คุณเคยมีคำถามบ้างไหมว่า เพราะเหตุใดเพื่อนสนิท เพื่อนที่ทำงาน หรือแม้แต่คนข้างบ้าน แต่ละคนชื่นชอบขี่รถมอเตอร์ไซค์สไตล์แตกต่างกัน บางคนอาจชอบรถมอเตอร์ไซค์รูปลักษณ์ทันสมัย สมรรถนะเต็มเปี่ยม แรงและเร็ว ขณะที่บางคนกลับชอบรถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิกที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิก หนึ่งในแบรนด์ที่ช่วงนี้เป็นที่พูดถึงกันคงหนีไม่พ้น “รอยัล เอนฟิลด์” แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลกที่เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ความคลาสสิกตลอด 3 ปีที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย รถมอเตอร์ไซค์แบรนด์นี้เริ่มมีเข้ามาขี่ให้เราเห็นบนถนนเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เราไปดูกันว่าเหตุผลที่ไบค์เกอร์ชาวไทยหลายคนเลือกขี่รถมอเตอร์ไซค์ "Royal Enfield" ได้แก่อะไรบ้าง
1.ไม่ใช่แค่ซื้อรถแต่คือ “ซื้อตำนาน”
Royal Enfield เป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์จากเมืองผู้ดีประเทศอังกฤษ ที่มีประวัติศาสตร์การผลิตรถมอเตอร์ไซค์มานานกว่าศตวรรษ โดยเริ่มจากการผลิตอาวุธในสงครามโลกครั้งที่ 1 ก่อนขยายสายการผลิตมาสู่รถมอเตอร์ไซค์ โดยผลิตรถมอเตอร์ไซค์คันแรกออกมาในปี 1901 ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์รุ่นบุลเล็ต (Bullet) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ดำเนินสายการผลิตมาต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลกเริ่มตั้งแต่ปี 1932 รถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ จึงนับเป็นตำนานสองล้อที่ยังโลดแล่นอยู่บนท้องถนนอย่างแท้จริง
2. ขี่ไปไหนก็หล่อ
รถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ทุกรุ่นถูกออกแบบภายใต้ปรัชาญาเดียวกันคือ ‘โมเดิร์น คลาสสิก’ (Modern Classic) โดยคงความเป็นรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ดั้งเดิมที่องค์ประกอบต่างๆ ของตัวรถคงรูปแบบเดิมตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลก โดยเฉพาะรุ่นคลาสสิก (Classic) ที่ผสมผสานวิถีดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ คงเสน่ห์และเอกลักษณ์อันโดดเด่นของรถมอเตอร์ไซค์
3.นำความสนุกในการขี่กลับมา!
ในยุคที่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีตัวช่วยการขับขี่มากมาย บางครั้งทำให้ความสนุกในการขับขี่ดิบๆ แบบเดิมหายไป Royal Enfield ต้องการมอบ ‘ประสบการณ์การขับขี่ที่แท้จริง’ (Pure Motorcycling Experience) แก่ผู้ขับขี่ชาวไทย ให้สนุกกับการใช้ทักษะการขับขี่ในการควบคุมรถได้อย่างเต็มที่ โดย Royal Enfield จัดทริปการขับขี่สม่ำเสมอ เพื่อรวมกลุ่มไบค์เกอร์ชาวไทยให้มาสนุกกับการขี่ Royal Enfield ร่วมกัน
4.ใช้งานได้เอนกประสงค์และซ่อมบำรุงง่าย
รถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ทุกคัน เป็นรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางที่มีขนาดเครื่องยนต์ระหว่าง 250 -750 ซีซี ซึ่งครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะขี่ไปทำงานในเมืองหรือขี่ท่องเที่ยวในวันหยุดตัวรถสามารถซ่อมบำรุงเบื้องต้นได้ง่ายด้วยตนเองหรือสามารถนำเข้าศูนย์บริการหากเกิดปัญหาทางเทคนิคอื่นๆ รถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ทุกรุ่นยังมาพร้อมการรับประกันรถอย่างน้อย 1 ปี ไม่จำกัดระยะทางไบค์เกอร์ชาวไทยหายห่วงได้แน่นอน
5.ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้
เมื่อพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะบิ๊กไบค์หลายคนคงเบือนหน้าหนีเนื่องจากราคาตัวรถที่สูง และค่าบำรุงรักษาที่ทำเอาหน้ามืดได้ง่ายๆ รถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield มีราคาค่าตัวเริ่มต้นเพียง 169,000 บาทสำหรับรุ่นหิมาลายัน (Himalayan) รุ่นอื่นๆ ก็จำหน่ายในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ แถมเจ้าของทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประหยัดน้ำมันมากนอกจากนี้ Royal Enfield ยังให้บริการเปลี่ยนอะไหล่ของแท้เช็คระยะและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการทั่วประเทศในราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าผู้ขับขี่ทุกคน
