Honda CBR300R VS Kawasaki Ninja 300 ABS
การเผชิญหน้ากันของสปอร์ตไบค์ในมาดใหม่
เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสร้อนแรงในหมู่ชาวไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์ Bigbike (บิ๊กไบค์) ไซส์เล็กเป็นอย่างมากเลยทีเดียว กับการพัฒนารถจักรยานยนต์ทรงสปอร์ต หรือ Sportbike ของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่แห่งดินแดนซามูไร อย่าง Kawasaki (คาวาซากิ) ที่ส่งมอเตอร์ไซค์ยอดนิยมอย่าง Ninja 300 ABS ออกมารุกตลาดพร้อมกับสีใหม่ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี และทาง Honda (ฮอนด้า) ก็ไม่รอช้า ด้วยการพัฒนาแต่งแต้มสีใหม่ให้แก่ CBR300R มาเอาใจชาวสปอร์ตไบค์ไซส์เล็กเช่นกัน
และวันนี้ BoxzaRacing ของเราจะขอพาเพื่อนๆ มาพบกับการเปรียบเทียบมอเตอร์ไซค์ หรือ Battle ระหว่างมวยคู่เอกของรถมอเตอร์ไซค์ในพิกัด 300 ซีซี. นั่นก็คือ Honda CBR300R กับเจ้า Kawasaki Ninja 300 ABS แต่ว่างานนี้ ใครจะเจ๋งกว่ากันในด้านไหนบ้าง แล้วผลสุดท้ายใครจะอยู่ใครจะไป ตาม BoxzaRacing มาชมกันเลยดีกว่าครับ
เรามาเริ่มกันที่ค่ายปีกนก ที่เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจชาวสองล้อหลายๆ คนกันก่อนเลย กับ Honda CBR300R ซึ่งไม่นานมานี้ เราก็เพิ่งได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวสีใหม่ของเจ้า ซีบีอาร์ 300 อาร์ กันไปหมาดๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเมื่อไหร่ที่มันได้ออกมาโลดแล่นบนท้องถนนแล้วล่ะก็ ทางค่ายคู่แข่งก็อาจจะต้องหาไม้เด็ดออกมาสู้เป็นแน่
สำหรับโฉมใหม่ของ Honda CBR300R มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “Flashing Thrill” ท้าทายทุกสายตาด้วยสีสันใหม่ Lemon Ice Yellow ตัดกับสีดำด้าน Matte Black และสีขาวกราฟิกไตรคัลเลอร์ลายใหม่ที่โฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าจากสีเขียวสดที่เราได้เห็นกันนี้ ทำให้เราเดาได้ไม่ยากว่ามันต้องออกมางัดข้อกับทาง Kawasaki Ninja 300 ABS คู่แข่งตัวฉกาจของตลาดมอเตอร์ไซค์พิกัด 300 ซีซี.
