เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2560 - 10:46

มอเตอร์ไซค์ Dual Purpose คือ รถบิ๊กไบค์ประเภทไหน เหมาะกับนักบิดรูปแบบใด มาหาคำตอบกัน

 

          ถ้าพูดถึงความนิยมของรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ในปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะวัยรุ่น หรือวัยกลางคนก็สามารถใช้งานได้ โดยไม่มีปัญหาในเรื่องความเมื่อยในด้านท่าทางการขับขี่ และสามารถใช้งานได้แทบทุกสภาพถนน นั่นก็คือ รถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose บางคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูกับรถประเภทนี้แน่ๆ เดี๋ยววันนี้ เราจะมาทำความรู้จักรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ประเภทนี้กันครับ ว่าแท้จริงแล้ว มันคือรถบิ๊กไบค์ประเภทอะไรกันแน่ เหมาะกับนักบิดรูปแบบไหน และสามารถใช้งานได้อย่างไร มาทำความรู้จักไปพร้อมๆ กันเลยครับ

 

Ducati Multistrada 1200 S

 

Ducati Multistrada 1200 Enduro

 

          Dual Purpose  เป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการขับขี่ท่องเที่ยว ที่มีระยะทางไกล ต้องขับขี่เป็นเวลานาน และสามารถวิ่งได้ในเส้นทางที่สมบุกสมบันได้ในระดับหนึ่ง เช่น ทางขรุขระ ทางฝุ่น ลุยน้ำตื้น เป็นต้น หลายๆ คนคงจะเริ่มนึกภาพออกแล้วสิครับ โดยรถบิ๊กไบค์ Dual Purpose เราจะเรียกกันให้ได้ยินจนติดหูว่ารถ Adventure นั่นเองครับ แต่แท้จริงแล้วรูปทรงของรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose กับรถบิ๊กไบค์ประเภท Adventure Bike จะมีรูปทรงที่คล้ายกันเป็นอย่างมาก แต่จะมีแค่อะไหล่บางส่วนที่แตกต่างกันออกไปอย่างเช่น Ducati Multistrada ที่เป็นรูปทรงหน้าตาเหมือนกัน แต่จะมีรุ่นแยกย่อยออกไปอีกอย่างเช่น Ducati Multistrada S ที่มีรูปทรงดูลุยๆ แต่อะไหล่ช่วงล่างนั้น เหมาะสำหรับขี่ทางเรียบหรือขับขี่ท่องเที่ยวทางไกล แต่อาจลุยแบบ Adventure ได้บ้าง นี่แหละครับ คือ รถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose กับ Ducati Multistrada Enduro ที่มีช่วงล่างที่เหมาะกับการลุยสไตล์ Adventure โดยเฉพาะสังเกตได้ที่ช่วงล่างและยางของตัวรถเลยครับ พอนึกภาพออกแล้วใช่ไหมครับ กับรถประเภท Dual Purpose ว่าเป็นอย่างไร

 

Honda CB500X

 

Kawasaki Versys 650

 

          ซึ่งในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น หรือวัยกลางคนนิยมกันเป็นอย่างมากกับรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose เพราะเป็นรถบิ๊กไบค์ที่ขับขี่สบาย สามารถวิ่งไปได้แทบทุกสภาพถนน หรือบางคนเลือกที่จะเป็นรถคู่ใจ ขับขี่ท่องเที่ยวทางไกลๆ จนไปถึงการขับขี่ข้ามประเทศได้สบายๆ ซึ่งรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose ที่บ้านเรานิยม และสามารถพบเจอได้ตามท้องถนนในปัจจุบัน เช่น Honda CB500X , Kawasaki Versys 650 , Suzuki V-Strom 650 , Yamaha FJ-09 จนไปถึงรุ่นใหญ่อย่าง BMW R1200 GS กับ Ducati Multistrada 1200 ที่เป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน และสิ่งที่ทำให้ไบค์เกอร์ทั่วโลกหลงไหลรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose นั่นก็คือ ความทนทานของตัวรถทั้งคัน สมรรถนะที่หลากหลายกว่ารถบิ๊กไบค์ทั่วไป

 

BMW R1200 GS

 

          รวมไปถึงความใหญ่ของตัวรถและเครื่องยนต์อันทรงพลัง บวกกับความนิ่มนวลที่สามารถผสานใช้งานกันได้แทบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะขี่ช้าๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศข้างทาง หรืออยากทดสอบพละกำลังของเครื่องยนต์ โดยรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose ส่วนใหญ่จะเน้นเครื่องยนต์ที่มี 2 สูบ ที่เน้นแรงบิดสูงในรอบต่ำ ดูแลรักษาง่าย ซึ่งไบค์เกอร์บางคนต้องการหรือใช้ในยามเดินทางท่องเที่ยวที่ต้องบรรทุกสัมภาระหนักๆ จนไปถึงสถานการณ์ที่ต้องลุยโคลนหรือฝุ่น เพราะ 2 สูบส่วนใหญ่ จะให้พละกำลังในด้านแรงบิดรอบต้นได้สูงกว่า 3 สูบ หรือ 4 สูบ และจะใช้รอบที่ต่ำ จึงเป็นข้อดีการประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย ต่อไปเราจะมาวิเคราะห์รายละเอียดต่างๆ ของรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose กันครับ

 

BMW S1000 XR

 

          ในส่วนของท่วงท่าและฟิลลิ่งในการขับขี่รถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose คือ จะวางตำแหน่งของแฮนด์ไว้คล้ายๆ กับ Naked Bike ที่จะเป็นแฮนด์ที่สูงขึ้นมาเกินจากระดับเบาะนั่ง ทำให้ตัวผู้ขับขี่ไม่ต้องก้มเลย แถมยังมีชิลด์หน้าและแฟริ่งด้านข้างสำหรับกรีดลม แต่ไม่สามารถรองรับความเร็วได้สูงมากเท่า Sport Bike แต่ก็เป็นข้อดี เพราะรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose ในรุ่นที่ผลิตออกมาจำหน่ายในปัจจุบัน จะมีชิลด์หน้าขนาดใหญ่และสูง ที่ไม่ได้ป้องกันแค่ลมปะทะหน้า แต่ยังสามารถป้องกันเศษดิน เศษหิน แมลง มาชนหน้าเราได้เป็นอย่างดี  

 

BMW R1200 GS

 

          ในด้านช่วงล่างรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose จะถูกปรับเซ็ตมาตั้งแต่โรงงานให้มีความเป็นกลางที่สุด ความเป็นกลางในที่นี้ก็คือ ค่าการยุบการคืนตัวหรือความแข็งของสปริงโช้ค จะไม่มากไปหรือน้อยเกินไป เพราะว่ารถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose เป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้แทบทุกสภาพถนน ช่วงล่างจึงต้องถูกปรับเซ็ตให้รองรับทุกสภาพถนนได้ แต่จะมีรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose บางรุ่นโช้คหน้า-หลังที่สามารถปรับเซ็ตเองได้ตามต้องการ แต่ในจุดนี้อาจจะต้องขึ้นกับราคาและสเปคที่แต่ล่ะแบรนด์ให้มาด้วยครับ

 

Yamaha FJ-09

 

Triumph Tiger 800 XRX

 

          มาถึงตัวเครื่องยนต์ ในส่วนเครื่องยนต์ของรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ เป็นหลัก ซึ่งต้องออกแบบให้มีความทนทานเป็นพิเศษ เพราะบางครั้งรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose ที่ใช้งานสำหรับท่องเที่ยวในระยะทางไกลๆ หรือต้องวิ่งโดยใช้เวลานาน ต้องอาศัยความคงทนของเครื่องยนต์เป็นอย่างดี และในบางสถานการณ์อาจต้องบรรทุกสัมภาระค่อนข้างหนักอัตราเร่งของเครื่องยนต์ 2 สูบ ที่มีแรงบิดสูงๆ จะทำให้กำลังของรถแทบไม่ลดลงเลยเพราะเครื่องยนต์ที่เป็น 2 สูบ ส่วนใหญ่นั้น จะขึ้นชื่อด้านแรงบิดในรอบต้นได้เป็นอย่างดีและสามารถทำความเร็วในรอบต่ำได้ดี จึงเป็นผลดีทำให้เครื่องยนต์ไม่ต้องใช้รอบสูงมากเวลาวิ่งทางไกล ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อเครื่องยนต์ทำงานในรอบต่ำจะทำให้ไม่เกิดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ที่สูงมากนัก จึงเป็นเหตุที่รถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose ชอบใช้ครื่องยนต์ 2 สูบ แต่จะมีส่วนน้อยที่ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ และ 4 สูบ เช่น Triumph Tiger 800 XRX จะใช้เครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Triumph อยู่แล้ว นั่นก็คือเครื่องยนต์ 3 สูบ กับ BMW S1000 XR ที่เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ โดยใช้เครื่องยนต์บล็อคเดียวกันกับ BMW S1000 RR รถซุปเปอร์ไบค์ตัวแรงจาก BMW ซึ่งในจุดนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับคอนเซ็ปต์ในแต่ล่ะค่ายด้วยครับ

 

Suzuki V-Strom 650

 

          เป็นยังไงกันบ้างครับ กับรถบิ๊กไบค์ประเภท Dual Purpose รถบิ๊กไบค์ที่สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเส้นทางที่หลายๆ คนหมายปอง กับหลากหลายยี่ห้อให้ไบค์เกอร์ที่สนใจในรถสไตล์นี้ ท่านสามารถไปชมได้ตามโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศได้เลยครับไม่ว่าจะเป็น Honda Bigwing , Yamaha Riders' Club, BMW Motorrad เป็นต้น ในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำเกร็ดความรู้ดีๆ มาฝากแบบไหนอีก รอติดตามกันได้ที่ www.BoxzaRacing.com ได้ที่นี่ที่เดียวครับ สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน…สวัสดีครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook