ที่สุดแห่งความเป็นอมตะของสไตล์รถสุดฮิต ที่ไม่ว่าจะขึ้นคร่อมเมื่อไหร่ ก็ยังหล่อเหมือนเดิม คงจะหนีไม่พ้นรถสไตล์ Modern Classic หรือรถแนวย้อนยุค ที่นำมาประยุกต์ขึ้นใหม่ให้นำสมัย สามารถเข้ากับทุกสไตล์ของผู้ขับขี่ และในครั้งนี้ BoxzaRacing จะนำรถมอเตอร์ไซค์ Modern Classic 2 รุ่นสุดเท่ห์แห่งปี 2019 กับสองค่ายยักษ์ใหญ่ระหว่าง Triumph Speed Twin รุ่นใหญ่จากแดนผู้ดีอังกฤษ มาปะทะกับนักเลงญี่ปุ่นอย่าง Kawasaki Z900RS ความเกรี้ยวกราดสุดชิคของทั้ง 2 คัน ที่มีความแตกต่างของขนาดเครื่องยนต์ถึง 300 ซีซี.พร้อมเอกลักษณ์เฉพาะของทั้ง 2 ฝั่ง รุ่นใดจะเป็นตัวตนที่แท้จริง คุณเท่านั้นคือ ผู้ตัดสินใจ
รูปลักษณ์ โครงสร้างและความโดดเด่น (Triumph Speed Twin 2019)
มาเริ่มกันที่พ่อหนุ่มอังกฤษกล้ามโต หน้าใหม่ของวงการอย่าง Triumph Speed Twin ด้วยรูปลักษณ์ที่มาพร้อมสไตล์เฉพาะตัวแบบร่วมสมัย มีความสวยงามบึกบึนอย่างเด่นชัด ด้วยความที่ DNA ความคลาสสิคของ Triumph ที่ฝังอยู่ในจิตวิญญาณผสานเข้ากับลักษณะเฉพาะตัวที่ทันสมัยและออกแบบมาให้มีลุคที่สุดชิคได้อย่างเหนือชั้น ทำให้ Speed Twin เป็นรถที่ยังคงความเป็นสายเลือดความคลาสสิคได้อย่างเต็มอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็น ถังน้ำมันขนาด 14.5 ลิตร ดีไซน์ดั้งเดิม รับกับรูปทรงเอกลักษณ์ของเบาะนั่งสไตล์เฉพาะตัว พร้อมไฟท้าย LED ขนาดจิ๋ว ดีไซน์ใหม่แบบร่วมสมัย รวมไปถึงล้อแม็กลวดลายใหม่ในมาดของรถสปอร์ต เพิ่มความดุดันแบบลูกผู้ชายแต่แฝงไปด้วยความเรียบง่ายดูสบายตา ด้วยการเก็บงานแบบละเอียดทุกอณู ทำให้จุดนี้และดีไซน์การออกแบบทุกจุดอาจซื้อใจคอคลาสสิคไปได้เต็มๆ เลยทีเดียว
รูปลักษณ์ โครงสร้างและความโดดเด่น (Kawasaki Z900RS)
มาถึงไอ้หนุ่มนักเลงญี่ปุ่นที่เรียกตำนานคลาสสิคตั้งแต่ยุค 70' กลับมาอีกครั้งอย่าง Kawasaki Z900RS กับรูปลักษณ์ที่ยังคงเอกลักษณ์ในแบบฉบับดั้งเดิมกว่า 40 ปี และผสมผสานลายเส้นร่วมสมัยเพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ยังหลงใหลในความคลาสสิคด้วยการเปิดมุมมองรูปแบบใหม่อีกครั้ง เริ่มต้นด้วยดีไซน์การออกแบบที่โค้งมนที่ถังน้ำมันและแฟริ่งด้านท้ายรถ ผนวกกับระบบไฟ LED สุดล้ำไม่ว่าจะเป็นชุดไฟหน้าทรงกลม ไฟเลี้ยวแบบ LED และไฟท้ายรูปทรงตูดเป็ดที่วัยเก๋าเขาเรียกกัน เสริมรายละเอียดเพิ่มเข้าไปอีกด้วยการติดตั้งวัสดุโครเมี่ยมและสีดำเงาในจุดต่างๆ ที่เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ให้ตัดกับชุดสีของตัวรถเพื่อให้มีระดับในแบบฉบับ Modern Classic เพื่อตอบสนองอารมณ์ผู้ที่อยากเข้าถึงความเป็นนักเลงญี่ปุ่นในยุค 70' ได้อย่างเต็มตัว
ขุมพลัง เทคโนโลยีและความเร้าใจ (Triumph Speed Twin 2019)
มาถึงด้านฟิลลิ่งความแรงและเทคโนโลยีกันครับ กับเครื่องยนต์สูบคู่ Bonneville High Power ของเจ้า Speed Twin ขนาด 1200 ซีซี. คันเร่งไฟฟ้า Ride-by-wire เพื่อการตอบสนองของลิ้นปีกผีเสื้อที่ดีขึ้น พร้อมการสัมผัสความประหยัดเชื้อเพลิงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมการอัพเดทใหม่ด้วยการจูนความแรงให้จัดจ้านในแบบฉบับ Truxton พร้อมส่งพละกำลังสูงสุด 97 แรงม้า ที่ 6,750 รอบ/นาที และส่งแรงบิดอย่างเหนือชั้นที่ 112 นิวตัน-เมตร ที่ 4,950 รอบ/นาที พร้อมคำรามเสียงของเครื่องยนต์สูบโตสัญชาติอังกฤษอย่างแท้จริง ผ่านท่อไอเสียคู่สีดำทรงสปอร์ตและแฝงเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ 3 แบบ เชื่อมโยงกับระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-wire โดยมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ Sport เหมาะสำหรับการขับขี่ที่พร้อมปลดปล่อยพลังอย่างเต็มพิกัด Road เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองที่ไม่ต้องใช้พละกำลังมาก และ Rain เหมาะสำหรับการใช้งานเมื่อเจอสภาวะพื้นถนนลื่นเปียกโดยการลดพละกำลังเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ตามด้วยระบบเบรก ABS เพื่อมาตรฐานความปลอดภัยที่ร่วมสมัย ควบคู่กับระบบควบคุมการยึดเกาะถนนอย่าง Traction Control ที่จะทำหน้าที่ควบคุมการส่งกำลังของ Speed Twin ได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้สูญเสียการยึดเกาะ เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียวครับ
ขุมพลัง เทคโนโลยีและความเร้าใจ (Kawasaki Z900RS)
สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์ของ Kawasaki Z900RS จะใช้เครื่องยนต์บล็อคเดียวกันกับ Z900 นั่นคือ เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ขนาด 948 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยมีการปรับจูนด้านกำลังแรงบิดที่สูงขึ้นให้มาในรอบต่ำลง รวมไปถึงการปรับลดแรงม้าลงจาก 125 ตัว ที่ 9,500 รอบ/นาที เหลือเพียง 110 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดอยู่ที่ 98 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบ/นาที ด้วยความที่ Z900RS เป็นรถในแบบฉบับ Modern Classic ที่ไม่ได้โฟกัสที่ความแรงเป็นหลักเหมือนกับ Z900 ตัวจี๊ด จึงถูกตัดทอนความจัดจ้านลงมาในระดับนึง พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่ออยู่ในรอบการใช้งานเครื่องยนต์ในรอบต่ำ สามารถเรียกพละกำลังได้สบายๆ แบบไม่ต้องฝืน แต่ในเรื่องแรงปลายและความจัดจ้านแบบเปิดคันเร่งแล้วพุ่ง ใครที่มือหนักอาจจะไม่ตอบโจทย์ในจุดนี้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าความแรงจะหายไป แต่ยังคงความดิบเถื่อนไว้ลึกๆ ในแบบฉบับของ Kawasaki อยู่ และในส่วนของเทคโนโลยีในตัวของ Z900RS ถือว่ายังไม่หวือหวา ยังคงมีเทคโนโลยีพื้นฐานทั่วไปที่บิ๊กไบค์ทุกคันในปัจจุบันเริ่มมีการติดตั้งนั่นก็คือระบบเบรก ABS และกุญแจ Emobilizer หรือกุญแจชิพนั่นเองครับ
ช่วงล่างและการควบคุม (Triumph Speed Twin 2019)
มาถึงในส่วนของระบบช่วงล่างที่มาในรูปแบบความสแตนดาร์ดของสายคลาสสิค ที่เน้นการขับขี่ที่นุ่มนวลเหมาะสำหรับการขับขี่ชิลล์ๆ ด้วยโช้คหน้า Telescopic ขนาด 41 มม. พร้อม Damping Cartridge ระยะยุบตัวอยู่ที่ 120 มม. และโช้คอัพหลังคู่พร้อมตัวปรับพรีโหลด ระยะยุบตัวล้อหลัง 120 มม. ปั๊มเบรกล่างคู่หน้า Brembo ให้พลังเบรกที่สมส่วนอย่างลงตัว แต่ถ้ามองดูเผินๆ แล้ว อาจจะดูไม่หวือหวาอะไรมากมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจากรีวิวของต่างประเทสจากหลากหลายสำนักก็คอนเฟิร์มแล้วว่า ด้านสมรรถนะการควบคุมของระบบช่วงล่างและชุดเบรกนั้น ดีเกินหน้าตา ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะการเลือกใช้ชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบา ส่งผลให้ประสิทธิภาพและบาลานซ์ในการควบคุมทำได้ดีขึ้นตามไปด้วย
ช่วงล่างและการควบคุม (Kawasaki Z900RS)
ด้านระบบช่วงล่างของ Kawasaki Z900RS นั้น มาพร้อมกับโช้คอัพด้านหน้าแบบ Up Side Down ขนาด 41 มม. ที่สามารถปรับค่า Preload และ Rebound ได้ ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Horizontal Back-link โช้คอัพแบบวางนอนยึดกับกระเดื่องที่ตัวสวิงอาร์ม โดยเลือกใช้โช้คอัพแก็สที่สามารถปรับค่า Preload และ Rebound ได้เช่นกัน ส่วนระบบเบรคด้านหน้าเป็นปั้มเบรค 4 POT Monobloc แบบ Radial Mount กับจานเบรคคู่ขนาด 300 มม. และด้านหลังเป็นดิสก์เบรคเดี่ยวขนาด 250 มม. ปั้มเบรก 1 POT ทำให้เจ้า Z900RS จะให้อารมณ์ช่วงล่างที่มีความสปอร์ตเต็มขั้น เพราะด้วยความที่มีพื้นฐานจาก Z900 ที่เป็นรถ Naked Bike ตัวแรง จึงทำให้หลงเหลืออารมณ์ซิ่งติดมาบ้าง อาจทำให้สามารถตอบโจทย์ให้กับวัยรุ่นที่อยากสัมผัสความคลาสสิคในแบบฉบับนักเลงญี่ปุ่น
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
Triumph Speed Twin 2019
Kawasaki Z900RS
จากที่รีวิวไปแล้วทั้ง 2 รุ่น ต้องขอบอกเลยว่าส่วนต่างของสมรรถนะกินกันแทบไม่ลงเลยจริงๆ เริ่มที่ Triumph Speed Twin กับความหรูหราโดยกำเนิดด้วยแบรนด์ดังจากแดนผู้ดีอังกฤษที่มีความเนี๊ยบอยู่ในสายเลือด โดยการถ่ายทอดลุคสุดชิคด้วยการให้กำเนิด Modern Classic น้องใหม่ที่มาพร้อมการผสมผสานอย่างลงตัวเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสอารมณ์อย่างแท้จริง ต่อด้วย Kawasaki Z900RS ที่ให้ฟิลลิ่งของแดนอาทิตย์อุทัย กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ด้วยร่างที่สองของ Z900 ที่เป็น Naked Bike สายซิ่งมาเป็น Modern Classic มาดเท่ห์ ที่แฝงความเกรี้ยวกราดไว้ภายในเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รู้ซึ้งถึงคำว่านักเลงญี่ปุ่น
ราคาค่าตัว
Triumph Speed Twin
Kawasaki Z900RS & Kawasaki Z900RS Cafe'
Kawasaki Z900RS
มาถึงในส่วนของราคาค่าตัว เริ่มที่ Triumph Speed Twin พ่อหนุ่มอังกฤษกล้ามโตที่มาในลุคสุดเท่ห์และบึกบึนแบบผู้ดี ในราคา 576,000 บาท มาพร้อมกับตัวเลือกสีทั้ง 3 สี สุดพรีเมี่ยม ได้แก่ สี Silver Ice / Storm Grey ลงลายเส้นหลักแกรไฟต์ด้วยมือ พร้อมคาดลายขวางสีขาว สี Korosi Red / Storm Grey ลงลายเส้นหลักแกรไฟต์ด้วยมือ พร้อมคาดลายขวางสีขาว และสี Jet Black ต่อด้วย Kawasaki Z900RS ไอ้หนุ่มนักเลงญี่ปุ่นสุดห้าวกับราคาค่าตัว 485,000 บาท ที่มาพร้อมกับตัวเลือกทั้ง 3 สี ได้แก่ สีส้ม Candytone Brown / Candytone Orange และสีเขียว Metallic Matte Covert Green / Flat Ebony และตัวพิเศษอย่าง Kawasaki Z900RS Cafe' สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงความเป็นคลาสสิคอย่างเต็มตัวในราคา 505,000 บาท ด้วยความคุ้มค่าเกินราคาของทั้ง 2 รุ่น ที่ไม่มีใครอื่นใดที่จะตัดสินเพราะคุณเท่านั้นที่เป็นผู้เลือก
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับคู่ปรับหน้าใหม่สาย Modern Classic สุดหล่อเกินคำบรรยาย มาในลุคสุดมาดเท่ห์ ที่พร้อมจะกระชากใจผู้ที่หลงใหลรถตากลมเหล่านี้ให้ตกหลุมรักได้ง่ายๆ เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามรุ่นใดที่จะเป็นตัวตนของคุณที่สุด คงต้องเป็นคุณเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน ในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำรถรุ่นใดมาเปรียบเทียบรีวิวให้แฟนๆ ได้ชมกันอีกรอติดตามได้เลยครับที่ www.BoxzaRacing.com สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน...สวัสดีครับ