หนึ่งในรถบิ๊กไบค์สไตล์ที่กำลังเป็นที่นิยมของไบค์เกอร์ในยุคนี้ ต้องขอยกให้รถแนว Naked Bike ไปเลยครับ โดยแต่ละค่ายชั้นนำก็ต่างเปิดตัว Naked Bike ในหลายๆ พิกัดมาให้ผู้ใช้งานได้เลือกสรรค์ตามความต้องการและความเหมาะสม ซึ่งครั้งนี้ BoxzaRacing ในช่วง Battle เราจะมาพูดถึงคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Naked Bike คลาส 900 สุดโหดแห่งศักราชนี้เลยก็ว่าได้ กับ Yamaha MT-09 และ Kawasaki Z900 2020 ที่ทั้งคู่ต่างพกพาความโดดเด่น ทั้งในด้านความดุดัน รูปทรง และพละกำลังรวมไปถึงเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย งานนี้สาย Naked Bike ห้ามพลาดเลยทีเดียวครับ
Yamaha MT-09
เรามาเริ่มกันที่ Yamaha MT-09 กันก่อนเลยครับ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Naked Bike ที่ห้าวสุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ กับความโดดเด่นในด้านขุมพลังสุดกระชากวิญญาณ ที่เล่นเอาผู้ที่ไม่เคยสัมผัสมีอาการเหวอมานักต่อนักแล้ว ซึ่ง Yamaha MT-09 ได้เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอย่างจริงจัง ครั้งแรกเมื่อปี 2014 หรือเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว ในรหัสแรกคือ FZ-09 และยุคนั้น มาในรูปทรงที่เรียกได้ว่าเฟี้ยวใช่ย่อย มาถึงปี 2015 ได้รับการเปลี่ยนรหัสเป็น MT-09 จนถึงโมเดลปัจจุบันและเป็นที่รู้จักของไบค์เกอร์ผู้หลงใหลในความทรงพลังของเครื่องยนต์ CP3 อันเป็นเอกลักษณ์ของ Yamaha MT-09 เลยทีเดียว
Kawasaki Z900 2020
Kawasaki Z900 รถ Naked Bike สุดหล่อของค่ายเขียว ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่โมเดลแรกอย่าง Kawasaki Z800 ที่ครองใจไบค์เกอร์มาแล้วนับไม่ถ้วน ด้วยรูปทรงสุดบึกบึน กล้ามเป็นมัด และภาพลักษณ์สุดโหดที่ไบค์เกอร์เมืองไทยต่างขนานนามว่า "เจ้าแรด" ที่มาจากคาแรคเตอร์ที่ดุร้ายอันเป็นอุปนิสัยของแรด จนกระทั่งมาถึงปี 2017 Z800 ได้มีการพัฒนาอัพเกรดครั้งใหญ่และได้เปลี่ยนโฉมมาเป็น Kawasaki Z900 ในที่สุด เรียกได้ว่ากระแสตอบรับยังคงดีเลิศเช่นเคยจากกลุ่มผู้หลงใหลในตระกูล Z และล่าสุดใงาน EICMA 2021 ค่ายเขียวเปิดตัว Kawasaki Z900 ได้มีการพัฒนาความล้ำยุคของเทคโนโลยีขึ้นไปอีก ซึ่งพร้อมจะปะทะกับคู่แข่งในคลาสเดียวกันเลยก็ว่าได้ และจะเป็นอย่างไรนั้น ตามไปชมการ Battle ในครั้งนี้ได้เลยครับ
รูปลักษณ์และความโดดเด่น (Yamaha MT-09)
ที่สุดของรูปลักษณ์ประจำตัว Yamaha MT-09 ที่หลายๆ คนพอจะมองออก นั่นคือ ความปราดเปรียวของสรีระตัวรถ ที่บ่งบอกถึงการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ขับขี่ที่ต้องการความคล่องตัวสูง โดย Yamaha MT-09 จะมีความเป็นรถแนว Motard อยู่เล็กน้อย จนหลายๆ คนต่างนิยามว่าเป็นรถแนว Naked Motard กันเลยทีเดียว และในโมเดลล่าสุดนั้น อีกหนึ่งจุดเด่นนั่นก็คือ ไฟหน้า LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยวสุดมาดเท่ห์เสมือนอัศวินรัตติกาล ในเฉดสีดำล้วนและมีการย้ายตำแหน่งไฟเลี้ยวจากโฉมเก่าที่เป็นเหมือนหูติดตั้งอยู่ข้างไฟหน้า ให้ย้ายมาอยู่ตำแหน่งแฟริ่งด้านข้างแทน
ในส่วนของด้านท้าย Yamaha MT-09 โมเดลล่าสุด ได้ทำการเปลี่ยนไฟท้าย LED ใหม่จากรูปแบบเดิมที่เป็นแนวยาวมาเป็นไฟท้ายรูปทรงตัว M และมีความเฉียบแหลมให้อารมณ์สปอร์ต ตามด้วยบังโคลนหลังรูปแบบแขนเดี่ยวสุดเฟี้ยว Mounted Licence Plate Holder หรือกันดีด ที่ฉีกแนวไม่เหมือนใครในคลาส พร้อมกับย่นขนาดท้ายให้สั้นลงกว่าเดิม 30 มม. เพื่อให้รูปทรงของตัวรถดูมีความกระชับมากขึ้น ทำให้ Yamaha MT-09 เป็นรูปที่มีรูปทรงน่าขับขี่ไม่เบา ด้วยความกะทัดรัด ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป และอีกสิ่งที่เป็นจุดเด่นคือ น้ำหนักของตัวรถรวมของเหลวเพียง 193 กิโลกรัม เท่านั้น เมื่อเทียบกับหลายๆคลาสและหลายๆ รุ่นแล้ว ถือว่า Yamaha MT-09 คือ Naked Bike ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ
รูปลักษณ์และความโดดเด่น (Kawasaki Z900 2020)
มาถึงคู่ปรับในพิกัดเดียวกันอย่าง Kawasaki Z900 2020 กับการปรับโฉมอีกครั้งโดยเปิดตัวในงาน EICMA Motorcycle Show 2019 และเรียกได้ว่าเสริมความล้ำยุคผสมผสานกับความดุดันขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว เริ่มที่ทรวดทรงยังคงใช้รูปแบบเดิมที่มีการผสมผสานระหว่าง Z1000 และ Z800 แต่ในส่วนของไฟหน้าจากโมเดลก่อนหน้าที่เป็นไฟ Multi Reflector ทั่วไป มาในโมเดล 2020 Kawaski Z900 ได้ทำการอัพเกรดเป็นไฟหน้า LED ดีไซน์สุดดุดันเป็นที่เรียบร้อย และขอบอกเลยว่าเป็นชุดโคมไฟหน้า LED ที่มีรายละเอียดไม่เบาเลยครับ ตามด้วยชุดแฟริ่งตัวถังที่บอกไว้ว่าถึงจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในโมเดล 2020 แต่ก็คงคอนเซ็ปต์ความดุดัน บึกบึนของตระกูล Z ไว้อย่างเต็มระบบ แต่ในโมเดล Z900 ตัวถังน้ำมันได้รับการดีไซน์ใหม่ให้มีความปราดเปรียว กระชับมากขึ้น เพื่อให้ผู้ขี่ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและคล่องตัวกว่าเดิม รวมไปถึงเฟรมถักรูปแบบใหม่ ที่ให้ความโดดเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่เบาลงกว่าตัว Kawasaki Z800 หลายขุม
และที่ขาดไม่ได้กับไฟท้ายดีไซน์ตัว Z อันเป็นเอกลักษณ์บ่งชี้ว่าเป็นตระกูล Z อย่างแท้จริง ควบคู่กับท้ายดีไซน์ใหม่ ที่มีความปราดเปรียวมากขึ้นทำให้มุมมองของตัว Kawasaki Z900 มีความเป็นสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม และถือว่าเป็นการพัฒนาที่ตอบโจทย์ให้กับสาวกตระกูล Z คือ Kawasaki Z900 มีน้ำหนักตัวที่เบาลงในระดับหนึ่ง จากที่ในตัวโมเดลที่แล้วอย่าง Kawasaki Z800 ไบค์เกอร์หลายๆท่านได้มีการคอมเม้นกันถึงในเรื่องของน้ำหนักตัวรถที่หนักจนเกินไป ทำให้ผู้ขับขี่ที่มีสรีระที่ตัวไม่ใหญ่ถือว่าเป็นอุปสรรคไม่เบาเลยทีเดียว จึงเรียกได้ว่า Kawasaki Z900 เป็น Naked Bike ดีไซน์สุดโหด ขี่ไปไหนใครก็บอกว่าหล่อ จนทำให้เป็นรถ Naked Bike ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของหลายๆ คนเลยทีเดียวครับ
ขุมพลัง เทคโนโลยีและความเร้าใจ (Yamaha MT-09)
ในส่วนของขุมพลังอันโดดเด่นที่เรียกได้ว่า คือ พละกำลังสุดอหังการจนเป็นที่ประจักษ์สายตาให้กับไบค์เกอร์มาแล้วนับไม่ถ้วน ด้วยบล็อคเครื่องยนต์ Crossplane CP3 ขนาด 847 ซีซี. 3 ลูกสูบ DOHC 12 วาล์ว โดยให้พละกำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 10,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุดถึง 87.5 นิวตันเมตร ที่ 8,500 รอบต่อนาที เสริมความเร้าใจอย่างต่อเนื่องด้วยการติดตั้งระบบ Quick Shifter เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ไม่ให้เสียจังหวะ และระบบ Assist & Slipper Clutch เรียกได้ว่าจุดนี้โดนใจไบค์เกอร์หลายๆ คน
ตามด้วยระบบเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับขี่ที่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน เริ่มที่โหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกถึง 3 โหมดไม่ว่าจะเป็นโหมด A ที่พร้อมปล่อยพละกำลังเต็มสูบ, โหมด STD ให้พละกำลังปานกลาง และโหมด B ที่ให้พละกำลังสมูธที่สุดเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองที่จราจรติดขัดหรือสถานการณ์ถนนพื้นเปียก ตามมาด้วย Traction Control ที่สามารถเลือกการตอบสนองได้ถึง 2 ระดับและ ปิด ตามความเหมาะของการใช้งาน ควบคู่กับระบบเบรก ABS ที่เป็นระบบมาตรฐานของรถบิ๊กไบค์ในปัจจุบัน เรียกได้ว่า Yamaha MT-09 ในโมเดลปัจจุบัน ถูกพัฒนาให้เป็นมิตรกับผู้ขี่มากขึ้น ให้ควบคู่ไปกับความดิบเถื่อนบ้าพลังในแบบฉบับ Master of Torque ได้อย่างเต็ม Performance
ขุมพลัง เทคโนโลยีและความเร้าใจ (Kawasaki Z900 2020)
มาถึงพ่อหนุ่มกล้ามโต Kawasaki Z900 2020 ที่มีขุมพลังสุดโหดไม่แพ้กันในบล็อค 4 ลูกสูบ ขนาด 948 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ให้พละกำลังสูงสุด 125 แรงม้า ซึ่ง Kawasaki Z900 2020 ยังคงใช้เครื่องยนต์บล็อคเดิมกับโมเดลก่อนหน้านี้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบล็อคเครื่องยนต์ที่ลงตัวไม่เบาเลยทีเดียว โดยในโมเดล 2020 ได้มีการเพิ่มโหมดการขับขี่เข้ามาให้ผู้ขี่ได้เลือกใช้งานถึง 3 โหมด และสามารถเลือกโหมดย่อยเข้าไปอีกในฟังก์ชั่น Power Modes ที่จะทำหน้าที่ในการควบคุมพละกำลังเครื่องยนต์ในแต่ละโหมด ควบคู่กับ Traction Control ที่มีเพิ่มเข้ามาอีกเช่นกันในโมเดล 2020
โดยระบบทั้งหมดจะแสดงผลผ่านหน้าจอสี TFT สุดล้ำรูปแบบใหม่ที่ทาง Kawasaki ได้นำมาติดตั้งเข้ากับ Z900 ปี 2020 เรียกได้ว่าเรือนไมล์สุดล้ำขนาดนี้ โดนใจวัยรุ่นสาย Z ไม่เบาเลยทีเดียว พร้อมทีเด็ดกับการเพิ่มระบบการเชื่อมต่อ Smart Phone โดยใช้ Bluetooth ด้วยแอปพลิเคชั่น Kawasaki Rideology เพื่อที่จะทำหน้าที่แสดงผลแจ้งเตือนค่าและสถานะต่างๆ ของตัวรถผ่านทางหน้าจอ Smart Phone และหน้าจอ TFT ได้อย่างสะดวก ถือว่าเป็นฟีเจอร์ใหม่ในคลาส 900 ที่น่าสนใจเลยก็ว่าได้ครับ
ช่วงล่างและการควบคุม (Yamaha MT-09)
ในเรื่องของช่วงล่างและการควบคุม จุดประสงค์หลักประจำตัวของ Yamaha MT-09 คือ คอนเซ็ปต์ของตัวรถถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว พร้อมกับการติดตั้งช่วงล่างประสิทธิภาพสูงมาให้จากโรงงานเริ่มที่โช้คหน้าแบบ Up Side Down ขนาด 41 มม. โดยมีระยะยุบตัวอยู่ที่ 137 มม. และสามารถปรับค่า Preload และ Rebound ได้ ทำงานร่วมกับปั๊มเบรกคู่หน้า Advics Monobloc 4 POT แบบ Radial Mount ควบคู่กับดิสก์เบรกหน้าขนาด 298 มม. ซึ่งถือเป็นข้อแตกต่างกับคู่แข่งที่นำมาเปรียบเทียบอย่งชัดเจน มาถึงด้านหลังกันต่อกับชุดโช้คอัพหลังแบบ Mono Shock โดยทำงานร่วมกับลิงค์บนสวิงอาร์มดีไซน์สปอร์ต ที่สามารถปรับเซ็ตค่าพรีโหลดและรีบาวน์ได้เช่นกัน ในส่วนของขนาดไซส์ยาง ยางหน้าอยู่ที่ 120/70ZR17M/C (58W) และยางหลังอยู่ที่ 180/55ZR17M/C (73W) ตามสไตล์ Naked Bike รุ่น (เกือบ) ใหญ่
ในส่วนของการควบคุมนั้น จากที่ไบค์เกอร์หลายๆ คนคอมเม้นกันมา Yamaha MT-09 เดิมๆสเปคโรงงาน ถูกปรับเซ็ตช่วงล่างมาให้ใช้งานในเมืองและในชีวิตประจำวันเป็นหลัก แต่เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือเข้าโค้งแรงๆ ตัวรถจะมีอาการย้วยของช่วงล่างอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการปรับเซ็ตช่วงล่างจากโรงงานที่มีจุดประสงค์คือการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก ขับขี่ง่าย แต่ก็พอมีวิธีแก้ไข คือ ถ้าไบค์เกอร์ท่านใดพอจะมีงบเหลือในกระเป๋าสตางค์ แนะนำให้แวะไปที่ไบค์ช็อปใกล้บ้านและทำการเซ็ตระบบช่วงล่างเพิ่มเติม พร้อมกับจบงานด้วยการติดตั้งกันสะบัด เพราะคอรถค่อนข้างที่จะเบาเอาเรื่อง แต่ถึงอย่างไรก็ตามขอแนะนำให้ผู้ที่เพิ่งได้สัมผัสและเป็นเจ้าของ Yamaha MT-09 ลองเรียนรู้ตัวเองให้เข้ากับรถเสียก่อน หรืออาจจะหาคอร์สเรียนขับขี่ก็ดีไปอีก ไม่แนะนำให้ขับขี่ผาดโผนหรือใช้ความเร็วสูงเกินไปครับ
ช่วงล่างและการควบคุม (Kawasaki Z900 2020)
ต่อกันที่ Kawasaki Z900 2020 กับความโดดเด่นเป็นสง่ากับเฟรมถักสีเขียวรูปแบบใหม่ที่มีน้ำหนักเพียง 13.5 กิโลกรัม และที่ขาดไม่ได้กับชุดโช้คอัพหน้าแบบ Up Side Down ขนาด 41 มม. ที่สามารถปรับเซ็ทค่า Preload และ Rebound ได้อย่างละเอียด มาพร้อมกับชุดปั๊มเบรกหน้า Nissin แบบ Axial Mount ทำงานควบคู่กับระบบเบรก ABS และใกล้ๆ กันนั้น กับดิสก์เบรกหน้าขนาด 300 มม. เสริมความหล่อช่วงล่างขึ้นไปอีกด้วยชุดล้อแม็กดีไซน์ใหม่ 5 ก้าน ให้อารมณ์สปอร์ตในแบบฉบับตระกูล Z ได้เป็นอย่างดี พร้อมขนาดไซส์ยางหน้าอยู่ที่ 120/70ZR17M/C (58W) และยางหลังอยู่ที่ 180/55ZR17M/C (73W) โดยจะมีขนาดไซส์ยางเท่ากันกับ Yamaha MT-09
ในด้านของฟิลลิ่งการขับขี่ควบคุม Kawasaki Z900 2020 ค่อนข้างจะมีช่วงล่างที่เฟิร์มและมั่นใจมาจากโรงงาน เนื่องจากศูนย์ถ่วงของตัวรถที่ค่อนข้างต่ำ หน้าไม่ลอยจนเกินไป และมีน้ำหนักที่เยอะพอตัว ทำให้การขับขี่ด้วยความเร็วสูงค่อนข้างจะมีความไว้เนื้อเชื่อใจได้ แต่ในการใช้งานในชีวิตประจำวันค่อนข้างจะเหนื่อยเล็กน้อย เนื่องด้วยอย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่า Kawasaki Z900 2020 มีน้ำหนักอยู่ที่ 212 กิโลกรัม จึงอาจจะทำให้ไม่คล่องตัวในการขับขี่ซอกแซกมากนัก และถึงข้อมูลจะบอกว่าเบากว่าโมเดลที่แล้วอย่าง Kawasaki Z800 แต่ก็ยังถือว่าเรทเกิน 200 กิโลกรัม ก็หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ ก็เรียกได้ว่าได้อย่างเสียอย่าง แล้วแต่คาแรคเตอร์ของรถแต่ละรุ่นตามความชอบของแต่ละบุคคลนะครับ
สรุปผลมวยคู่โหด
Yamaha MT-09
Kawasaki Z900 2020
จากการ Battle ไปอย่างเต็มที่ ถึงทีที่เราจะมาสรุปกันว่าใน Naked Bike พิกัด 900 ซีซี. กับเรทราคาค่าตัว 4 แสนบาทนั้น รุ่นใดจะคุ้มค่าที่สุดระหว่าง Yamaha MT-09 กับ Kawasaki Z900 2020 โดยคันแรกที่เราได้เริ่มกัน คือ Yamaha MT-09 รถมอเตอร์ไซค์ Naked Bike ที่ไบค์เกอร์หลายๆ คนต่างคอนเฟิร์มถึงความโหดของแรงบิดที่เปิดคันเร่งทีมีเหวอ ด้วยเสน่ห์ของขุมพลัง CP3 ขนาด 847 ซีซี. ที่ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุด 115 แรงม้า ในจุดนี้เหมือนว่า Yamaha MT-09 จะได้แรงม้า และ ซีซี. ที่น้อยกว่า Kawasaki Z900 2020 ด้วยซ้ำไป แต่ทำไม Yamaha MT-09 ถึงโดดเด่นในด้านพละกำลังมากกว่า นั่นก็คือ ช่วงชักและอัตราทดของเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังสูงตั้งแต่ออกตัว ควบคู่กับน้ำหนักตัวรถที่เบากว่าและสรีระของตัวรถที่มีความเพรียวบาง พร้อมกับศูนย์ถ่วงของตัวรถที่เบาเน้นไปในทางความคล่องตัวสูงทำให้ Yamaha MT-09 เป็นรถที่ขี่สนุก กระแทกเป็นหน้าลอยทุกครั้ง แต่ข้อเสียในความมันส์ของ Yamaha MT-09 คือ ความเบาของน้ำหนักตัวรถและความย้วยของช่วงล่างที่อาจจะทำให้เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงมีดิ้นจนเหวอได้เช่นกัน