BMW S1000RR 2019 เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา พร้อมเรียกเสียงฮือฮาจากไบค์เกอร์สายแรงได้ทุกหัวระแหง ด้านบวกบ้าง ด้านลบบ้าง ตามความรู้สึกที่เพียงได้พบเห็น ซึ่ง ณ ปัจจุบัน คงมีนักขี่ไม่กี่คนที่เคยได้สัมผัสฟีลลิ่งของ BMW S1000RR โฉมใหม่ อย่างจริงๆ จังๆ แต่วันนี้ทาง MCN เว็บไซต์มอเตอร์ไซค์ชั้นนำจากประเทศอังกฤษจัดมาให้เราได้ชมกันก่อนใคร เจ้าฉลามเจนเนอเรชั่่นใหม่จะให้สมรรถนะที่ดีสมคำร่ำลือหรือไม่...ไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยครับ
BMW S1000RR 2017
การพัฒนาอีกขั้นแห่งวงการซูเปอร์ไบค์ คือ นิยามสั้นๆ ที่ทาง MCN มอบไว้สำหรับ BMW S1000RR 2019 ซึ่งถ้าหากพุดโดยภาพรวมของรถตระกูลนี้แล้ว BMW S1000RR ถือเป็นหนึ่งในสปอร์ตไบค์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการมอเตอร์ไซค์ นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2010 โดยจุดเด่นของสปอรืตตระกูลนี้ อยู่ที่เรื่องของความเร้าใจจากขุมพลังที่สามารถทำแรงม้าได้ถึง 190 ตัว (ในขณะที่คู่แข่งร่วมคลาสทำได้เพียง 160 ตัว) พร้อมระบบอิเล็คทรอนิคส์สุดล้ำที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับความสนุกสนานเร้าใจได้อย่างเต็มอิ่ม โดยยังคงความรู้สึกที่เป็นมิตร หรือขับขี่ได้ง่าย ใช้งานได้บ่อยกว่าสปอร์ตไบค์พันธุ์แท้ที่มีจำหน่ายทั่วๆ ไป จนกระทั่งมาตอกย้ำความสุดยอดในปี 2012 รวมถึงได้รับการปรับโฉมในปี 2015 ซึ่งเป็นที่จดจำของบรรดาสายลั่นขนาดที่ขี่ไปไหนก้ต้องเจอกันทุกไฟแดงเลยทีเดียว
ด้วยความที่เห็นกันมานาน ความสดใหม่เริ่มจางหาย ทางค่าย BMW จึงได้เปลี่ยนโฉมของ BMW S1000RR ไปแบบหมดเปลือก ชนิดที่ว่ามีเพียงแค่ชื่อรุ่นเท่านั้นที่ยังคงเหมือนเดิม โดยเปิดตัวเจนเนอเรชั่นล่าสุดไปเมื่อปลายปี 2018 จุดเด่นของ BMW S1000RR 2019 ก็คือ การออกแบบให้เป็นสปอรืตที่มีน้ำหนักเบา สามารถควบคุมได้ง่ายไม่ต่างกับสปอร์ตคลาส 600 ซีซี. โดยยังคงไว้ซึ่งความเร้าใจในลำดับต้นๆ ของคลาส เพื่อให้พร้อมรบในทุกสถานการณ์ ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาร่วม 10 ปี
ด้านฟีลลิ่งการขับขี่นั้น ทาง MCN ให้ความเห็นว่า BMW S1000RR 2019 ให้ความรู้สึกสบายในการควบคุมมมากกว่าเจนเนอเรชั่นก่อน แต่ยังคงไว้ซึ่งอารมณ์ความสปอร์ตไว้อย่างเต็มอิ่ม ตัวรถมีขนาดที่กะทัดรัด ถังน้ำมันแคบลงและสูงขึ้นเล็กน้อย ให้ความมั่นใจในการหนีบถังในระดับที่ดี และมีน้ำหนักที่เบาจนแทบรู้สึกไม่ต่างกับการควบคุมสปอร์ตในคลาส 600 ซีซี. หากเทียบกับรุ่นก่อนแล้ว รู้สึกได้ทันทีว่าเจนเนอเรชั่นก่อนให้ความรู้สึกอุ้ยอ้ายกว่าอย่างชัดเจน ด้วยน้ำหนัก 197 กก. เบาลงกว่าเดิมถึง 11 กก. (เบาลง 14.5 กก. สำหรับรุ่น M) ซึ่งจาก 11 กก. นั้น เป็นน้ำหนักเครื่องยนต์ที่เบาลงถึง 4 กก. เช่นเดียวกับในส่วนของท่อไอเสีย ทีี่่ทางค่าย BMW เคลมมาว่ามีน้ำหนักที่เบากว่า BMW G310R เสียอีก ซึ่งด้วยน้ำหนักที่เบาลง ส่งผลให้รถมีความคล่องตัวในการเลี้ยว หรือพลิกซ้าย-ขวา อีกทั้งยังสามารถลดการสึกหรอของยางหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ในส่วนของโครงสร้างสำหรับ BMW S1000RR 2019 มีความยืดหยุ่นกว่าเฟรมรุ่นเก่า พร้อมเปลี่ยนชุดช่วงล่างไฟฟ้าใหม่เป็นของแบรนด์ Marzocchi แกน 45 มม. (แทนที่ Sachs) จับคู่สวิงอาร์มแบบ Upside Down สไตล์รถแข่ง ช่วยให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะดีขึ้น สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้อีกระดับ เช่นเดียวกับเซ็ตคาลิเปอร์หน้ารุ่นล่าสุดจาก Hayes ที่ทรงพลังในการเบรก แถมยังให้ฟีลลิ่งในการเลียเบรกที่เนียนกว่า โดยไม่รู้สึกถึงอาการเฟดแม้ใช้งานอย่างหนักหน่วง
ขุมพลังบล็อคใหม่...เบาลง แต่แรงขึ้นอีกขั้น
ขุมพลัง 4 สูบ แถวเรียง พิกัด 999 ซีซี. มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาลง แต่ให้การตอบสนองและพละกำลังอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้ข้อเหวี่ยงที่มีน้ำหนักเบา ทำให้การหมุนในรอบสูงๆ ทำได้อย่างลื่นไหล รอบเครื่องกวาดสู่ Red Line ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการออกแบบทางเดินไอดีและฝาสูบอย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงการทำงานของอาวุธลับอย่างระบบ BMW Shift Cam ช่วยให้ BMW S1000RR 2019 ทำแรงม้าได้สูงถึง 204 ตัว โดยให้กราฟแรงม้าในช่วงรอบกลางที่ค่อนข้างกว้าง แท้จะใช้รอบเพียง 4300 - 8000 รอบ/นาที ก็มีแรงบิดออกมาให้ใช้แบบเหลือๆ ไม่รู้สึกถึงอาการหน่วงหรือหนืด แบบที่มักจะพบเห็นในมอเตอร์ไซค์ตระกูลสปอร์ต ซึ่งช่วยให้การขับขี่บนท้องถนนทำได้อย่างสนุกสนาน เรียกกำลังออกมาใช้งานได้แบบเต็มแรงมากขึ้น และหากเปลี่ยนท่อไอเสียแบบ Full System จะสามารถขยับพละกำลังขึ้นไปได้สูงถึง 215 แรงม้า เลยทีเดียว
หัวใจสำคัญที่ถือเป็นจุดขายของแบรนด์ BMW มาโดยตลอด คงหนีไม่พ้นเรื่องอิเล็คทรอนิคส์ที่มีความโดดเด่น แม้จะเป็นรองคู่แข่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่แต่ละค่ายได้พัฒนาจนล้ำหน้าไปหมดแล้ว แต่การกลับมาในเจนเนอเรชั่นนี้ของ BMW S1000RR 2019 เสมือนเป็นการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยระบบไฟฟ้าอันชาญฉลาดตามสไตล์ม้าศึกแห่งเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ IMU แบบ 6 แกน, Traction Control, ABS, Whellie Control รวมถึงระบบอื่นๆ ช่วยเติมความปลอดภัยให้ผุ้ขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยไม่ลดทอนความเร็วในการขับขี่ลงมา ทำให้สามารถสนุกกับตัวรถได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็นจอสีขนาด 6.5 นิ้ว สุดล้ำ ที่สามารถดูค่าการทำงานและเซ็ตระบบต่างๆ ของตัวรถได้ตามต้องการ ซึ่งหากจะบอกว่า BMW S1000RR 2019 เป็นตัวแข่งในคราบรถบ้าน คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธอย่างแน่นอน
BMW S1000RR 2019 ราคา 15,290 ปอนด์
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก MCN