เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 13 เมษายน 2559 - 11:54

Yamaha YZF-R1 VS MT-10 ขีดสุดแห่งความเร้าใจจากสองรุ่นใหญ่ค่ายส้อมเสียง

Yamaha YZF-R1 VS Yamaha MT-10

 

          อีกหนึ่งคู่ที่น่าจับตามอง สำหรับคู่ไฮไลท์จากทางค่าย Yamaha ที่ได้นำไปจอดโชว์ตัวเป็นสีสันแก่งาน Motor Show 2016 ที่ผ่านมา สำหรับเจ้า Yamaha YZF-R1 รถสปอร์ตพันธ์แท้ที่ชาวไบค์เกอร์ต่างให้การยอมรับกันทั่วโลก และ Yamaha MT-10 รถ Sport Naked Bike น้องใหม่ประจำค่าย และเป็นพี่ใหญ่สุดในตระกูล MT ที่ผลิตขึ้นภายใต้พันธุกรรมเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ ต่างก็มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ทาง BoxzaRacing จึงอยากจะนำข้อมูลของทั้ง 2 รุ่นนี้ มาเปรียบเทียบให้เห็นถึงข้อแตกต่างได้อย่างชัดเจน

          สำหรับการ Battle กันในครั้งนี้ จะบอกว่าเป็นการประชันกันก็คงจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว เนื่องจากทั้ง 2 รุ่น เป็นรถที่ต่างตระกูล และมีสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน หากแต่จะนำมาเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่าง และนำจุดเด่นของทั้ง 2 รุ่น ระหว่าง Yamaha YZR-R1 เจ้าแห่งรถ Sport Bike ในพิกัด 1,000 cc. กับ Yamaha MT-10 รถ Sport Naked Bike น้องใหม่ล่าสุดในพิกัด 1,000 cc. มาหาความแตกต่างที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลให้ชาวไบค์เกอร์ได้พิจารณาก่อนจะตัดสินใจว่ารุ่นใดจะสามารถตอบโจทย์ตัวท่านเองได้ดีกว่ากัน ว่าแล้วก็อย่ารอช้า...ไปชมกันเลย

 

Yamaha YZF-R1

 

          เรามาเริ่มกันที่ตัวแรงแห่งยุค การันตีด้วยแชมป์ MotoGP กันก่อนเลยดีกว่า กับ Yamaha YZF-R1 รถ Sport Bike แบบเต็มขั้น ในโฉมปี 2015 ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ในหลายจุดด้วยกัน โดยเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนจากตัวแฟริ่งที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ ให้มีความเป็นเหลี่ยมเป็นสันดูมีเชฟมากขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมกับไฟหน้า LED คู่ขนาดเล็ก และไฟเดย์ไลท์ LED แบบเป็นเส้นที่ดูโฉบเฉี่ยว อีกทั้งยังเสริมไฟเลี้ยว LED ฝังอยู่ในกระจกมองข้าง ตลอดจนไฟท้ายเรียวยาวแบบ LED อีกเช่นกัน ช่องดักลมด้านหน้าแบบ YZR-M1 แชมป์ MotoGP รุ่นล่าสุด ล้อแมกนีเซียมอัลลอย เฟรมแบบ Aluminum Deltabox พร้อมซับเฟรมหลังแมกนีเซียม ปิดท้ายด้วยสวิงอาร์มอลูมินัม

 

โฉมหน้าสุดเท่ของ Yamaha YZF-R1

 

อกล่างงามๆ ของ Yamaha YZF-R1

 

          สำหรับตัวแฟริ่งของ Yamaha YZF-R1 ได้รับการออกแบบมาให้มีความดุดันทุกส่วนสัด ในส่วนของแผงเรือนไมล์ใช้เป็นแบบ Digital TFT LCD สามารถปรับโหมดแสดงผลแบบ Street และ Track ได้ และยังสามารถปรับสี Background ให้เป็นสีขาว และสีดำได้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลในนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน ในเรื่องของระบบกันสะเทือน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโช้คอัพ KYB โดยด้านหน้ามีขนาดแกน 43 มม. สามารถปรับ Compression, Rebound Damping และ Spring Preload ได้ ส่วนด้านหลังก็สามารถปรับค่าต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน และอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญก็คือ สวิงอาร์มที่เลือกใช้เป็นแบบ Upper Bracing Swing-Arm แทนแบบ Lower Bracing ที่เคยได้ใช้มาในรุ่นก่อนหน้านี้

 

เครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี. 4 สูบ Crossplane CP4 ใน Yamaha YZF-R1

 