ถึงแม้วัสดุในโซนช่วงล่างบางชิ้นของ Yamaha MT-09 จะดีกว่า Kawasaki Z900 2020 แต่ก็เป็นตัวช่วยได้ไม่มากนัก สำหรับอาการนุ่มนิ่มของช่วงล่างในตัวเจ้า MT-09 จึงกลายมาเป็นข้อดีของ Kawasaki Z900 2020 ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าและศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้ตัวรถมีความนิ่งเมื่อใช้ความเร็วหรือเข้าโค้งได้ดีกว่า Yamaha MT-09
Yamaha MT-09
Kawasaki Z900 2020
ในส่วนของเทคโนโลยี งานนี้ต้องขอยกให้ Kawasaki Z900 2020 ไปเลยก็ว่าได้ ด้วยการอัดแน่นระบบช่วยเหลือในการขับขี่ต่างๆ พร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างหน้าจอเรือนไมล์แบบ TFT พร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ Bluetooth ที่ทำให้มีความเหนือชั้นขึ้นไปอีก แต่ก็ยังมีความขัดใจเล็กน้อยที่ชวนให้ไบค์เกอร์หลายๆ คนสงสัยว่าทำไมถึงไม่ติดตั้ง Quick Shifter มาให้จากโรงงานเหมือนกับ Yamaha MT-09 ซึ่งเป็นระบบที่โดนใจสายซิ่งไม่เบาสำหรับการเข้าเกียร์โดยที่ไม่ต้องกำคลัทช์ และระบบเบรกหน้า ที่ยังคงใช้การยึดในรูปแบบเดิมๆ ไม่ใช่แบบ Radial Mount อย่างที่บิ๊กไบค์ระดับสูงนิยมใช้กัน แต่ถึงอย่างไรนั้น ในด้านของเทคโนโลยี Kawasaki Z900 2020 ก็ถือว่าพัฒนาขึ้นไปได้เหนือความคาดหมายอีกขั้น ปิดท้ายกันที่ในเรื่องของราคาค่าตัวที่อาจจะทำให้ไบค์เกอร์ที่กำลังสนใจจะออก Naked Bike คลาส 900 ซีซี. สักคัน อาจมีลังเลได้เลยทีเดียว โดย Yamaha MT-09 สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 399,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นทั้งแจกทั้งแถมที่ทางค่ายออกมาเอาใจกันอย่างต่อเนื่อง และ Kawasaki Z900 2020 สนนราคาอยู่ที่ 443,100 บาท พร้อมรุ่นพิเศษ SE อยู่ที่ 465,400 บาท ซึ่งถ้าเป็นตัว Standard Kawasaki Z900 2020 มีราคาที่สูงกว่า Yamaha MT-09 ถึง 44,100 บาท แบบยังไม่รวมส่วนลด ซึ่งมันต่างมากพอจะซื้ออะไหล่แต่งเจ๋งๆ สักชิ้นมาประดับบารมีได้เลยทีเดียว
Yamaha MT-09
Kawasaki Z900 2020
งานนี้คงต้องให้คุณตัดสินแล้วครับว่า รุ่นใด คือ ตัวตนที่แท้จริงและเหมาะสมพอที่จะควักกระเป๋าตังค์ซื้อมาเป็นสุดหล่อคู่ใจสักคัน สำหรับการ Battle ครั้งนี้ เป็นเพียงข้อมูลเปรียบเทียบพอสังเขปเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจให้กำลังผู้ที่กำลังมองหารถ Bigbike ที่คุ้มค่า โดนใจโดยที่ไม่เสียดายที่ซื้อมา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ และในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำคู่ Battle รุ่นใดมาฝากกันอีก สามารถติดตามได้เลยครับที่ www.BoxzaRacing.com สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน สวัสดีครับ