Honda NX500 หนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของฮอนด้า ที่เชื่อว่าใครหลายคนกำลังสนใจกันอยู่ไม่น้อยแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาดีไซน์ใหม่ การเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ ตลอดจนมีการเพิ่มอุปกรณ์ช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ เข้ามา ซึ่ง Boxzaracing มีโอกาสได้ทดสอบขับขี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างอยู่ในบทความนี้อย่างแน่นอน
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรือกระแสเปลี่ยนไป กล้าพูดได้เลยว่า NX500 จะเป็นรถบิ๊กไบค์ที่ขายดีที่สุดในไทยอย่างแน่นอน ซึ่งจากที่ได้สัมผัสขับขี่ในระยะทางประมาณหนึ่ง ไม่ว่าจะถนนดำและทางลุย พูดได้ว่ามันเป็นหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์ที่อเนกประสงค์ในการขับขี่รุ่นหนึ่ง
ภาพรวมของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เรียกได้ว่ามีหลายจุดหลายตำแหน่ง เริ่มจากดีไซน์ใหม่ทั้งคัน มีการเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขับขี่ รวมถึงการปรับน้ำหนักของวงล้อให้เบาลงกว่าเดิม โดยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการควบคุมการขับขี่อย่างปฏิเสธไม่ได้อย่างแน่นอน
เริ่มกันที่ดีไซน์การออกแบบ โดย Honda ได้นิยมถึง NX500 ว่าเป็น Modern Street Adventure รถจะดูมีความโฉบเฉี่ยวที่มากขึ้น มีการตัดปากนกใต้ไฟหน้าออกไป ส่วนชิวหน้ามีการออกแบบให้ทำงานดีขึ้น สังเกตจากการวางตำแหน่งชิวหน้าว่าอยู่ในระนาบเดียวกับไฟหน้า ตรงจุดนี้จะช่วยลดแรงลมที่มาปะทะผู้ขับขี่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ถ้าใครกังวลว่าจะร้อนเพราะลมไม่โดนตัวเวลาขับขี่ ก็มีการออกแบบให้มีช่องให้ลมสามารถเข้ามาได้ในระดับที่พอดี
ดีไซน์ไฟหน้า ไฟท้ายแบบใหม่ ซึ่งจะเหมือนกับไฟของ Hornet500 นั่นล่ะ นอกจากนี้ Honda ได้ใส่ปีกที่เรียกว่า Cowing ซ่อนไว้ตรงบริเวณด้านหน้าของรถทั้งซ้ายและขวาอีกด้วย ซึ่งปีกจะเข้ามาช่วยจัดการลมที่มาปะทะกับตัวรถให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการขับขี่ด้วยความเร็วสูงก็จะสร้างแรงกดที่จะทำให้รถทรงตัวได้ดีขึ้น
ปีก Cowing
ในส่วนเครื่องยนต์สองสูบเรียง 471 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 47 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 43 นิวตันเมตร พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ซึ่งทาง Honda ได้มีการปรับปรุงกล่อง ECU ใหม่ ทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดที่เพิ่มในช่วงรอบต้น แต่ภาพรวมอื่นๆ ของเครื่องยนต์ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิม
กราฟกำลังเครื่องยนต์ของซีรีส์ 500
เครื่องยนต์สองสูบเรียง 471 ซีซี.
จากที่ได้ทดสอบขับขี่เป็นระยะเวลาประมาณนึ่ง ไม่สามารถรับรู้ถึงความแตกต่างที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์บล็อกนี้ของทาง Honda ถือว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว เครื่องยนต์มีความนุ่มนวล มีความสมูท ให้กำลังที่พอดี ผู้ขับขี่จะรู้สึกว่าสามารถควบคุมได้
โดยจากที่ลองขับขี่ทั้งทางปกติ และการลุยในเส้นทางฝุ่น เรียกได้ว่าไม่มีอะไรน่ากังวลใจในการขับขี่แม้แต่น้อย ขับง่าย ควบคุมง่าย ทำอะไรก็ดูง่ายไปหมด
ทั้งนี้มีการใส่เทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่อย่างทางระบบ Traction Control System เข้ามา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในซีรีส์ 500 ที่จำหน่ายอยู่ในไทย และระบบ Traction Control System สามารถเปิด/ปิดได้ โดยระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อการหมุนของล้อเกิดความไม่สมมาตรขึ้น
จากการที่ทดลองขับขี่ในทางฝุ่น แล้วเปิด Traction Control System ไว้ เรียกได้ว่าระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิ์มาก ซึ่งจริงๆ เวลาขับขี่ทางฝุ่นทางลุย จำเป็นต้องปิดระบบแทรคชี่นคอนโทนก่อน
และเมื่อได้ปิด Traction Control System เรียกได้ว่าเหมือนได้ NX500 คันใหม่มาขับขี่เลยทีเดียว เท่ากับว่าเทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแต่ว่าการใช้งานจะขึ้นอยู่กับเส้นทางการขับขี่เป็นหลัก
ในส่วนของล้อแม็ก ถือว่าเป็นอีกไฮไลท์สำคัญอย่างหนึ่งของ NX500 ก็ว่าได้ เพราะ Honda ได้รีดน้ำหนักล้อแม็กให้เบาลงจากล้อแม็กเดิมถึง 1.5 กิโลกรัม
ล้อแม็กดีไซน์ใหม่ของ NX500
ล้อแม็กเก่าที่อยู่ใน CB500X
หากมองผ่านๆ คุณแทบจะไม่เห็นถึงความแตกต่างของล้อแม็กเก่าและใหม่อย่างแน่นอน เพราะดีไซน์การออกแบบยังคงเหมือนเดิม แต่มีการลดจำนวนก้านล้อแม็กลงให้เหลือเพียง 5 ก้านเท่านั้น ซึ่งจากเดิมจะมีทั้งหมด 8 ก้าน
เมื่อน้ำหนักวงล้อที่เบาลง และเป็นน้ำหนักที่อยู่ใต้ระบบกันสะเทือน เรียกได้ว่ามันส่งผลต่อการควบคุมอย่างแน่นอน การควบคุมจากสามารถทำง่ายขึ้น โดยเฉพาะเวลาขับขี่ในทางฝุ่นจะเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ Honda NX500 จะมาพร้อมหน้าจอเรือนไมล์ TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่สามารถควบคุมสั่งการได้จากสวิตช์แฮนด์ด้านซ้าย ซึ่งจอ TFT แสดงข้อมูลครบถ้วน และสามารถปรับแต่งพื้นหลังได้ จะให้พื้นหลังเป็นสีขาว หรือสีดำ และแบบออโตก็สามารถทำได้ ที่สำคัญเห็นข้อมูลต่างๆ ในหน้าจอชัดเจน ไม่ว่าแสงแดดจะแรงแค่ไหนก็ตาม
อีกทั้งยังมีการใส่ระบบ RoadSync เข้ามาให้ใช้เพิ่มเติมอีกด้วย โดยจะทำงานรวมกับหน้าจอ TFT ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อมือถือสมาร์ตโฟนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ รองรับทั้งระบบแอนดรอยด์และระบบ IOS ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่มากขึ้น
หน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว
หนึ่งเทคโนโลยีที่ใส่เพิ่มเติมเข้ามาในซีรีส์ 500 ก็คือ ระบบ Emergency Stop โดยเมื่อมีการเบรกกะทันหันด้วยความเร็วที่มากกว่า 50 กม. ขึ้นไป สัญญาณไฟฉุกเฉินก็จะทำงาน เพื่อแจ้งเตือนให้รถที่ขับตามหลังรับรู้
ทั้งหมดนี้เป็นไฮไลท์ของ Honda NX500 ที่มีความเปลี่ยนแปลงไปจาก CB500X ในส่วนของโช้คหน้าเป็นแบบหัวกลับ ของ Showa รุ่น SFF-BP ขนาดแกน 41 มม. ทำงานรวมกับโช้คหลังเดี่ยวปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ สำหรับระบบเบรกหน้าให้เป็นดิสก์คู่ ที่จับคู่กับคาลิเปอร์เบรก 2 ลูกสูบ ส่วนเบรกหลังคาลิเปอร์เบรกลูกสูบเดียว และมีระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้าและหลังเป็นมาตรฐาน
Showa SFF-BP
ระบบดิสก์เบรกหน้า/หลัง
ในส่วนของการทดสอบขับขี่ทั้งทางดำและทางฝุ่น ยังคงยืนยันว่าเครื่องยนต์บล็อก 500 ของฮอนด้า ยังคงเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ แม้จะมีการปรับกล่อง ECU ใหม่เพื่อให้มีกำลังแรงบิดเพิ่มขึ้นในช่วงรอบต้นก็ตาม โดยฟิลลิ่งเครื่องยนต์มีความนุ่มนวล มีความสมูทเป็นอย่างมาก ตรงจุดนี้เชื่อว่าใครที่ได้ลองขับขี่คงจะรู้สึกแบบเดียวกัน
คุณจะรู้สึกถึงการควบคุมกำลังเครื่องยนต์ได้ ทำให้รู้สึกสนุกในการขับขี่นั้นเอง เรื่องของกำลังเครื่องยนต์ที่มีให้ใช้งาน ก็มีให้ใช้อย่างเพียงพอก็ว่าได้ ไม่ว่าจะขับขี่ถนนดำหรือการลุยในทางฝุ่น
ด้วยความเป็นรถทัวริ่งแอดเวนเจอร์ที่จะเน้นใช้งานบนถนนดำเป็นหลัก ท่านั่งในการขับขี่เรียกว่าสบายสุดๆ ซึ่งชิวหน้าของ NX500 มีการปรับให้มีขนาดใหญ่ ทำให้ลมที่มาปะทะโดนตัวลดน้อยลงไปพอสมควร ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ระยะทางไกลอย่างแน่นอน
อ่านข้อมูลอื่นเพิ่มเติม
เรื่องของระบบกันสะเทือนและระบบเบรก เรียกได้ว่ายกมาจาก CB500X ซึ่งประสิทธิภาพความสามารถเป็นอะไรที่น่าพอใจอยู่แล้ว ตัวโช้คทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนดำปกติ รวมไปถึงการลุยในทางฝุ่น การข้ามร่องถนนขนาดเล็กๆ การยุบการคืนตัวของโช้คทำตรงจุดนี้ทำได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ เช่นเดียวกับระบบเบรกที่ได้ลองเบรกหนักๆ ก็เอาอยู่มั่นใจไม่มีอาการเหวอแต่อย่างใด
ทั้งหมดคือภาพรวมของ Honda NX500 โฉมปี 2024 ที่ทาง Boxzaracing ได้มีโอกาสทดลองขับขี่ในระยะทางประมาณหนึ่ง โดยราคาค่าตัวอยู่ที่ 227,900 บาท ซึ่งใครที่สนใจสามารถไปลองสัมผัสรถคันจริงได้ที่ Honda BigWing ทุกสาขาทั่วประเทศ
