Kawasaki Eliminator 400 รถครุยเซอร์ที่ถูกนิยามว่าเป็นครุยเซอร์ซิตี้ ตอบโจทย์การขับขี่ใช้งานได้ในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือนอกเมืองก็สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา ล่าสุด Kawasaki Motors Thailand ได้ปรับลดราคาจำหน่ายของรถรุ่นนี้ ใครที่กำลังสนใจหรือหาข้อมูลรีวิว ทาง Boxzaracing จัดให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ Eliminator 400 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น Standard และรุ่น SE
สำหรับเรื่องความแตกต่างกันของสีสันรถ ก็จะมีของแต่งที่ไม่เหมือนกันอยู่ 3 จุดได้แก่ โม่งหน้า ยางหุ้มโช้ค และที่ชาร์จ USB โดยของทั้งหมดนี้จะอยู่ในรุ่น SE นั้นเอง
Eliminator 400 มาพร้อมกับความโดดเด่นในด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ควบคุมง่าย และมีน้ำหนักเบา พร้อมด้วยท่านั่งขับขี่ที่สบาย แค่เท่านี้ก็เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่ามันเป็นรถครุยเซอร์ที่น่าซื้อและใช้งานจริงรุ่นหนึ่ง
ดีไซน์การออกแบบของรถ
เชื่อว่ามีทั้งคนชอบ และไม่ชอบดีไซน์ของรถรุ่นนี้ ซึ่งต้องบอกว่าดีไซน์มันก็ไม่ใช่รถครุยเซอร์ที่นิยมในท้องตลาดทั่วไป เรียกว่าฉีกกฎการออกแบบไปพอสมควร แต่ก็ยืนยันว่า Eliminator400 มันเป็นรถครุยเซอร์นั้นล่ะ
เริ่มกันที่ไฟหน้าทรงกลมสีดำขนาดใหญ่ ดีไซน์เรียบง่าย สอดรับกับเรือนไมล์ทรงกลม รวมไปถึงกระจกมองหลังก็เป็นทรงกลม ในส่วนถังน้ำมันก็ทรงหยดน้ำมีขนาดความจุ 13 ลิตร ซึ่งฝาถังน้ำมันเป็นพลาสติกเสียดายตรงจุดนี้น่าจะใช้วัสดุอื่น และมันแอบดูซิ่งอยู่พอสมควร
ส่วนเบาะนั่งแบ่ง 2 ตอน แยกคนขับและคนซ้อน ตัวรถโชว์เฟรมตัวถังชัดเจน เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ ท่อไอเสีย หม้อน้ำ ก็มีการโชว์อย่างชัดเจน ให้ฟิวส์ความรู้สึกเหมือน Z400 อยู่พอสมควร
เรือนไมล์ทรงกลมขนาดเล็กแบบ LCD แสดงข้อมูลครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว รอบเครื่อง เกียร์ เวลา ทริป A,B ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าเฉลี่ยอัตราบริโภคน้ำมัน ซึ่งจอสามารถเชื่อมต่อมือถือสมาร์ทโฟนได้
เครื่องยนต์
อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะดี เพราะพื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกับ Ninja400 และ Z400 แต่มีการปรับปรุงใหม่เครื่องใหม่ ทำให้มีกำลังแรงบิดที่ดีขึ้นในรอบต่ำ เครื่องยนต์เป็น 2 สูบเรียง ขนาด 399 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยของเหลว และส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด และมีเทคโนโลยีสลิปเปอร์คลัชเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ขนาด 399 ซีซี.
ระบบกันสะเทือน
โช้คหน้าเป็น Telescopic ขนาดแกน 41 มม. ทำงานรวมกับโช้คหลังแบบคู่ สามารถปรับค่าสปริงพรีโหลดได้
ระบบเบรก
เบรกหน้าคาลิเปอร์ 2 สูบ แบบ Axial Mount จับคู่กับจานเบรกขนาด 310 มม. เบรกหลังคาลิเปอร์ 1 สูบ จับคู่กับจานขนาด 220 มม. ซึ่งระบบเบรกเป็นแบรนด์ Nissin พร้อมมีระบบเบรก ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในส่วนล้อแม็กดีไซน์ 10 ก้าน เน้นความเรียบ โดยล้อหน้ามาในขนาด 130/70-18 ส่วนล้อหลังขนาด 150/80-16
ด้วยความ Eliminator400 เป็นรถครุยเซอร์ ความสูงของเบาะจะอยู่ที่ 735 มม. เพียงเท่านั้น สำหรับน้ำหนักของรถที่ไม่รวมของเหลวก็อยู่ที่ 176 กก.
โดยส่วนตัวผมเรียกว่ามันเป็นรถครุยเซอร์ที่สามารถใช้ขับขี่ได้ในชีวิตจริงๆ ขับไปทำงาน ขับเดินทางไกล ขับไปตลาด หรือขับรถเล่นชิลๆ รุ่นนี้รับจบให้คุณได้
ฟิวลิ่งเครื่องยนต์ผมว่าเหมือนขี่ Z400 นั้นล่ะ นุ่มนวล ไม่กระชาก แต่มีกำลังให้ใช้ เอาไปขี่ซิ่งก็พอได้ และจุดที่ผมชอบของเครื่องยนต์จะเป็นเรื่องความร้อนที่เกิดขึ้น ผมสัมผัสได้แค่ช่วงปลายเท้าเท่านั้น และเป็นความร้อนแบบอุ่นๆ เท่านั้น คุณสามารถใส่กางเกงขาสั้นขับ จะใส่รองเท้าแตะขับ ทำได้สบายๆ
อีกเรื่องก็เป็น สลิเปอร์ครัช มันทำให้ครัชนุ่มมาก ไม่ต้องออกแรงอะไรเลย เวลารถติดๆ ช่วยเบาแรงได้เยอะพอสมควร
ระบบเบรก ผมชอบฟิวลิ่งเบรกหลังเป็นพิเศษครับ มันรู้สึกว่าเบรกดีมาก หนึบๆ ติดเท้าดี ส่วนเบรกหน้าฟิวลิ่งมันจะทื่อๆ เล็กน้อยครับ แต่ลองกดหนักๆ ก็เอารถอยู่สบายๆ
ช่วงล่างเซ็ทมากลางๆ ไม่นุ่มไม่แข็งจนเกินไป เวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วในระดับนึ่ง รถก็ไม่มีอาการย้วยให้เห็น
ท่านั่งขับขี่ เรียกว่าเกือบหลังตรง แฮนด์โน้มเข้าหาตัวเรา ที่วางเท้าก็ไม่ได้ยื่นไปข้างหน้ามา เบาะนั่งก็มีขนาดใหญ่ เมื่อรวมกันทำให้ท่านั่งการขับขี่มีความสบายมากๆ สุดท้ายเป็นเรื่องของไฟหน้าที่สว่างมากในเวลาการคืน จุดนี้เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม
สิ่งที่อยากให้ Kawasaki ไปพัฒนาก็มีเช่นกัน
อุปกรณ์ชาร์จมือถือ USB ควรจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถได้แล้ว เพราะ Eliminator400 จะมีอุปกรณ์นี้แค่ในรุ่น SE เพียงเท่านั้น ตรงจุดนี้เชียร์ว่าให้ Kawasaki ควรมีการปรับเปลี่ยนใหม่
ทั้งหมดนี้เป็นรีวิว Kawasaki Eliminator 400 ที่ทาง Boxzaracing ได้สัมผัสขับขี่มา ซึ่งเน้นย้ำอีกครั้งว่า Kawasaki เพิ่งมีการปรับราคาจำหน่ายของรถลง รุ่น Standard ราคาอยู่ที่ 199,000 บาทเท่านั้น ยังไม่นับรวมโปรโมชั่นสุดพิเศษต่างๆ มากมาย
สุดท้ายนี้ สิบปากว่า ไม่เท่ากับไปลองขับด้วยตัวเอง หากใครสนใจก็สามารถไปตัวแทนจำหน่าย Kawasaki ใกล้บ้านได้