Africa Twin, Africa Twin Adventure Sport และ Africa Twin Adventure Sport แบบฟูลออพชั่น ภาพลักษณ์ที่โดยรวม ยังถือว่ารักษาเอกลักษณ์ของสองล้อตระกูลนี้ได้อย่างชัดเจน แต่เพิ่มลูกเล่นล้ำสมัยเข้าไปให้มากยิ่งขึ้น ไฟหน้ามาในรูปแบบ LED พร้อม Day Light แบบวงแหวน ออกแบบตัวรถให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 5 กก. พร้อมอัพเกรดขุมพลังใหม่ให้ถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อน รวมถึงแรงบิดออกมาได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังผ่านมาตรฐานไอเสียในระดับ Euro 5 พร้อมฟังค์ชั่น Cruise Control เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ที่ช่วยอำนวยความสะดวกยามเดินทางไกลๆ ได้มากยิ่งขึ้น
ด้านประสิทธิภาพในการขับขี่ เติมเสถียรภาพด้วยระบบประมวลผล IMU แบบ 6 แกน สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างหลากหลายรวมถึงช่วยให้ระบบ HSTC ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับตั้งความละเอียดการทำงานได้ถึง 7 ระดับ และสามารถปิดได้ รวมถึงยังเพิ่ม 3 ฟังค์ชั่นใหม่เข้าไป ไม่ว่าจะเป็น Cornering ABS, Wheelie Control (3 ระดับ และสามารถปิดได้), Rear Lift Control โดยในรุ่นเกียร์ DCT จะมีลูกเล่น Cornering Detection มาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย
มาใหม่ทั้งที Honda CRF1100 L Africa Twin 2020 ต้องมีอะไรที่ล้ำขั้นสุดกันบ้าง โดยเฉพาะหน้าจอสี TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่มาในรูปแบบ Touch Screen สามาถเชื่อมต่อกับผู้ขับขี่ได้แบบใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นผ่านทางบลูทูธ พร้อมฟังค์ชั่นอย่าง Apple Carplay พร้อมกันนี้ยังสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ทั้งสิ้น 4 โหมด ไม่ว่าจะเป็น TOUR, URBAN, GRAVEL และ OFF-ROAD (พร้อมโหมดที่ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งเองได้อีก 2 โหมด)
สำหรับโหมดการขับขี่ของ Honda CRF1100 L Africa Twin 2020 ในโหมด TOUR จะปลดปล่อยกำลังและการตอบสนองของเครื่องยนต์ในระดับสูงสุด (1) แต่มี Engine Brake ในระดับปานกลาง (2) เพื่อการเดินทางที่ท้าทาย หรือมากด้วยสัมภาระ ส่วน Cornering ABS จะทำงานในรูปแบบ On Road, โหมด URBAN จะลดกำลังและการตอบสนองลงมาหนึ่งขั้น (2) มี Engine Brake ในระดับปานกลาง (2) ระบบ Cornering ABS จะทำงานในรูปแบบ On Road, GRAVEL โหมดนี้จะลดกำลังเครื่องยนต์ลงในระดับต่ำ (4) ลด Engine Brake (3) Cornering ABS ทำงานในรูปแบบ Off Road ซึ่งหากใช้โหมดนี้ จะไม่สามารถปิดการทำงานของ ABS ที่ล้อหลังได้, โหมด OFF-ROAD กำลังเครื่องยนต์จะอยู่ในระดับปานกลาง (3) ลด Engine Brake ให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด (3) Cornering ABS ทำงานในรูปแบบ Off Road และสามารถปิด ABS ที่ล้อหลังได้ ส่วนในโหมด USER 1 และ 2 ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการทำงานของระบบต่างๆ ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังของเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1-4 Engine Brake 1-3 เลือกระดับการทำงานของ HSTC, Wheelie Control และ ABS (On Road/Off Road) โดยในโหมด User 1 จะกำหนดค่ามาตรฐานไว้ที่ระดับ 2 ทั้ง กำลังเครื่องยนต์และ Engine Brake ส่วน USER 2 กำลังเครื่องยนต์จะอยู่ในระดับ 4 และ Engine Brake ระดับ 3
รุ่นปกติว่าดีแล้ว แต่สำหรับรุ่น Africa Twin Adventure Sport นั้น เรียกได้ว่า สมบูรณ์แบบ เพื่อทางค่ายปีกนกจัดหนัก ใส่เต็มทุกฟังค์ชั่น เพื่อเปิดโลกแห่งการเดินทางได้อย่างเหนือชั้นยิ่งขึ้น โดยนอกจากเรื่องของความจุถังน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 24.8 ลิตร (รุ่นปกติ 18.8 ลิตร) รวมถึงเครื่องเคียงในการเดินทาง เช่น ที่ชาร์จอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ ระบบแฮนด์อุ่นมือ ที่จัดมาให้แบบครบๆ แล้ว ในรุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบโช้กอัพควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า Showa Electronically Equipped Ride Adjustment (Showa EERA) รวมถึง Cornering Lights ที่ปรับทิศทางการส่องสว่างตามองศาการเลี้ยว
ด้านขุมพลังบล็อคล่าสุดของ Honda CRF1100 L Africa Twin 2020 มาในรูปแบบ 2 สูบเรียง ข้อเหวี่ยงวางทำมุม 270 องศา 4 จังหวะ SOHC 4 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ พิกัดความจุ 1,084 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 92 x 81.5 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10.1:1 ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 105 นิวตัน-เมตร ที่ 6,250 รอบ/นาที ด้านระบบส่งกำลัง มีให้เลือกใช้ 2 รูปแบบเช่นเดิม ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมสลิปเปอร์คลัทช์ และเกียร์ DCT 6 สปีด ที่สามารถปรับการทำงานในโหมด S ได้ถึง 3 ระดับ
Honda CRF1100 L Africa Twin 2020
มิติตัวรถของ Honda CRF1100 L Africa Twin 2020 มาพร้อมความยาว 2330 มม. กว้าง 960 มม. และสูง 1395 มม. ระยะฐานล้อหน้า-หลัง 1575 มม. ความสูงเบาะ 850/870 มม. (มีออพชั่น Low Seat 825 มม., High Seat option 895 มม.) น้ำหนักรวม 226 กก. ในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 236 กก. สำหรับรุ่นเกียร์ DCT ส่วนในรุ่น Africa Twin Adventure Sport ในรุ่นเกียร์ธรรมดา น้ำหนัก 238 กก. และ 248 กก. สำหรับรุ่นเกียร์ DCT และปิดท้ายกันด้วย Adventure Sport ที่มาพร้อมโช้กอัพไฟฟ้า Showa EERA รุ่นเกียร์ธรรมดาน้ำหนัก 240 กก. และรุ่น DCT หนัก 250 กก.
ระบบช่วงล่างสำหรับรุ่นมาตรฐาน มาพร้อมโช้กหน้า Showa ขนาดแกน 45 มม. ระยะยุบ 230 มม. พร้อมโช้กเดี่ยวพร้อมซับแทงค์ระยะยุบ 220 มม. ในด้านหลัง ยึดอยู่กับสวิงอาร์มอลูมิเนียม Pro-Link สามารถปรับพรีโหลดและรีบาวน์ได้ตามต้องการ ระบบเบรกหน้ามาพร้อมคาลิเปอร์ 4 POT คู่ กับจานขนาด 310 มม. ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 1 POT พร้อมจาน 256 มม. มี ABS ทั้งหน้าและหลังเป็นตัวช่วยเติมความปลอดภัย โดยประมวลผลร่วมกับ IMU สามารถเลือกเซ็ตระดับการทำงานในสภาพเส้นทางที่แตกต่าง ทั้ง On Road และ Off Road และสามารถปิด ABS ที่ล้อหลังได้ สำหรับล้อได้รับการอัพเกรดเป็นแบบซี่ลวดทูปเลส (เฉพาะ Adventure Sport ส่วนรุ่นปกติ ยังคงใช้ยางในเช่นเดิม) ด้านหน้ายังคงใช้ขนาด 21 x 2.15 นิ้ว ส่วนด้านหลังมาในขนาด 18 x 4.00 นิ้ว โดยรุ่นที่มาพร้อมโช้กอัพ Showa EERA สามารถเลือกรูปแบบการรับมือของช่วงล่างให้เหมาะกับน้ำหนักในการเดินทางได้อีก 4 ระดับ ทั้ง นุ่ม, ปานกลาง, เฟิร์ม และออฟโร๊ด โดยประมวลผลจาก ECU และปรับช่วงล่างโดยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับรูปแบบที่เลือก นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถกำหนดค่าน้ำหนักในการเดินทางได้ทั้ง เดินทางคนเดียว, เดินทางคนเดียวพร้อมสัมภาระ, เดินทางพร้อมคนซ้อน และเดินทางพร้อมคนซ้อนและสัมภาระ
Honda CRF1100 L Africa Twin 2020 นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏกาณ์ใหม่แห่งวงการสองล้อระดับแนวน่า ซึ่งเชื่อว่าในอีกไม่ช้า ไบค์เกอร์ชาวไทย จะได้สัมผัสกับตัวลุยรุ่นล่าสุดจากค่าย Honda อย่างแน่นอน และหากมีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม ทาง BoxzaRacing จะรีบนำมารายงานให้ทราบโดยทั่วกัน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก morebikes, MCN, visordown, motorcycle