          มาดูทางด้านขุมพลังสุดร้อนแรงของเจ้า Yamaha YZF-R1 กันบ้าง โดยเจ้าตัวมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี. เป็นแบบ 4 สูบเรียง Crossplane CP4 ซึ่งมีรูปแบบการจุดระเบิดเช่นเดียวกันกับ YZR-M1 แชมป์ MotoGP ของทาง Yamaha ที่มีแรงบิดออกมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ พร้อมลูกสูบแบบ Forged Aluminum, เพลาข้อเหวี่ยงไทเทเนียม, กระเดื่องกดวาล์วที่ออกแบบใหม่ ห้องเผาไหม้มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0:1 ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่งผลให้ Yamaha R1 มีแรงม้าถึง 200 ตัว สมกับเป็นรถซุปเปอร์ไบค์ที่ได้รับการโหวตให้เป็นรถที่มีสมรรถนะโดยรวมดีเยี่ยมที่สุดจริงๆ

 

Yamaha YZF-R1 กับราคาค่าตัวที่สมน้ำสมเนื้อ 899,000 บาท

 

          ด้านราคาของเจ้า Yamaha YZF-R1 ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับสมรรถนะที่จัดเต็ม โดยมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 899,000 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบราคากับสมรรถนะที่ได้รับ รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบที่เร้าใจขาซิ่ง และการันตีด้วยเทคโนโลยีจากแชมป์ MotoGP ปีล่าสุด ก็ทำให้ Yamaha YZF-R1 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ควรค่ากับการมีไว้ในครอบครอง

 

Yamaha MT-10

 

          เปลี่ยนสไตล์มาดูรถในสไตล์ Sport Naked Bike กันบ้าง กับ Yamaha MT-10 อีกหนึ่งไฮไลท์จากค่ายซ้อมเสียง ที่กำลังจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ โดยล่าสุดทางค่ายได้เผยโฉมเจ้า MT-10 ในงาน Motor Show 2016 เรียกเสียงฮือฮาแก่ชาวไบค์เกอร์ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับเจ้า Yamaha MT-10 มาพร้อมกับเฟรมแบบ Aluminum Deltabox ซึ่งจะเป็นลักษณะเดียวกับ YZF-R1 ส่วนด้านดีไซน์ Yamaha MT-10 มาพร้อมกับสไตล์ที่เป็น Sport Naked Bike แบบเต็มตัว เริ่มจากไฟหน้าทรงดุดันขนาดใหญ่คล้ายหุ่นยนต์ Bumblebee แฮนบาร์ทรงต่ำให้ท่วงท่าการขับขี่ที่คล่องตัว ชุดแฟริ่งด้านข้างมาในสไตล์เปลือยๆ แบบรถ Sport Naked Bike ด้านเทคโนโลยีต่างๆ ก็มีมาให้แบบจัดเต็ม อาทิ ระบบควบคุมล้อหมุนฟรี Traction Control ที่สามารถปรับแต่งได้ถึง 3 โหมด และระบบ Slipper Clutch รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อขับระยะทางไกลอย่าง Cruise Control

 

ไฟหน้าดีไซน์ดุดันขนาดใหญ่คล้ายหุ่นยนต์ Bumblebee

 

เรือนไมล์แบบ LCD พร้อมแฮนด์บาร์ทรงต่ำให้ท่วงท่าการขับขี่ที่คล่องตัว

 

          สำหรับการออกแบบของเจ้า Yamaha MT-10 ก็ถือว่ามาพร้อมดีไซน์ที่ดุดันพอตัวเลยทีเดียว เสริมความหล่อเหลาด้วยเรือนไมล์แบบ LCD ทางด้านช่วงล่างจะใช้ระบบเบรคหน้าแบบ 4 POT แบบ Radial-Mount ซึ่งทำงานควบคู่กับดิสก์เบรคขนาด 320 มม. พร้อมเสริมความมั่นใจด้วยระบบเบรค ABS และล้อเป็นแม็ก Aluminium 5 ก้าน ในส่วนของความจุน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถบรรจุได้ 17 ลิตร

 

ระบบเบรคหน้าแบบ 4 POT แบบ Radial-Mount ซึ่งทำงานควบคู่กับดิสก์เบรคขนาด 320 มม.

 

ขุมพลังเครื่องยนต์ Crossplane แบบ 4 สูบ

 

          Yamaha MT-10 จะใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกับสปอร์ตไบค์พันธุ์ดุอย่าง Yamaha YZF-R1 นั่นก็คือ เครื่องยนต์ Crossplane แบบ 4 สูบ แต่มันก็ได้รับการปรับแต่งให้ในช่วงรอบต่ำและรอบกลางมีพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งาน โดยมีแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 160 ตัว และมีแรงบิดอยู่ที่ 111 นิวตัน-เมตร พร้อมทั้งเทคโนโลยี YCC-T หรือชุดคันเร่งที่ใช้การควบคุมด้วยไฟฟ้า

 

Yamaha MT-10 กับราคาค่าตัวโดยประมาณ 5-6xx,xxx บาท

 

          ในส่วนของราคานั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเจ้า Yamaha MT-10 จะมาพร้อมกับค่าตัวเท่าไหร่ แต่ตามคาดการณ์น่าจะอยู่ระหว่าง 5-6xx,xxx บาท ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่กำลังมาแรง และมีชาวไบค์เกอร์ตั้งหน้าตั้งตารออยู่ไม่น้อยในขณะนี้

 

เปรียบเทียบกันแบบชอตต่อชอต

 

เห็นกันชัดๆ ทุกซอกทุกมุม

 

ตารางเปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐาน Yamaha YZF-R1 กับ Yamaha MT-10

 Yamaha YZF-R1  สเปค รายละเอียดพื้นฐาน  Yamaha MT-10
 4 สูบเรียง Crossplane CP4  เครื่องยนต์  4 สูบเรียง Crossplane CP4
 998 ซีซี.  ปริมาตรกระบอกสูบ  998 ซีซี.
 DOHC 4 วาล์ว/สูบ  ระบบวาล์ว  DOHC 4 วาล์ว/สูบ
 79.0 mm x 50.9 mm  ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก  79 mm x 50.9 mm 
  200 HP  แรงม้า  160.4 HP @11,500 Rpm
 112.4 นิวตันเมตร  แรงบิด  111 Nm @9,000 rpm
  13.0:1  อัตราส่วนการอัด  12 : 1
 Constant Mesh,6-speed  ระบบเกียร์  Manual 6 Speed
 Fuel Injection  ระบบจ่ายน้ำมันเชื่อเพลิง   Fuel injection
สตาร์ทไฟฟ้า(มือ)  ระบบสตาร์ท  สตาร์ทไฟฟ้า(มือ)
คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate  ระบบคลัทช์  คลัทช์มือแบบเปียกMultiplate 
120/70 ZR17M/C (58W)  ขนาดยางหน้า  120/70 ZR17 M/C (58W)
190/55 ZR17M/C (75W)  ขนาดยางหลัง  190/55 ZR17 M/C (75W)
 UpsideDown 43 มม.  โช็คอัพหน้า  UpsideDown 43 มม. 

Swingarm,

(link suspension)
 โช็คอัพหลัง  Swingarm-Link

Hydraulic dual disc

320 มม.

 เบรคหน้า  Hydraulic dual disc ขนาด 320 มม.
 Hydraulic single disc220 มม.  เบรคหลัง   จานดิสก์ขนาด 220 มม. พร้อมระบบเบรค ABS
 2,055 x 690 x 1,150  ยาวxกว้างxสูง  2,095 x 800 ×1,110 มม.
 860 มม.  ความสูงเบาะ  825 mm
 199 kg (รวมของเหลว)  น้ำหนักรถ  210 kg
17 ลิตร  ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง  17 ลิตร
899,000 บาท  ราคาจำหน่าย  ราวๆ 5-6xx,xxx บาท 

 

Yamaha YZF-R1 VS Yamaha MT-10

 

Comment

          สำหรับใครที่กำลังมีความสนใจ และหมายปองรถ Bigbike ในพิกัด 1,000 ซีซี. ใน 2 รุ่น ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Yamaha YZF-R1 และ Yamaha MT-10 ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ถูกผลิตขึ้นเพื่อตอบโจทย์สไตล์การขับขี่ของแต่ละท่านได้อย่างชัดเจน หากใครที่ชื่นชอบความเร็วแบบเต็มขั้น รูปทรงที่มีความเป็นสปอร์ตแมน รวมไปถึงเงินในกระเป๋าที่เมื่อจ่ายแล้ว ขนหน้าแข้งของท่านจะไม่ไหวติง Yamaha YZF-R1 เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนใครที่ชื่นชอบการขับขี่ที่คล่องตัว รูปทรงที่ดูแข็งแกร่งแต่ปราดเปรียว และชื่นชอบรถในสไตล์ Sport Naked Bike แล้วล่ะก็ Yamaha MT-10 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยในขณะนี้ สำหรับการเปรียบเทียบกันในครั้งนี้ คงจะหาผู้ชนะไม่ได้ ต้องถามใจตัวท่านเองว่าชื่นชอบสไตล์ไหนมากกว่ากัน แต่ถ้าหากมองภาพรวมแล้ว Yamaha YZF-R1 ก็ยังคงมีความได้เปรียบอยู่พอสมควร สมกับที่ได้รับการโหวตให้เป็นรถที่มีสมรรถนะโดยรวมดีเยี่ยมที่สุด แต่หาก Yamaha MT-10 เปิดราคามาได้อย่างเร้าใจ รับรองได้ว่าสายซิ่งที่หมายปอง YZF-R1 ก็ต้องมีหวั่นไหวให้กับ MT-10 ไม่น้อยเลยทีเดียว

          นี่คือ การเปรียบเทียบจากข้อมูลบางส่วน เพื่อประกอบการตัดสินใจของไบค์เกอร์ทุกท่าน และในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike สุดเร้าใจคันไหนมาทำการ Battle ให้ชาวสองล้อขาซิ่งทั้งหลายได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันในรอบต่อไปที่ BoxzaRacing ที่นี่...ที่เดียวเท่านั้น สำหรับวันนี้ผมต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook