เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 19 กรกฏาคม 2562 - 11:54

BMW S1000RR 2019 VS Yamaha YZF-R1 2020 ที่สุดของการแบทเทิลกับสุดยอดโมเดิร์น Superbike แห่งยุค

 

          หลังจากที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน และยังไม่มีงานเปิดตัวให้ไบค์เกอร์สายสปอร์ตได้ยลโฉม แต่งานนี้อดไม่ได้จริงๆ ที่จะนำ Superbike ทั้ง 2 รุ่นนี้ มาแบทเทิลกันเพื่อเขย่าบัลลังค์คำว่า "ที่สุด" ให้สั่นคลอนอีกครั้งกับ BMW S1000RR 2019 ปะทะ Yamaha YZF-R1 2020 ด้วยความที่ทั้งคู่นั้นเปิดตัวในต่างแดนไปเป็นที่เรียบร้อย เรียกเอากระแสชาว Sportbike ลุกฮือขึ้นอีกครั้ง เพราะด้วย BMW S1000RR 2019 ได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่หมดในโฉม 2019 และ Yamaha YZF-R1 ก็มีการปรับเปลี่ยนอัพเกรดสมรรถนะในโฉม 2020 เช่นกัน แถมยังเผยโฉมแบบซุ่มเงียบ ที่จู่ๆ ก็เล่นเปิดตัวกันแบบปุ๊บปั๊บไม่มีกระแสข่าวมาก่อนล่วงหน้าเลยทีเดียว ต้องขอบอกเลยครับว่า 2 รุ่นนี้ ช่างเหมาะสมกันที่จะมาเป็นคู่ปรับที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยสมรรถนะ ความก้าวล้ำในเทคโนโลยี และฟิลลิ่งของโมเดิร์น Superbike อย่างแท้จริง และคันไหนจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด เดี๋ยวเราตามไปดูกันครับ

 

เปรียบเชิงมวยก่อนขึ้นชก

BMW S1000RR 2019

 

          BMW S1000RR ชื่อนี้เรียกได้ว่าค่อนข้างจะคุ้นหูไบค์เกอร์สายลั่นในเมืองไทยเป็นอย่างดี กับชื่อเล่นที่ไบค์เกอร์เมืองไทยต่างขนานนามกันว่า "ฉลาม" แต่ในการเปลี่ยนแปลงที่มาในโฉม 2019 นี้เอกลักษณ์ที่หายไปคงจะสังเกตกันได้ไม่ยาก นั่นก็คือ ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่ไม่ "ตาเหล่" อีกแล้ว พร้อมกับรูปทรงใหม่ และการอัพเกรดสมรรถนะรอบคัน จึงทำให้  S1000RR โฉม 2019 นี้ เป็นฉลามตัวใหม่ที่น่าติดตามสุดๆ ครับ

 

Yamaha YZF-R1 2020

 

          Yamaha YZF-R1 อีกหนึ่งตำนาน Crossplane Crankshaft อันเลื่องชื่อจากค่ายส้อมเสียงที่สร้างความฮือฮามานับไม่ถ้วนทุกการเปิดตัว มาในครั้งนี้กับความเซอร์ไพรซ์ขั้นสุด ในการเปิดตัว Yamaha YZF-R1 2020 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยไม่มีการบอกกล่าวหรือกระตุ้นกระแสใดๆ มาล่วงหน้าเลย เรียกได้ว่างานนี้ Yamaha พร้อมจะทำศึกในการประชันเหล่า Superbike ในปีนี้และปีหน้าแล้วก็ว่าได้ 

 

รูปลักษณ์ โครงสร้าง ความโดดเด่น (BMW S1000RR 2019)

 

          นับว่าเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่รื้อใหม่ทั้งหมด สำหรับเจ้า BMW S1000RR 2019 เลยก็ว่าได้ ด้วยรูปทรงที่กระชับเล็กลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ Superbike ยุคใหม่ โดยเราจะมาเริ่มดูกันที่เฟรมของตัวรถที่เรียกกันว่าเฟรมแบบ Flex รวมไปถึงดีไซน์ถังน้ำมันใหม่ที่มีขนาดเล็กลงแต่สูงขึ้นเพื่อที่จะรองรับการจัดวางตำแหน่งท่านั่งที่จะทำให้ผู้ขี่กระชับเข้ากับตัวรถได้เป็นอย่างดี เพื่อฟีลลิ่งการขับขี่ที่ลงตัว ต่อด้วยชุดแฟริ่งดีไซน์ใหม่หมด ในโฉมนี้เอกลักษณ์ในแบบฉบับเดิมกับไฟหน้าตาเหล่คงไม่มีให้เห็นกันอีกแล้ว เพราะในโฉม 2019 มาในรูปแบบไฟหน้า LED สุดเฉียบคมเปลี่ยนอารมณ์จากแบบฉบับเดิมได้ไม่เบา และความการปรับเปลี่ยนในสัดส่วนของตัวรถที่ได้รับการออกแบบดีไซน์ใหม่เพื่อสร้างความโดดเด่นในเรื่องของ Aerodynamic ที่ดีขึ้น รวมไปถึงน้ำหนักตัวรถที่ลดลงจากเดิมได้ไม่น้อย ซึ่งหลายๆ รีวิวนั้นบอกว่า ให้คาแร็กเตอร์ที่คล่องตัวไม่แพ้สปอร์ตในพิกัด 600 ซีซี. เลยทีเดียว

 

รูปลักษณ์ โครงสร้าง ความโดดเด่น (Yamaha YZF-R1 2019)

 

          เรียกได้ว่าการเปิดตัวแบบที่เล่นเอาสะดุ้งทั้งวงการของ Yamaha YZF-R1 ในโมเดลล่าสุดที่พร้อมต้อนรับปี 2020 มีการปรับเปลี่ยนและอัพเกรดสรรมถนะขึ้นในหลายๆ ด้านเลยก็ว่าได้ โดยจุดสังเกตแรกที่ผ่านหน้าผ่านตาจนต้องกลับมาเหลียวมองอีกครั้งเลย คือ ไฟหน้าและแฟริ่งด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ที่ได้รับการดีไซน์ที่ถอดแบบจากรถแข่ง MotoGP อย่าง Yamaha YZR-M1 ให้กระชับเล็กลงและเพิ่ม Detail เข้าไปอีกนิดหน่อยเพื่อความโดดเด่นในด้าน Aerodynamic โดยทางค่ายผู้ผลิตเคลมว่าในเจ้าตัว YZF-R1 2020 มีการลู่ลมที่ดีขึ้น 5.3% แหวกอากาศได้เฉียบกว่าเดิม พร้อมการเปลี่ยนมาใช้ถังน้ำมันอลูมิเนียมเพื่อช่วยลดน้ำหนักของตัวรถอีกด้วย แต่ในส่วนของเฟรมยังคงใช้ในรูปแบบ Diamond เช่นเดียวกันกับโมเดลแบบฉบับเดิม รวมไปถึงชุดแฟริ่งในส่วนอื่นๆ ที่ยังคงใช้ในรูปแบบเดิม เพราะเหมือนทาง Yamaha จะเน้นไปโฟกัสที่การพัฒนาระบบเทคโนโลยีของเจ้า Yamaha YZF-R1 ในโฉม 2020 เสียมากกว่าครับ

 

ขุมพลัง เทคโนโลยีและความเร้าใจ (BMW S1000RR 2019)

 

          ในส่วนของขุมพลังชุดใหม่ส่งตรงจากเยอรมนี กับสเปคสุดที่อัพเกรดขุมพลังจัดจ้านกว่าเดิมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาความจุกระบอกสูบ 999 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุด 207 แรงม้า ที่ 13,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 113 นิวตันเมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที เกียร์ 6 สปีด พร้อม Quick Shifter ที่เรียกกันว่า Shift Assistant Pro ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายและมันส์ยิ่งขึ้น ตามด้วยทีเด็ดของใหม่กับระบบ BMW Shift Cam ที่ช่วยเสริมย่านกำลังในรอบกลางให้สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น และภายในตัวของเครื่องยนต์ได้รับการออกแบบการจัดวางองค์ประกอบภายในและใช้วัสดุชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบา แต่ยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตามด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ยกมาให้กันอย่างไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็น เรือนไมล์จอสี TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่หลายๆ คนรอคอย และด้วยความพิเศษ คือ จอเรือนไมล์จะให้แสงจากจอที่เหมาะสม ช่วยให้มองได้อย่างสบายใจแม้ในสภาพแสงที่ไม่เป็นใจ รวมไปถึงการแสดงข้อมูล Info ต่างๆ ของตัวรถที่มากขึ้น ทำงานได้หลากหลายยิ่งขึ้น และในส่วนของโหมดขับขี่ที่มีมาให้จะมีให้เลือกด้วยกัน 4 โหมด ได้แก่ Rain , Road , Dynamic และ Race นอกจากนี้ยังมีโหมด "Pro Modes" ที่เพิ่มโหมดการขี่อีก 3 โหมด ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับเซ็ทค่าจากตัวรถได้อย่างอิสระสามารถปรับเซ็ทและเซฟข้อมูลเก็บไว้ได้อีก Shift Assistant Pro ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายและมันส์ยิ่งขึ้น

