เขียนโดย: Surasak

เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 - 14:59

Honda E-Clutch รีวิวหลังจากได้ขับขี่ กับส่วนต่างราคาเพิ่มขึ้น 2 หมื่นบาท คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายแน่นอน

      Honda E-Clutch เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ดูจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับค่าย Honda หลังจากนี้อย่างแน่นอน ซึ่งใครที่ติดตามข่าวสารของค่ายปีกนก คงทราบกันอยู่แล้วว่าทางบริษัทได้นำเสนอเทคโนโลยีนี้ครั้งแรกในงาน Eicma 2023 เมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนไทยก็มีการโชว์ตัวไปในงาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมาเช่นกัน โดยรุ่นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีเป็นครั้งแรกก็คือ CBR650R และ CB650R เพียงแต่ว่าในตอนนั้นยังไม่มีข้อมูลใดๆ เปิดเผยออกมา

 

 

      ทั้งนี้ล่าสุด Thai Honda ได้มีการเปิดตัวเปิดราคาจำหน่าย Honda CBR650R และ CB650R รุ่น E-Clutch อย่างเป็นทางการในไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งภาพรวมราคาจำหน่ายจะแพงขึ้นกว่ารุ่น Standard อยู่ประมาณ 20,000 บาทเพียงเท่านั้น โดยมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนที่ได้ทดลองขับขี่ใช้งานเทคโนโลยีนี้ในระดับหนึ่งแล้ว บอกได้เลยว่าราคาส่วนต่างที่เพิ่มเข้ามาเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ

 

เริ่มกันเลย!!

 

 

      หากจะให้นิยามถึงเทคโนโลยี E-Clutch ในมุมมองของผม ก็ประมาณว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาทำให้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แบบมีเกียร์ง่ายขึ้น ต่อไปนี้ใครๆ ก็สามารถขับ CBR650R และ CB650R ที่มีเทคโนโลยีติดตั้งอยู่ได้อย่างแน่นอน รวมไปถึงในอนาคตที่จะมีการติดตั้งเพิ่มเติมให้กับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆ ของทางบริษัทอีกด้วย

 

      เทคโนโลยี E-Clutch จะช่วยจัดการขั้นตอนการบีบคลัทช์ให้กับผู้ขับขี่ ด้วยเซนเซอร์ที่ใช้ตรวจจับถึง 8 จุด ซึ่งจะคำนวณการทำงานร่วมกับกล่องควบคุมของเทคโนโลยีนี้โดยเฉพาะ ก่อนที่ระบบจะสั่งการไปที่มอเตอร์สองตัวในการยกคลัตช์อัตโนมัติ ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาทีเพียงเท่านั้น

 

 

      ส่วนเรื่องความเนียน ความสมูทในการเปลี่ยนเกียร์ เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่สุดยอด ตัวเทคโนโลยีมีความฉลาดเป็นอย่างมาก ซึ่งในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์จะมีความสมูทใกล้เคียงกับการบีบคลัตช์แบบปกติ เพียงแต่ว่าเทคโนโลยี E-Clutch จะทำให้คุณสามารถเตะเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ต้องยกคันเร่ง ตรงจุดนี้อาจดูเหมือนการทำงานของ Quick Shifter ก็ว่าได้

 

E-Clutch แตกต่างกับ Quick Shifter ตรงไหน ?

 

 

      เชื่อว่าตรงจุดนี้ใครหลายคนก็น่าจะสงสัยอยู่ไม่มากก็น้อย ซึ่งรูปแบบการทำงานของเทคโนโลยี E-Clutch จะมีความพิเศษกว่าในหลายๆ เรื่อง เรียกง่ายๆ ว่าทุกอย่างเริ่มขึ้นตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ทีเดียว โดยคุณสามารถตบเข้าเกียร์ 1 ได้แบบไม่ต้องบีบคลัตช์ และในการออกตัวก็เพียงบิดคันเร่งเพียงเท่านั้นเป็นอันจบ

 

      นอกจากจะออกตัวได้แบบไม่ต้องบีบคลัตช์แล้ว คุณสามารถใช้เกียร์ไหนออกตัวก็ได้ โดยระบบจะมีไฟแจ้งเตือนที่หน้าจอเรือนไมล์ว่าต้องใช้เกียร์ที่สัมผัสกับความเร็ว (Honda ไม่แนะนำให้ทำ แต่สามารถทำได้) ซึ่งการทำแบบนี้ จะไม่มีการกระตุก กระตุกเกิดขึ้น ตลอดจนเครื่องยนต์ก็ไม่ดับ ตรงจุดนี้ตัวของ Quick Shifter ไม่สามารถทำได้นั้นเอง

 

Quick Shifter ที่มีให้ใช้งานใน CBR650R และ CB650R รุ่น E-Clutch

 

มือคลัตช์ยังคงมีให้ใช้งานเหมือนเดิม

 

      อีกทั้งคุณยังสามารถกลับไปบีบคลัตช์ได้อยู่เหมือนเดิมอีกด้วย หากคุณเลือกบีบคลัตช์ตอนเข้าเกียร์ ตัวเทคโนโลยี E-Clutch จะตัดการทำงานเองอัตโนมัติเป็นระยะเวลาประมาณ 2 วินาที ก่อนที่จะพร้อมกลับมาทำงานใหม่แบบอัตโนมัติ ซึ่งหากคุณเผลอบีบคลัตช์เข้าเกียร์ระหว่างขับขี่ใช้งาน ก็จะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเลย รวมไปถึงใครที่อยากออกตัวยกล้อ ก็ยังสามารถใช้คลัตช์ได้อยู่เหมือนเดิมนั้นล่ะ

 

ไฟสัญลักษณ์ที่แสดงว่า E-Clutch ทำงานอยู่ (ไฟสีเขียว)

 

      เทคโนโลยี E-Clutch จะสามารถปรับตั้งค่าความหน่วงของเกียร์ได้ โดยจะมีให้เลือก 3 ระดับ ได้แก่ Soft, Medium และ Hard ตรงจุดนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ขับขี่แต่ละคน โดยค่าเดิมจากโรงงานจะตั้งเป็น Medium มาให้ใช้ ส่วนใครที่อยากปิดการทำงานของเทคโนโลยี E-Clutch ไปเลยในการขับขี่ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าเมื่อดับเครื่องยนต์ และจะกลับมาใช้งานใหม่ ตัวระบบจะพร้อมกลับมาทำงานใหม่แบบอัตโนมัติ

 

ไม่ต้องปรับตัว ไม่ต้องเรียนรู้

 

 

      ตรงจุดนี้ถือเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดา ใครที่สามารถขับรถมอเตอร์ไซค์ได้อยู่แล้ว คุณก็จะสามารถขับรถมอเตอร์ไซค์ที่มีเทคโนโลยี E-Clutch ได้เช่นกัน โดยเน้นย้ำว่าไม่ต้องมีการเรียนรู้หรือการปรับตัวอะไรมากมาย ซึ่ง Honda ได้ออกแบบพัฒนาให้การใช้งานเป็นอะไรที่ง่ายดายมากๆ จะไม่บีบคลัตช์เลยก็ได้ หรือจะบีบคลัตช์ในบางจังหวะก็ได้เช่นกัน

 

อ่านข้อมูลอื่นเพิ่มเติม

 

การดูแลรักษา

 

มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่เป็นกลไกการทำงานของ E-Clutch

 

      อีกหนึ่งสิ่งที่ใครหลายคนอยากรู้ในเรื่องของเทคโนโลยี E-Clutch ก็คือ ระยะการบำรุงรักษา การดูแล ค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่าจะแพงกว่ารุ่นธรรมดารึไม่ ซึ่งจากข้อมูลของ Thai Honda ก็ยืนยันว่า ระยะการเซอร์วิสจะเท่ากับรุ่นธรรมดา ไม่มีความแตกต่างใดๆ ตลอดจนการบำรุงรักษาก็จะมีการอัดจาระบีที่ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงเท่านั้น

 

สรุป

 

 

      ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวของเทคโนโลยี Honda E-Clutch ที่ผมได้สัมผัสมาจากการขับขี่ใช้งานจริง ทั้งในสนามแข่งขัน และในเส้นทางขับขี่ปกติ ซึ่งส่วนตัวมองว่าการเพิ่มเงินจากรุ่นธรรมดาเพียง 20,000 บาท ถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ เพราะคุณยังสามารถบีบคลัตช์ได้อยู่เหมือนเดิม แต่วันไหนขี้เกียจก็ปล่อยให้ตัว E-Clutch จัดการในเรื่องคลัตช์ให้กับคุณแทน

 

พื้นที่ของขาและก้อน E-Clutch ที่ไม่ได้เกะกะตัวผู้ขับขี่

 

      สุดท้ายนี้ใครที่มองหารถ Bigbike ที่ใช้ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ไฟแดงเยอะ จราจรติดขัด ขอยืนยันนอนยันว่าเทคโนโลยี Honda E-Clutch จะช่วยให้ชีวิตคุณสบายขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งสิบปากว่าไม่เท่ากับได้ลองสัมผัสขับขี่ด้วยตนเอง โดย Honda CBR650R และ CB650R รุ่น E-Clutch มีให้คุณทดลองขับขี่แล้วที่ Honda Bigwing ทุกสาขา

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook