ถือเป็นปรากฏการณ์ และสร้างประวัติสร้างครั้งยิ่งใหญ่ กับการบุกตลาด Roadster อย่างเต็มตัวของค่าย BMW Motorrad โดยล่าสุดทาง บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ได้พาสื่อมวลชนร่วมเดินทาง เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจ ไปกับรถมอเตอร์ไซค์ Roadster รุ่นใหม่แบบจัดเต็ม ชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย และสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็น BMW G310R, F800R และ S1000R ภายใต้กิจกรรม Roadster Model To Experience กับบททดสอบแรกของน้องเล็ก G310R หลังจากนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
มร. มาร์คุส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย
โดยตามกำหนดการเริ่มต้นขึ้นในช่วงเช้าของวันพฤหัสที่ 21 กันยายน 2560 ณ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นจุดนัดพบของคณะสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ โดยได้รับเกียรติจาก มร. มาร์คุส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวต้อนรับ พร้อมทั้งบรรยายสรุปถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลทางเทคนิค เพื่อให้ทราบ และเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับสมรรถนะของตัวรถ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ทาง BMW Motorrad ได้บรรจุลงใน Roadster ทั้ง 3 รุ่น ก่อนจะเริ่มทดสอบขับขี่จริง
Roadster Model To Experience เร้าใจไปกับ BMW G310R, F800R และ S1000R
สำหรับการทดสอบครั้งนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้คว้าเอาน้องใหม่ในตระกูล Roadster มาหวดก่อน กับ BMW G310R ซึ่งถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกจาก BMW Motorrad ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี. และถือเป็นการเปิดซิงทดสอบครั้งแรกหลังจากนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
BMW G310R
โดยเจ้า BMW G310R นั้น มาพร้อมกับดีไซน์สไตล์ Naked Bike แต่ทางค่ายให้คำนิยามว่า Roadster เน้นการขับขี่ที่คล่องตัว ด้วยตัวรถที่มีน้ำหนักทั้งหมดเพียง 158.5 กก. เท่านั้น ด้านมิติตัวรถมีความยาวที่ 2,005 มม. ความกว้าง 820 มม. และความสูง 1,080 มม. กับขนาดความสูงของเบาะที่ 785 มม. ซึ่งเหมาะกับสรีระของคนไทย และสามารถขับขี่ได้อย่างถนัดมือ ส่วนด้านดีไซน์ของไม่ต้องพูดอะไรกันมาก หล่อ หรู ดูดี มีระดับสไตล์ BMW
เฟรมรถเป็นแบบ Bolted steel frame และด้านหลังแบบ Tubular steel frame โช้คอัพด้านหน้าแบบ Upside Down ขนาด 41 มม. จาก KYB และด้านหลังแบบ Monoshock จาก KYB ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มหลังอลูมิเนียมแบบยาวพิเศษ ที่ทำให้การขับขี่มีความนิ่ง และสมดุลกว่า ผสานกับระบบเบรคที่จัดเต็มจาก Bybre แบบ Radial Mount 4 Pot ที่ด้านหน้า และด้านหลังแบบ 1 Pot พร้อมติดตั้งระบบ ABS ทั้งหน้า-หลัง มาให้พร้อมจากโรงงาน
BMW G310R มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 1 สูบ ขนาด 313 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว 34 แรงม้า
ด้านสมรรถนะขุมพลัง BMW G310R มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 1 สูบ ขนาด 313 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดไฟฟ้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด คลัชท์มือ ให้สมรรถนะสูงสุด 34 แรงม้า ที่ 9,500 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 28 นิวตัน-เมตร ที่ 7,500 รอบ/นาที ซึ่งทางค่ายเคลมว่าทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 145 กม./ชม. (แต่จากทดลองขี่ทำได้ 158 กม./ชม.)
มิติตัวรถกระชับ คล่องตัวทุกการขับขี่
อัตราเร่งตอบสนองได้ดั่งใจ เร้าใจทุกเส้นทาง
สำหรับการทดสอบครั้งนี้ เริ่มจากการขี่บนท้องถนนก่อน โดยเดินทางออกจากสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าไปยังมีนบุรี ซึ่งบางช่วงมีการจราจรที่ติดขัด และถนนค่อนข้างชำรุด แต่ BMW G310R ก็จัดการได้อย่างอยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ที่คล่องตัว (โดดเด่นชัดเจน) กับตัวรถที่มีน้ำหนักเบา และการควบคุมต่างๆ ทำได้อย่างเฉียบคม เรียกได้ว่าจะพลิกรถ หรือจะมุด G310R ก็ตอบสนองได้ดั่งใจ รวมไปถึงเรื่องของอัตราเร่ง ที่ถือว่าทำได้ดีในรอบต้นไปถึงกลาง จังหวะเร่งแซงทำได้อย่างมั่นใจ ส่วนความเร็วปลายนั้น คงต้องลากรอบ ต่อเกียร์ให้เนียนนิดนึง ความเร็วจาก 0-155 กม./ชม. ใช้เวลาประมาณ 1 นาที เห็นจะได้
Instructor ให้คำแนะนำในเรื่องของการเบรคจนระบบ ABS ทำงานอย่างถูกวิธี
ระบบ ABS ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ของ BMW G310R
เมื่อถึงมีนบุรี จะเป็นครอสทดสอบระบบเบรค ABS และการควบคุมรถต่างๆ ซึ่งมีทีมงาน Instructor ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยทางทีมงาน BoxzaRacing ได้ทดลองระบบเบรค ABS ของเจ้า G310R อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นที่เหนือกว่า หากเทียบกับรถในคลาสเดียวกัน โดยระบบ ABS ของ G310R นั้น มีความเสถียร และแม่นยำ ไม่ว่าจะมีน้ำหนักของผู้ขับขี่เท่าไหร่ หรือมีน้ำหนักบรรทุกเพิ่มเท่าไหร่ก็ตาม หากเบรคได้อย่างถูกวิธี จะได้ระยะเบรคที่เท่ากันเสมอ ซึ่งมีระยะเบรคที่สั้นจนน่าประทับใจ ผสานกับช่วงล่างด้านหน้าแบบ Upside Down ของ KYB ขนาด 41 มม. ที่สามารถยุบตัวลง (แต่ไม่ย้วยจนหน้าทิ่ม) ทำให้การหยุดรถทำได้อย่างมั่นใจ
ควบคุมได้อย่างมั่นใจ ระบบช่วงล่างเอาอยู่ทุกสถานการณ์
BMW G310R คล่องตัว น้ำหนักบา พลิกรถได้ตามสั่ง สนุกเร้าใจทุกการขับขี่
หลังจากได้ทดสอบในเรื่องของระบบเบรค ABS กันไปแล้ว ก็ทำการทดสอบในเรื่องของการควบคุม การเลี้ยวในที่แคบ และความแม่นยำของตัวรถ ซึ่งต้องขอบอกตรงนี้เลยว่า BMW G310R เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่สมดุล และคล่องตัว จะพลิกรถเข้าโค้ง S ซ้าย-ขวาต่อเนื่อง ก็พลิกรถได้อย่างว่องไว ด้วยตัวรถที่มีน้ำหนักเบา ระบบช่วงล่างด้านหน้าที่ให้ตัวได้อย่างเฉียบคม รวมไปถึงการเปิดคันเร่งในโค้ง หรือช่วงปลายโค้ง ก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ ไม่มีอาการท้ายสะบัด ซึ่งเป็นผลพวงจากสวิงอาร์มหลังที่ยาว จึงทำให้ตัวรถมีความนิ่ง และสมดุล ทำให้เกิดความสนุกเร้าใจทุกครั้งที่ได้ขับขี่
BMW S1000R พี่ใหญ่ในตระกูล Roadster
หลังจากที่ได้สัมผัสความเร้าใจของน้องเล็กในตระกูล Roadster กันไปแบบจัดเต็มแล้ว ขากลับทางทีมงาน BoxzaRacing จึงขอเปลี่ยนอารมณ์มาหวดพี่ใหญ่อย่าง BMW S1000R กันบ้าง ซึ่งสมรรถนะความแรง และความเร้าใจคงไม่ต้องให้บรรยายกันมาก แค่ลด R มา 1 ตัว แต่ความมันส์ และความสะใจไม่เป็นรองเจ้าฉลาม S1000RR เลยแม้แต่น้อย
BMW S1000R กับขุมพลัง 4 สูบ ขนาด 999 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว 160 แรงม้า
สำหรับ BMW S1000R นั้น มาพร้อมกับขุมพลัง 4 สูบ ขนาด 999 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ และออยคูลเลอร์ ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 80 x 49.7 มม. กำลังอัด 12.0:1 จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด สมรรถนะสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 11,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 112 นิวตัน-เมตร ที่ 9,250 รอบ/นาที ภายใต้น้ำหนักตัวรถที่ 207 กก. ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ระบบ DDC (Dynamic Damping Control), ระบบ DTC (Dynamic Traction Control), Riding Mode Pro, ระบบ Cruise Control และระบบ Gear Shift Assistant (ช่วยเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องบีบคลัตช์) รวมไปถึงระบบทำความร้อนที่แฮนด์ Heated Grips
เร้าใจในทุกย่านกำลัง ผสานระบบช่วงล่าง และเทคโนโลยีความปลอดภัยอันเหนือระดับ
ต้องยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกของทีมงาน BoxzaRacing เหมือนกัน ที่ได้ทดลองขับขี่เจ้า BMW S1000R ซึ่งต้องยอมรับตรงนี้เลยว่า ส่วนตัวแล้วถือว่าเป็น Roadster ที่ให้ฟิลลิ่งการขับขี่ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอัตราเร่ง ที่เผลอขยับข้อมือนิดเดียว ก็พร้อมจะพุ่งทะยาน รวมไปถึงเสียงหวานๆ อันเร้าใจของเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ที่ให้ความรู้สึกที่เร้าใจ รวมไปถึงระบบช่วงล่าง และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่จัดการม้าพยศทั้ง 160 ตัว ได้อย่างอยู่หมัด
การขับขี่ในเมือง หรือการจราจรที่ติดขัด S1000R ก็สามารถมุดได้อย่างคล่องตัว ถึงแม้ตัวรถจะมีน้ำหนักถึง 207 กก. แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องพบเจอกันเป็นประจำ คือ ความร้อนบริเวณตัวถัง (ช่วงหนีบถัง) ซึ่งอาจจะต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างการ์ดเคฟล่ามาช่วยบรรเทาความร้อนนิดหน่อย แต่โดยรวมถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Roadster ที่น่าสนใจ หากคุณชอบความดิบ และความเร้าใจ BMW S1000R คือ ตัวเลือกที่ใจคุณต้องการอย่างแน่นอน