 

ขุมพลัง เทคโนโลยีและความเร้าใจ (Yamaha YZF-R1 2020)

 

          มาถึงขุมพลัง Crossplane Crankshaft กับเอกลักษณ์ความดุดันแบบไม่ซ้ำใครด้วยเสียงเครื่องยนต์สุดคำรามอย่างหาทีติไม่ได้ งานนี้ในโฉม 2020 ทาง Yamaha ได้มีการอัพเกรดขุมพลังและเทคโนโลยีขึ้นไปอีกระดับด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาดความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 13,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 113.3 นิวตันเมตร ที่ 11,500 รอบต่อนาที พร้อมการพัฒนาเครื่องยนต์เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro5 ด้วยการอัพเกรดท่อไอดี ชุดจุดระเบิด ชุดหัวฉีดแบบ 10 รู จาก Bosch พร้อมด้วยแคมชาฟต์และกระเดื่องกดวาล์วใหม่ช่วยให้การเรียกกำลังในย่านรอบสูงทำได้อย่างมีเสถียรภาพ ตามด้วยการอัพเกรดเทคโนโลยีมากมายภายในตัวรถ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มฟีลลิ่งการขับขี่ให้มั่นใจและแม่นยำมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบคันเร่งไฟฟ้าใหม่ Ride By Wire APSG เพื่อให้การตอบสนองคันเร่งแม่นยำและเป็นธรรมชาติ ต่อด้วยการเพิ่มโหมด EBM (Engine Break Management) หรือโหมดปรับการทำงานของเอนจิ้นเบรกที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ และโหมด BC (Break Curve) โดยสามารถเลือกเลเวลการทำงานได้ถึง 2 รูปแบบ โดยประมวลผลการเบรกจากองศาการเอียงของตัวรถ ซึ่งมีความจำเป็นในการช่วยเราเบรค ก่อนการเข้าโค้ง อีกทั้งระบบ Cornering ABS ที่ทำงานผ่านระบบประมวลผล IMU แบบ 6 แกน ได้ละเอียดยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าการอัพเกรดสมรรถนะของ YZF-R1 ครั้งนี้มาเต็มระบบจริงๆ ครับ

 

ช่วงล่างและการควบคุม (BMW S1000RR 2019)

 

          ในด้านของการคอนโทรลตัวรถนั้น จากข้อมูลและการทดสอบ เสียงข้างมากถึงกับต้องพูดเป็นคำเดียวกันเลยว่าควบคุมง่ายดั่งใจสั่งของจริง เหตุเพราะตัวรถมีการดีไซน์ให้มีความกระชับเล็กลงและเฟรมโครงสร้างของตัวรถในรูปแบบ Flex จะช่วยทำให้ผู้ขับขี่กระชับเข้ากับตัวรถได้เป็นอย่างดี พร้อมน้ำหนักของตัวรถที่เบาลงกว่าเดิมถึง 11 กิโลกรัม จากเดิม 208 กิโลกรัม ในโฉมก่อนหน้า แต่มาในโฉมนี้เหลือเพียง 197 กิโลกรัม เท่านั้น ด้วยการออกแบบดีไซน์ทั้งเฟรม แฟริ่งจนไปถึงเครื่องยนต์ที่เน้นใช้วัสดุที่เบาแต่ทนทาน จึงทำให้ฟิลลิ่งการขับขี่ช่างง่ายเสียยิ่งกว่าคลาส 600 ซีซี. เสียอีก ผนวกกับชุดระบบช่วงล่างไฟฟ้าใหม่โดยเปลี่ยนมาใช้ของแบรนด์ Marzocchi แกน 45 มม. แทนที่แบรนด์เดิมอย่าง Sachs พร้อมสวิงอาร์มหัวกลับหรือ Up Side Down สไตล์รถแข่ง และเสริมระบบเบรกขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเซ็ตคาลิเปอร์หน้ารุ่นใหม่ล่าสุดจาก Hayes ที่มาพร้อมความทรงพลังในการเบรกที่เนียน แม่นยำและอยู่หมัดเหมาะสำหรับการรับมือของไบค์เกอร์มือหนัก

 

ช่วงล่างและการควบคุม (Yamaha YZF-R1 2020)

 

          มาถึงในส่วนของช่วงล่าง Yamaha YZF-R1 2020 ที่ได้มีการพัฒนาและอัพเกรดขึ้นเช่นเดียวกัน เริ่มที่โช้คหน้าแบบ Up Side Down จากแบรนด์ Kayaba ที่สามารถปรับเซ็ตค่าได้แบบ Full Adjustable เต็มระบบตามใจผู้ขับขี่ และโช้คอัพหลังจาก Kayaba โดยใช้รุ่นใหม่กว่าโฉมเก่าที่มีการติดตั้งในส่วนของซับแทงค์ที่จะเข้ามาช่วยทำหน้าที่เสริมประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีมากขึ้น ทำให้ Yamaha YZF-R1 ในโฉมปี 2020 ในเรื่องของช่วงล่างที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นให้เหมาะสมกับการใช้งานทั้งบนถนนและในสนามแข่งได้อย่างครอบคลุมกว่าเดิม รวมไปถึงการออกแบบพัฒนาในส่วนของ Aerodynamic ที่ทางค่ายผู้ผลิตได้เคลมแล้วว่าดีขึ้น 5.3% ซึ่งก็หมายความว่าตัวรถมีการแหวกอากาศที่ดีขึ้น รถก็ทำความเร็วเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกันครับ

 

ลงมานั่งคุยข้างเวที ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

BMW S1000RR 2019

 

          จากที่เราได้แบทเทิลกันไปทั้ง 2 รุ่นแล้ว ต้องขอบอกเลยว่างานนี้ ดันกันไม่ลงเลยทีเดียว โดยเราจะมาสรุปคร่าวๆ กันตรงนี้เลยครับ เริ่มที่ BMW S1000RR 2019 กับการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่อีกครั้งที่เรียกได้ว่าลืมทุกความเป็น S1000RR ในแบบฉบับเดิมได้เลย รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่มากมายที่เป็นหัวใจหลักและหมัดเด็ดของ BMW ที่พร้อมจะกลับมาซื้อใจไบค์เกอร์อีกครั้ง แต่ถ้าให้พูดถึงข้อติของ BMW S1000RR 2019 คงจะพูดถึงเรื่องของรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยแม้แต่น้อย จนอาจทำให้สาวก S1000RR บางคนอาจจะต้องมานั่งมองกันใหม่ หรืออาจจะไม่ค่อยโอเคกับรูปทรงโฉมใหม่ล่าสุดนี้เสียเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามถ้าการเปิดตัวในครั้งนี้ และยังมาในราคาไม่โดดไปกว่าเดิม หลายๆ คนต้องมีเล็งกันบ้างแล้วใช่ไหมครับ 

 

Yamaha YZF-R1 2020

 

          ส่งท้ายกันที่ Yamaha YZF-R1 2020 กับการเปิดตัวที่มาพร้อมการอัพเกรดสมรรถนะและเทคโนโลยีในแบบฉบับที่ครอบคลุมการใช้งานในทั้งบนถนนและสนามแข่ง เรียกได้ว่างานนี้สาวกค่ายส้อมเสียงต้องมีเตรียมควักกระเป๋าสตางค์ไว้รออย่างแน่นอนใช่ไหมครับ แต่ถ้าให้พูดถึงในเรื่องของรูปลักษณ์ความสวยงามถือว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่หวือหวาอะไรมากมาย เพราะในโฉม 2020 ที่เปิดตัวไปไม่กี่วันนี้ เหมือนทางค่ายผู้ผลิตจะเน้นโฟกัสไปในการพัฒนาเรื่องของสมรรถนะเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงอย่างไรนั้น ความดุดันของเจ้า Yamaha YZF-R1 ยังคงความเป็นเอกลักษณ์อยู่เช่นเคยครับ

 

BMW S1000RR 2019

 

Yamaha YZF-R1 2020

 

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับการแบทเทิลรุ่นใหญ่ระหว่าง Superbike ฝั่งยุโรปกับเอเชีย โดยภาพรวมแล้วถือว่าความโดดเด่นย่อมไม่แพ้กันเลยทีเดียว ครั้งนี้คงต้องยกให้ผู้อ่าน ผู้ใช้งานและสาวกตัวจริงเป็นผู้ตัดสินช่วยแล้วครับ โดยในส่วนของราคาค่าตัวของ BMW S1000RR 2019 และ Yamaha YZF-R1 2020 ยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมาอย่างแน่ชัด เดี๋ยวเราจะมาติดตามเรื่องราวของ Superbike คู่ปรับแห่งยุคว่าจะมีการอัพเดทราคากันอยู่ที่เท่าไหร่ จะสูงขึ้นกว่าเดิมเยอะหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไปครับ และในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำรถรุ่นไหนมาแบทเทิลให้ชมกันอีก สามารถติดตามได้เลยครับที่ www.BoxzaRacing.com สำหรับวันนี้ต้องลากันไปก่อน...สวัสดีครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook