Royal Enfield Continental GT VS Yamaha SR400 การพบกันของจิ๊กโก๋
สำหรับการเปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike (บิ๊กไบค์) หรือการ Battle ของ BoxzaRacing ในวันนี้ เราจะมาเอาใจชาวไบค์เกอร์สายคลาสสิคกันหน่อย อย่างที่ชาวเรโทรไบค์เกอร์หลายๆ คนคงจะทราบกันมาบ้างแล้ว ว่าภายในงาน Motor Expo 2015 นี้ ได้มีค่ายรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษมาทำการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเมืองไทย อย่างแบรนด์ Royal Enfield (รอยัล เอนฟิลด์) ซึ่งต้องบอกเลยว่ามันได้เข้ามาสร้างความฮือฮาภายในงานไม่น้อยหน้าแบรนด์ดังอื่นๆ เลยทีเดียว
และสำหรับรุ่นที่น่าจับตามองที่สุดของ Royal Enfield ก็แลดูจะเป็นเจ้า Royal Enfield Continental GT ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์ในแบบฉบับของผู้ดีอังกฤษ และวันนี้เราจะมาทำการประชันฝีไม้ลายมือกับเจ้าของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ทรงคลาสสิคในยุคสมัยนี้ นั่นก็คือ Yamaha SR400 ที่ไม่ว่าชาวไบค์เกอร์คนไหนได้เห็นมัน ก็เป็นอันต้องตกหลุมรักทุกคนไป ว่าแต่ว่าใครจะเหนือกว่ากันในด้านไหนบ้าง ตามการ Battle รถมอเตอร์ไซค์จาก BoxzaRacing ของเราในวันนี้มาชมกันเลยครับเพื่อนๆ
เรามาเริ่มกันที่ทางฝั่งของจิ๊กโก๋สุดเท่ห์ จากเกาะอังกฤษกันก่อนเลย เจ้า Royal Enfield Continental GT จิ๊กโก๋จากทวีปยุโรปคันนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความเป็น Retro-Classic แบบเต็มตัวเลยทีเดียว แถมทางรอยัล แอนฟิลด์ยังได้การันตีมาด้วยว่า Continental GT คันนี้เป็นโมเดลที่เบาที่สุด และเร็วที่สุดของทางค่ายอีกด้วย ซึ่งความโดดเด่นของมันก็เห็นจะเป็นในส่วนของการดีไซน์ที่เป็นสัญลักษณ์ของยุค 60 เอาไว้อย่างลงตัว ไฟหน้าทรงกลม เรือนไมล์แบบแยกส่วน 2 ชิ้นสุดคลาสสิค ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นเรโทรและดิจิตอลเข้าไป ส่วนของตัวรถที่ออกแบบมาให้เป็นแนวราบกับพื้น ในสไตล์ Cafe Racer ถือว่าทำได้ถูกใจจิ๊กโก๋หลายๆ คนเลยทีเดียว
ช่วงล่างของ Royal Enfield Continental GT มาพร้อมกับระบบดิสก์เบรคหน้าจาก Brembo (เบรมโบ้) แบบโฟลทติ้งขนาด 300 มม. และด้านหลัง 240 มม. ทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าใช้เป็นแบบ Telescopic (เทเลสโคปิค) ขนาด 41 มม. โดยมีช่วงการยุบตัวสูงสุดอยู่ที่ 4.3 นิ้ว และโช๊คอัพด้านหลังใช้เป็นแบบโช๊คคู่กระบอกแก๊สปรับตั้งค่าแรงกดได้ ของ Paioll และในส่วนของวงล้อมาพร้อมกับขนาด 18 นิ้ว ใช้วัสดุจากอลูมิเนียมสุดเก๋า รัดมาด้วยยางจาก Pirelli Speed Demon แบบไร้ยางใน โดยล้อหน้ามีขนาด 100/90-18, 56 ส่วนล้อหลังมีขนาดขึ้นมาที่ 130/70-18, 63
มาดูในส่วนของเครื่องยนต์กันบ้าง Royal Enfield Continental GT มาพร้อมกับเครื่องยนต์สูบเดี่ยวขนาด 535 ซีซี. ใช้การระบายความร้อนด้วยอากาศ แบบ 2 วาล์ว กระบอกสูบ x ช่วงชักมีอัตราอยู่ที่ 87 x 90 มม. สั่งจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด EFI ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 5 สปีด ในเรื่องของแรงม้าที่มีมาให้นั้น ก็ถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป โดยมีแรงม้าอยู่ที่ 29 ตัวที่ 5,100 รอบต่อนาที และแรงบิด 44 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ซึ่งพละกำลังแบบนี้ ในรถสไตล์คลาสสิคนั้น ถือว่าก็แรงพอตัวอยู่เหมือนกัน
เจ้า Royal Enfield Continental GT คันนี้ได้มีการเปิดราคามาอยู่ที่ 239,900 บาท โดยเจ้าสุดหล่อคลาสสิคคันนี้ จะมีให้ชาวไบค์เกอร์ได้เลือก 3 สีด้วยกัน คือ ดำ แดง และ เหลือง เรียกได้ว่าแต่ละสีนั้น มีความสวยงามและโดดเด่นที่ไม่แพ้กันเลยทีเดียว
มาต่อกันที่เจ้าคลาสสิคไบค์ที่เป็นตำนานในฝั่งบ้านเรากันบ้างดีกว่า กับ Yamaha SR400 แน่นอนว่าการออกแบบของมันนั้นมีความเป็นตัวของตัวเองอยู่สูงมาก ซึ่งจะทำให้ชาวไบค์เกอร์มีความรู้สึกว่าตนเองหลงอยู่ในยุค 70 กันเลยทีเดียว ทั้งเบาะนั่งแบบทรงยาว ตัวถังน้ำมันโค้งมนอันเป็นสัญลักษณ์ของเจ้า SR ไฟหน้าทรงกลมชุบโครเมี่ยม และหน้าปัดเรือนไมล์แบบแยกส่วนอนาล็อกที่มาพร้อมกับดีไซน์แบบ Retro Bike จากแดนอาทิตย์อุทัย
ในส่วนของช่วงล่าง Yamaha SR400 คันนี้มาพร้อมกับระบบกันสะเทือน หรือโช๊คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิคเช่นเดียวกัน ส่วนโช๊คอัพหลังเป็นแบบสวิงอาร์ม พ่วงมาด้วยระบบเบรคทางด้านหน้าแบบดิสก์เบรก และระบบหยุดล้อหลังใช้เป็นแบบดรัมเบรค ทางด้านล้อใช้เป็นแบบซี่ลวดที่ส่งกลิ่นความคลาสสิคออกมาอย่างไม่ขาดสาย และมัดมาด้วยยางหน้าขนาด 90/100-18M/C 54S และยางหลังมีขนาดอยู่ที่ 110/90-18M/C 61S
จิ๊กโก๋จากดินแดนซามูไร Yamaha SR400 คันนี้ใช้เครื่องยนต์แบบ 1 สูบ 4 จังหวะ ปริมาตรกระบอกสูบอยู่ที่ 399 ซีซี. กระบอกสูบ x ช่วงชักมีอัตราอยู่ที่ 87 x 67.2 มม. ด้านแรงม้ามีมาให้ที่ 23.2 ตัว และแรงบิด 27.4 นิวตันเมตร ใช้การระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด ส่งกำลังผ่านเกียร์ 5 สปีด ซึ่งในเรื่องของพละกำลังนั้น ถึงแม้เจ้า Yamaha SR400 จะไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่ แต่มั่นใจได้เลยว่าในเรื่องของความหล่อเหลานั้น ไม่แพ้ใครอย่างแน่นอน
Yamaha SR400 รถมอเตอร์ไซค์ทรงคลาสสิคที่มาพร้อมกับการขับขี่ที่สุดแสนจะง่ายดายคันนี้ ได้กลับมาเปิดตัวพร้อมกับราคาค่าตัวที่ 265,000 บาท ซึ่งราคานี้จะเป็นสีขาว แต่หากใครที่ต้องการจับจองตัวคลาสสิคจริงๆ แล้วล่ะก็ มีสีดำที่เป็นรุ่นพิเศษ โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 285,000 บาท
Royal Enfield Continental GT |
Spec พื้นฐาน | Yamaha SR400 |
4 จังหวะ 1 สูบ | เครื่องยนต์ | 4 จังหวะ 1 สูบ |
535 cc | ปริมาตร กระบอกสูบ |
399 cc |
87 x 90 mm | กระบอกสูบ x ช่วงชัก |
87 x 67.2 mm |
Wet, Multi-plate | ระบบคลัทช์ | Wet, Multi-plate |
29 แรงม้า ที่ 5,100 รอบ/นาที |
แรงม้า | 22.3 แรงม้า |
44 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที |
แรงบิด | 27.4 นิวตัน-เมตร |
- | อัตราส่วน การอัด |
- |
หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI | ระบบสั่งจ่ายน้ำมัน | หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ |
Telescopic |
โช๊คอัพหน้า | Telescopic |
Twin gas charged shock | โช๊คอัพหลัง | สวิงอาร์ม |
ดิสก์เบรค 300 มม. Brembo |
เบรคหน้า | ดิสก์เบรค |
ดิสก์เบรค 240 มม. |
เบรคหลัง | ดรัมเบรค |
100/90-18, 56H | ขนาดยางหน้า | 90/100-18M/C 54S |
130/70-18, 63H | ขนาดยางหลัง | 110/90-18M/C 61S |
760 x 2,060 x 1,070 มม. | กว้างxยาวxสูง | 860 x 2,213 x 1,202 มม. |
184 กก. | น้ำหนักรถ | 174 กก. |
13.5 ลิตร | ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 12 ลิตร |
239,900 บาท | ราคาจำหน่าย |
265,000 บาท |
เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงเลยใช่มั้ยล่ะครับ เพราะว่าทั้ง Royal Enfield Continental GT และ Yamaha SR400 นั้นต่างก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าใครจะชอบแนวไหนมากกว่ากัน ถ้าคุณเป็นคนที่หลงไหลในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น หรืออยากเท่ห์แบบคลาสสิค รวมถึงการหาอะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ที่ทำได้อย่างสะดวก รวดเร็วแล้วล่ะก็ Yamaha SR400 นั้นก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว แต่หากคุณหลงใหลในสไตล์แบบจิ๊กโก๋อังกฤษ ความหล่อเหลาที่ไม่ธรรมดา และชื่นชอบความแปลกใหม่บวกกับราคาที่ต่ำกว่าแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าเจ้า Royal Enfield Continental GT จะต้องสามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างไร้ข้อกังขาใดๆ เลยล่ะ
ส่วนในครั้งหน้านั้น BoxzaRacing ของเราจะนำรถมอเตอร์ไซค์ทรงไหน จากค่ายไหน มาทำการเปรียบเทียบ หรือ Battle ให้เพื่อนๆ ชาวสองล้อได้รับชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันให้ดีเลยนะครับ สำหรับวันนี้เราคงต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