ทางด้านรูปทรงต่างๆ Honda CBR300R จะมาในสไตล์ที่มีความปราดเปรียว พร้อมกับตัวไฟหน้าแบบ Dual Multi Reflector, ท่อไอเสีย Sport Muffler ทั้งยังใช้วัสดุแสตนเลสติดตั้งอุปกรณ์ดูดซับเสียงและแผ่นกันความร้อน พร้อมระบบกันสะเทือนหลังที่ใช้เป็นแบบ Pro-Link® Rear Suspension และยังสามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ ส่วนล้อแม็กซ์มาพร้อมกับขนาด 17 นิ้ว ยางหน้าขนาด 110/70-17 ยางหลังขนาด 140/70-17 และอีกหนึ่งอย่างที่เป็นจุดขายก็คือระบบเบรค ABS สุดล้ำ
มาดูในส่วนของเครื่องยนต์เจ้า Honda CBR300R กันบ้าง โดยสปอร์ตไบค์ไซส์เล็กคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 286 ซีซี. 4 จังหวะ DOHC 4 วาล์ว พร้อมกับระบบหัวฉีด PGM-FI (พีจีเอ็ม-เอฟไอ) ด้านแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 31 ตัวที่ 8,500 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดอยู่ที่ 26.2 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบต่อนาที ใช้การระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด
โดย Honda CBR300R สีใหม่นี้ได้ลงสู่ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศด้วยราคาแนะนำที่ 133,000 บาท ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นราคาที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว สำหรับชาวสองล้อที่หลงรักรถสปอร์ตไบค์ในพิกัดนี้
เรามาต่อกันที่ค่ายสีเขียว ที่เพิ่งได้ทำการส่งตัว Kawasaki Ninja 300 ABS (นินจา 300 เอบีเอส) พร้อมกับลวดลายกราฟฟิคใหม่ สีใหม่ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 30 ปี พร้อมกับรหัสเสริม SE (Special Edition) ที่ติดอยู่บริเวณแฟริ่งด้านข้าง ซึ่งจากกระแสตอบรับก็ถือว่าถูกอก ถูกใจชาวสาวกค่ายจากประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ไปตามๆ กัน
สำหรับการออกแบบ Kawasaki Ninja 300 ABS มาพร้อมกับรูปทรงสไตล์สปอร์ตที่มีเอกลักษณ์จากรุ่นพี่ในตระกูล Ninja ที่เราคุ้นเคยกันดี เสริมความเท่ห์ลงตัวด้วยไฟหน้าคู่แบบสปอร์ตหน้าตาดุดัน และหน้าปัดเรือนไมล์ของเจ้านินจาคันนี้ก็ยังเป็นจอดิจิตอล LCD ที่มีตัวบอกรายละเอียดครบครัน ไม่ว่าจะเป็นตัวบอกระดับน้ำมัน ความเร็ว ระยะทาง นาฬิกา การแจ้งเตือนต่างๆ ที่เติมเต็มความสวยงามด้วยไฟสีขาว LED
ด้านระบบรักษาความปลอดภัยของ Kawasaki Ninja 300 ABS แน่นอนอยู่แล้วว่าระบบเบรคของมันจะต้องเป็น ABS โดยมาพร้อมกับดิสก์เบรคด้านหน้าขนาดใหญ่ 263 มม. และดิสก์หลัง 193 มม. ตัวล้อแม็กซ์เป็นแบบ 10 ก้านในสไตล์ของคาวาซากิ ขนาดยางหน้าอยู่ที่ 110/70-17 M/C และยางหลังขนาด 140/70-17 M/C
ในส่วนของสมรรถนะทางเครื่องยนต์ของเจ้านินจาจอมดุ Kawasaki Ninja 300 ABS คันนี้ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 296 ซีซี. 4 จังหวะ 2 สูบเรียง DOHC 8 วาล์ว ใช้การระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่วนแรงม้าของมันนั้นมีมาให้ถึง 39 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที ด้านแรงบิดอยู่ที่ 27 นิวตันเมตร ที่ 10,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์รีเทิร์น 6 สปีด
เรียกได้ว่ามีดีไม่แพ้กันเลยนะครับ และสำหรับ Kawasaki Ninja 300 ABS กับลวดลายใหม่สุดเท่ห์ ทั้งนี้ราคาของมันก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงกว่าทาง Honda CBR300R อยู่เยอะทีเดียว กับค่าตัวที่ 182,500 บาท แต่สำหรับใครที่หลงไหลในความเร็วสไตล์คาวาซากิแล้วล่ะก็ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
HONDA CBR 300R | รายละเอียดพื้นฐาน |
KAWASAKI NINJA 300 ABS |
4 จังหวะ 1 สูบ |
เครื่องยนต์ |
4 จังหวะ 2 สูบเรียง |
286 ซีซี. | ปริมาตรกระบอกสูบ | 296 ซีซี |
DOHC 4 วาล์ว | ระบบวาล์ว | DOHC 8 วาล์ว |
76 x 63 มม. | ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 62.0 x 49 มม. |
31 แรงม้า ที่ 8,500 รอบต่อนาที | แรงม้า | 39 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที |
26.2 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที | แรงบิด | 27 นิวตันเมตร ที่ 10,000 รอบต่อนาที |
10.7 :1 | อัตราส่วนการอัด | 10.6:1 |
6 เกียร์ | ระบบเกียร์ | 6 เกียร์ แบบรีเทิร์น |
หัวฉีด PGM-FI | ระบบจ่ายน้ำมันเชื่อเพลิง | หัวฉีด 32 มม.x2 พร้อมกับลิ้นผีเสื้อคู่ |
สตาร์ทไฟฟ้า | ระบบสตาร์ท | สตาร์ทไฟฟ้า |
คลัชมือ | ระบบครัช | คลัชมือ |
110/70-17 M/C 54S | ขนาดยางหน้า | 110/70-17 M/C (54S) |
140/70-17 M/C 66S | ขนาดยางหลัง | 140/70-17 M/C (66S) |
แบบเทเลสโคปิค ขนาด 37 มม. | โช็คอัพหน้า | โช้คอัพเทเลสโคปิค ขนาด 37 มม. |
MonoShock โปรลิงค์ปรับ 5 ระดับ | โช็คอัพหลัง | โช้คแก๊สเดี่ยว พร้อมแขนยึดยูนิแทรค ปรับได้ 5 ระดับ |
ดิสก์เบรค คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS | เบรคหน้า | ดิสก์เบรค คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS |
ดิสก์เบรค คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS | เบรคหลัง | ดิสก์เบรค คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS |
2,033 มม. x 720 มม. x 1,119 มม. | ยาวxกว้างxสูง | 2,015 มม. x 715 มม. x 1,110 มม. |
1,378 มม. | ระยะฐานล้อ | 1,405 มม. |
146 มม. | ความสูงใต้ท้องรถ | n/a |
780 มม. | ความสูงเบาะ | 785 มม. |
163 กก. | น้ำหนักรถ | 174 กก. |
13 ลิตร | ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 17 ลิตร |
133,000 บาท | ราคาจำหน่าย | 182,500 บาท |
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับเจ้ารถมอเตอร์ไซค์ Sport Bike ไซส์เล็กทั้ง 2 รุ่นที่เรานำมา Battle กันให้ได้ชมในวันนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าทั้งสองค่ายต่างก็มีจุดเด่นที่คล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก แต่หากใครที่ชื่นชอบในด้านสมรรถนะทางเครื่องยนต์ที่แรงกว่า มันส์กว่า ก็คงจะต้องหันไปมอง Kawasaki Ninja 300 ABS ที่อาจจะได้เปรียบในด้านนี้อยู่พอสมควร แต่หากคุณไม่ได้ซีเรียสในเรื่องของความแรงอะไรมากนัก เน้นการใช้งานที่สะดวกสบายมากกว่า ก็คงต้องเป็น Honda CBR300R ที่อาจจะโดนใจมากกว่า แถมราคาของมันยังต่ำกว่าอยู่ถึงเกือบ 50,000 บาทเลยทีเดียว ก็ต้องยอมรับว่าในเรื่องของราคานั้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลนะครับ
ส่วนครั้งหน้า BoxzaRacing ของเราจะนำรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike คันไหนมาทำการเปรียบเทียบ หรือ Battle ให้เพื่อนๆ ชาวสองล้อขาซิ่งได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันให้ดีเลยนะครับ เพราะไม่แน่ว่าในการประลองครั้งหน้านั้น เราอาจจะนำรถที่คุณกำลังจะตัดสินใจซื้อก็เป็นได้ และในวันนี้เราคงต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่โอกาสหน้า...สวัสดีครับ