หลังจากที่มีกระแสมาสักพัก กับการให้กำเนิดรถ Naked Bike รุ่นใหญ่ ของค่ายรถสายโหดทั้ง 2 ค่าย ที่ค่อนข้างมีความช่ำชองในการสร้างรถมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์สุดเกรี้ยวกราดและมีสมรรถนะสูง โดยในครั้งนี้ BoxzaRacing จะนำ Naked Bike สายโหดที่พึ่งเปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ ระหว่าง Ducati Streetfighter V4 จากดินแดนมักกะโรนี และ Kawasaki Z H2 จากแดนปลาดิบ ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงที่พึ่งจะแกะกล่องกันทั้งสองค่ายเลยก็ว่าได้ จนทำให้ BoxzaRacing อดที่จะนำมาแบทเทิลกันไม่ได้เสียจริงๆ ครับ เพราะทั้งความแรง สมรรถนะ และเทคโนโลยี จัดมาแบบเต็มระบบจนต้องเทียบกันหมัดต่อหมัดเลยทีเดียว และงานนี้ต้องรู้ให้ได้ว่าใครจะเป็นที่สุดของบัลลังก์สุดยอดรถ Naked Bike ที่เพอร์เฟ็คที่สุดแห่งยุค เรามาตัดสินกับแม็ทช์นี้ไปด้วยกันครับ
ชั่งน้ำหนักนักชกก่อนขึ้นเวที
Ducati Streetfighter V4
Ducati Streetfighter S (2009-2015)
Ducati Streetfighter ชื่อนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Naked Bike ระดับตำนานอีกรุ่นหนึ่งของ Ducati เลยก็ว่าได้ เพราะย้อนกลับไปเมื่อปี 2009-2015 ค่าย Ducati ได้สร้างรถมอเตอร์ไซค์ Naked Bike โดยอาศัยพื้นฐานจาก Superbike รุ่นใหญ่อย่าง Ducati 1098 และ Ducati 848 โดยมีเป้าหมายในการสร้างรถที่สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วยิ่งขึ้น แต่ยังอยู่บนพื้นฐานฟิลลิ่งสปอร์ตสายพันธุ์ดิบเถื่อนในชื่อ Ducati Streetfighter 848 และ Ducati Streetfighter S 1098 ในยุคนั้นถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ยากอีกหนึ่งรุ่นเลยทีเดียว เพราะในส่วนของการคอนโทรลรถ ทาง Ducati เล่นเอาเพียงถอดแฟริ่งเปลี่ยนใส่แฮนด์เดิลบาร์ ปรับลดความแรงลงนิดหน่อย นอกนั้นยังคงเป็นสปอร์ตล้วนๆ ทำให้เป็นรถที่โหดสำหรับมือใหม่ไม่เบาเลยทีเดียวครับ พอมาถึงในรุ่น Streetfighter V4 ทาง Ducati ยังคงความโหด ดิบ เถื่อน แต่มาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีมากมาย ที่เข้ามาช่วยในการขับขี่ให้เพอร์เฟ็คยิ่งขึ้น โดยอยู่บนพื้นฐานของ Ducati Panigale V4 สปอร์ตฟูลแฟริ่งคันเก่งของค่ายแดงในขณะนี้
Kawasaki Z H2
Kawasaki Ninja H2
ช็อตนี้เรียกได้ว่า Kawasaki ยังคงคอนเซ็ปต์ความโหดระดับสิบสไตล์ค่ายเขียวกันเลยทีเดียว กับการปลุกกระแสตระกูล Z ให้กลับมาเร่าร้อนอีกครั้ง ด้วยการสร้างรถ Naked Bike รุ่นใหญ่โดยใช้พื้นฐานจาก Exotic Superbike อย่าง Kawasaki Ninja H2 ที่มีความโดดเด่นในด้านขุมพลังที่ติดตั้ง Supercharge มาให้จากโรงงานที่พร้อมจะรีดพลังออกมาให้ไบค์เกอร์ได้กระแทกคันเร่งจนวิญญาณหลุดเลยทีเดียว และการเปิดตัวครั้งนี้ของ Kawasaki Z H2 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีมากมายจากทาง Kawasaki ที่อัดแน่นอยู่ภายใต้รูปลักษณ์อันบึกบึนทรงพลัง งานนี้จะทำให้สาวกค่ายเขียวใจละลายหรือไม่ เราไปติดตามการแบทเทิลครั้งนี้ได้เลยครับ
รูปลักษณ์ โครงสร้าง ความโดดเด่น (Ducati Streetfighter V4)
เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในชื่อ Streetfighter อันเป็นตำนานรถ Naked Bike สายพันธุ์โหด โดยการสร้าง Ducati Streetfighter V4 ครั้งนี้ Ducati ได้มุ่งเน้นรูปลักษณ์หน้าตาภายใต้คาแรคเตอร์วายร้ายแห่งยุคอย่าง Joker เพื่อให้เข้ากับทรวดทรงของรถที่มีความดุดัน โหดร้าย เกรี้ยวกราด ผสมผสานกับเส้นสายความสวยงามสไตล์อิตาลีอย่างชุด Single Side Swing Arm หรือ โปรอาร์ม อันเป็นเอกลักษณ์ของ Ducati ที่เข้ากันกับดีไซน์ของตัวรถได้เป็นอย่างดี และที่ขาดไม่ได้กับจุดเด่นในด้าน Aerodynamic ด้วย Winglet คู่หน้าสองชั้นที่จะมาสร้าง Downforce ให้กับตัวรถเมื่ออยู่ในสถานการณ์การขับขี่อย่างเต็ม Performance ขอบอกเลยว่า Ducati Streetfighter V4 กับการเปิดตัวครั้งนี้จัดหนักจัดเต็มในศักราชใหม่แบบทะลุขีดจำกัดความเร้าใจได้สบายๆ เลยทีเดียว
รูปลักษณ์ โครงสร้าง ความโดดเด่น (Kawasaki Z H2)
Kawasaki Z H2 สุดยอดผลงาน Naked Bike ชิ้นโบว์แดงของ Kawasaki กับการให้กำเนิดภายใต้พื้นฐานขุมพลัง Kawasaki Ninja H2 ผสมผสานกับเส้นสายของ Kawasaki Z900 พร้อมเพิ่มเติมหน้าตาและทรวดทรงให้ดูบึกบึน ดุดัน ทรงพลังมากขึ้น โดยการออกแบบรูปลักษณ์ด้วยโครงสร้างแบบ Trellis ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงทนต่อสภาพการบิดตัวของเฟรมเมื่อรถอยู่ในความเร็วสูง พร้อมติดโลโก้ Sugomi Design เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นรุ่นใหญ่สุดสายในคลาสนี้ ทำให้การผสมผสานของ Exotic Superbike อย่าง Kawasaki Ninja H2 และ Naked Bike สุดเฟี้ยวอย่าง Kawasaki Z900 ทำให้เจ้า Z H2 คันนี้ มาพร้อมกล้ามเป็นมัดๆ และหน้าตาสุดโหดเหมาะกับผู้รักความบึกบึนสุดอิมแพ็ค
ขุมพลัง เทคโนโลยีและความเร้าใจ (Ducati Streetfighter V4)
Ducati Streetfighter V4 มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์สุดเร้าใจ V4 4 ลูกสูบ วางทำมุม 90° ขนาดความจุ 1,103 ซีซี. บล็อคเดียวกันกับ Ducati Panigale V4 แต่ได้รับการปรับจูนพละกำลังให้เหมาะสมกับการใช้งานบนท้องถนนให้คล่องตัวยิ่งขึ้น โดยเจ้า Ducati Streetfighter V4 สามารถเค้นพละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 208 แรงม้า ที่ 12,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 123 นิวตัน-เมตร ที่ 11,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงม้าผนวกกับแรงบิดขนาดนี้ทำเอาสปอร์ตไบค์ก็มีเหวอได้เหมือนกัน แถมทีเด็ดอีกจุดกับพละกำลังกว่า 208 แรงม้า ที่แบกน้ำหนักตัวรถเพียง 178 กิโลกรัม เท่านั้น คุณพระ ! แรงม้าที่เหนือกว่าน้ำหนักคงไม่ต้องสาธยายอะไรมากมายกับฟิลลิ่งที่จะมีคำถามว่ากระแทกคันเร่งแต่ละที ล้อหน้าจะติดพื้นกันไหม ? ด้วยเหตุนี้ในเรื่องของเทคโนโลยีของทาง Ducati จึงได้มีการติดตั้ง Winglet สองชั้นเข้ามาตั้งแต่ออกจากโรงงานเพื่อสร้าง Downforce ที่จะเป็นผลดีเมื่อรถอยู่ในความเร็วสูง จะทำให้ยางหน้าเกาะพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่กับระบบ DTC (Ducati Traction Control) ที่เป็นระบบพื้นฐานในตัว Ducati ทุกรุ่นในปัจจุบัน พร้อมกับระบบการใช้งานในรูปแบบสปอร์ตไบค์ทุกอย่างที่ยกมาจาก Ducati Panigale V4 ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Quick Shifter , Launch Control , รวมไปถึง Mode สำหรับการขับขี่และการปรับเซ็ตโช้คอัพหน้าไฟฟ้าในรุ่นของ Streetfighter V4S อีกด้วยครับ เรียกได้ว่า Ducati Streetfighter V4 คือรถมอเตอร์ไซค์ที่มีความลงตัวในเรื่องของพละกำลังมหาศาลที่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถทำงานควบคู่กันได้อย่างเพอร์เฟ็คครับ
ขุมพลัง เทคโนโลยีและความเร้าใจ (Kawasaki Z H2)
มาถึงในรุ่นพี่บิ๊กเบิ้มจากทาง Kawasaki อย่าง Kawasaki Z H2 ที่พกพาขุมพลังสุดเร้าใจด้วยการใช้เครื่องยนต์บล็อคเดียวกันกับ Kawasaki Ninja H2 แบบ 4 ลูกสูบ แถวเรียง ความจุ 998 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมหมัดเด็ดด้วยการพ่วง Supercharge อัดอากาศอย่างเต็มสตรีมเพื่อความแรงแบบทะลุพิกัด ให้พละกำลังสูงสุดที่ 200 แรงม้า ควบคู่กับเทคโนโลยีในการขับขี่ที่ทาง Kawaski ติดตั้งมาให้เสริมความเร้าใจอย่างต่อเนื่องด้วยระบบ Kawasaki Quick Shifter, Launch Control รวมไปถึง Power Mode ที่จะทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับพลังอย่างแท้จริง ควบคู่กับระบบที่ช่วยในการขับขี่ที่จะมาพร้อมกับความสะดวกสบายและขี่ง่ายยิ่งขึ้นด้วย Kawasaki Traction Control , Cruise Control , Assist and Slipper Clutch , และ Cornering Management Function ที่ประมวลผลร่วมกับเซ็นเซอร์ IMU ที่คาดว่าจะเป็นระบบที่จะเข้ามาจัดการในเรื่องของบาลานซ์ของพละกำลังเครื่องยนต์ให้เข้ากับองศาของการเข้าโค้ง ส่งท้ายเทคโนโลยีล่าสุดของทาง Kawasaki กับหน้าจอสีแบบ TFT ที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Kawasaki Rideology App โดยจะสามารถดูข้อมูลของการขับขี่ที่เกี่ยวกับตัวรถของคุณ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ทาง Kawasaki Z H2 ไม่มีการติดตั้ง Winglet มาเหมือนกับ Ducati Streetfighter V4 ที่จะเข้ามาช่วยเรื่องของ Downforce แต่ถึงอย่างไรนั้น ระบบเทคโนโลยีต่างๆที่ติดตั้งมาให้ก็ถือว่าได้ใจไปไม่น้อยครับ
ช่วงล่างและการควบคุม (Ducati Streetfighter V4)
ในส่วนของช่วงล่างที่บอกได้คำเดียวเลยว่าสมน้ำสมเนื้อกับขุมพลังกว่า 208 แรงม้า เลยทีเดียวโดยในตัว Ducati Streetfighter V4 นั้น จะติดตั้งชุดโช้คอัพหน้าแบบ Up Side Down สามารถปรับเซ็ตค่าได้อย่างละเอียดได้ในระบบ Manual แต่ถ้าจะให้สุดกว่านั้นคือในรุ่น Ducati Streetfighter V4S ที่ติดตั้งโช้คอัพหน้าไฟฟ้า Smart Suspension 2.0 จาก Ohlins ที่สามารถปรับเซ็ตค่าด้วยไฟฟ้าได้ เพียงเข้าเมนูฟังก์ชั่นการปรับเซ็ตโช้คที่หน้าจอเรือนไมล์จอสี TFT สุดล้ำ ตามด้วยชุดปั๊มเบรกหน้า Brembo Stylema ในรูปแบบเดียวกันกับ Ducati Panigale V4 และ V4S เรียกได้ว่าชุดช่วงล่างที่ติดตั้งมาให้กับตัวรถนั้น สามารถรับมือกับขุมพลัง 208 แรงม้าสุดอหังการบล็อคนี้ได้สบายๆ พร้อมกับเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับขี่ที่ครบครันพร้อมที่จะล็อคคอเจ้าม้าศึกตัวนี้ให้อยู่หมัด
ช่วงล่างและการควบคุม (Kawasaki Z H2)
มาถึงยักษ์เขียว Kawasaki Z H2 กันต่อเลยครับกับช่วงล่างที่พร้อมรองรับขุมพลัง Supercharge และทรวดทรงอันบึกบึนโดยทาง Kawasaki ได้มีการติดตั้งชุดโช้คอัพหน้าแบบ Up Side Down ในรุ่น Showa SFF-BP ที่สามารถปรับเซ็ตค่าต่างๆ ได้อย่างละเอียด และตามด้วยชุดปั๊มเบรกจาก Brembo M4.32 ที่จะมารับมือกับความแรงระดับ 200 แรงม้าได้อยู่หมัด แต่มีอีกจุดที่น่าเสียดายเช่นกันคือชุดสวิงอาร์มเป็นสวิงอาร์มคู่ปกติที่มีดีไซน์คล้ายคลึงกับของ Kawasaki Ninja ZX-10R โดยไม่มีการติดตั้งชุด Single Side Swing Arm หรือ โปรอาร์ม แบบ Kawasaki Ninja H2 แต่ก็ถือว่าไม่มีผลกับการใช้งานใดๆ เพราะระบบการขับขี่สุดเร้าใจปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ขี่ก็ถือว่าลงตัวและเอาอยู่สำหรับ Naked Bike ที่ทรงพลังขนาดนี้ครับ
ลงเวทีมาจับเข่าคุยกัน
Ducati Streetfighter V4
จากที่เราได้แบทเทิลกันไปเป็นที่เรียบร้อย รู้สึกว่าทาง Ducati Streetfighter V4 จะมีข้อได้เปรียบมากกว่า Kawasaki Z H2 ในหลายๆ จุดเลยก็ว่าได้ อาจจะด้วยในส่วนของราคาค่าที่ตัวคาดว่าจะเปิดสูงกว่า จึงสามารถติดตั้งอะไหล่ประสิทธิภาพสูงจนไปถึงเทคโนโลยีบางจุดที่เหนือกว่าได้ แต่ทว่าฟิลลิ่งความเป็น 4 ลูกสูบ แถวเรียงเสียงหวานอันเป็นตำนานของแดนปลาดิบนั้น ในตัวของ Kawasaki Z H2 จะทำออกมาได้น่าประทับใจกว่าอยู่แล้ว แถมด้วยการติดตั้ง Supercharge มาให้จากโรงงาน ทำให้สามารถเรียกแรงบิดได้สูงขึ้น ซึ่งในจุดนี้ยังไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ค่ายไหนยัดเทคโนโลยีความแรงระดับนี้ จึงเป็นอีกจุดที่ทำให้ผู้บริโภคหลายๆ คนต้องมีเหลือบมองมาทาง Kawasaki ที่ตอบโจทย์ความเร้าใจในแบบฉบับดิบเถื่อนกันแน่นอนและในส่วนของช่วงล่างนั้นอย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า Ducati Streetfighter V4 นั้น ถูกสร้างขึ้นจากพื้นฐานของ Ducati Panigale V4 ล้วนๆ ทำให้เจ้า Streetfighter V4 ได้รับการถ่ายทอดชิ้นส่วนต่างๆ ที่เป็นเกรดของสปอร์ตไบค์มาเต็มๆ ทำให้ช่วงล่างที่ติดรถมาจากโรงงาน สามารถรองรับกับขุมพลัง 208 แรงม้า ของเครื่องยนต์ V4 บล็อคนี้ได้สบายๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่โมดิฟายเพิ่มเลยก็ว่าได้ผนวกกับระบบและเทคโนโลยีสุดล้ำมากมายที่อัดแน่นมาเต็มลำทำให้ช่วงล่างของ Ducati Streetfighter V4 รวมไปถึงรุ่น V4S น่าจะเหนือกว่า Kawasaki Z H2 อยู่พอสมควร
Kawasaki Z H2
แต่ในส่วนของ Kawasaki Z H2 ช่วงล่างที่ติดตั้งมาให้จากโรงงานนั้น ก็ใช่ว่าจะแย่เสมอไป เพราะทาง Kawasaki มุ่งเน้นไปที่การใช้งานที่ครอบคลุมได้ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานไม่ว่าจะเป็นการขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันจนไปถึงการขับขี่บนสนามแข่ง ช่วงล่างของ Kawasaki Z H2 บวกกับขุมพลัง 200 แรงม้า ก็ถือว่าช่วงล่างเดิมๆที่ให้มาจากโรงงาน สามารถเอาอยู่ได้สบายๆ หายห่วง แต่ถ้าจะให้ใช้งานแบบอยู่หมัดแม่นยำ อาจจะต้องมีการอัพเกรดอะไหล่บ้างเป็นธรรมดาครับ แต่รวมๆแล้วถ้าผู้ใช้งานไม่ซีเรียส ทุกอย่างก็ถือว่าลงตัวสำหรับการใช้งานขี่หล่อๆ ในลุคแบบโหดๆ
ราคาค่าตัว
Ducati Streetfighter V4
Kawasaki Z H2
และนี่คือการแบทเทิลของสุดยอดรถ Naked Bike หน้าใหม่แห่งยุคระหว่าง Ducati Streetfighter V4 ที่ทางอิตาลีได้เผยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 19,990 ยูโร หรือประมาณ 669,219 บาทไทย (ยังไม่รวมภาษีนำเข้า) สำหรับรุ่น Streetfighter V4 และในรุ่น Streetfighter V4S อยู่ที่ 22,990 ยูโร หรือประมาณ 769,652 บาทไทย (ยังไม่รวมภาษีนำเข้า) ก็ถือว่าราคาค่าตัวกับสิ่งที่ให้มาเรียกได้ว่าสมน้ำสมเนื้อครับ ในส่วนของเจ้า Kawasaki Z H2 ราคาค่าตัวอยู่ที่ 16,000 ปอนด์ หรือประมาณ 617,906 บาทไทย (ยังไม่รวมภาษีนำเข้า) ทางผู้เขียนคิดว่าราคาของ Z H2 นั้น น่าจะอยู่ในเรทของ Kawasaki Ninja ZX10R หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้
Ducati Streetfighter V4
Kawasaki Z H2
อย่างไรก็ตามคุณสมบัติต่างๆ ของ Naked Bike สายโหดทั้งสองคันที่เราได้แบทเทิลนำเสนอให้กับผู้อ่านนั้น การตัดสินว่ารุ่นใดเหนือกว่าคงต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจ วิจารณญาณในการอ่านและจุดประสงค์ของการใช้งานจนไปถึงความเหมาะสมในเรื่องของค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคด้วยครับ โดยทาง BoxzaRacing ได้ทำการเปรียบเทียบรถเพื่อเป็นกรณีศึกษา สำหรับผู้ที่กำลังสนใจหาข้อมูลเนื่องจาก Ducati Streetfighter V4 และ Kawasaki Z H2 นับว่าเป็นอีกหนึ่งความแปลกใหม่ที่น่าสนใจของวงการสองล้อยุคใหม่ที่ควรศึกษาครับ และครั้งหน้าเราจะมาแบทเทิลรถรุ่นใดให้ชมกันอีก สามารถติดตามได้ที่ www.BoxzaRacing.com สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน...สวัสดีครับ
