เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 27 เมษายน 2561 - 17:22

KTM 390 Duke รีวิวสตรีทไบค์สายนักสู้ จี๊ดสุดฉุดไม่อยู่ ที่สุดของความเป็นยอดนักบู๊แห่งท้องถนน

 

          KTM (เคทีเอ็ม) มอเตอร์ไซค์พันธุ์ดุสัญชาติออสเตรีย โดย บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการสองล้อเมื่อช่วงปลายปี 2017 ด้วยการส่งสตรีทไบค์สุดร้อนแรงอย่าง KTM 390 Duke (เคทีเอ็ม 390 ดู๊ค) เจนเนอเรชั่นใหม่ ออกมาลุยตลาด ซึ่งก็ทำเอาไบค์เกอร์ทุกหัวระแหงตาลุกวาว ด้วยองค์ประกอบอันโดดเด่น พร้อมฟีเจอร์สุดล้ำ ภายใต้ค่าตัวที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ แน่นอนว่าตัวผู้เขียนเองก็แอบตื่นเต้น และใจแกว่งไปพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว

 

KTM 390 Duke นักสู้พันธุ์ดุแห่งท้องถนน

 

ไฟหน้า LED พร้อม LED Day Light เฉกเช่นรุ่นพี่ KTM 1290 Super Duke R

 

 

           ครั้งหนึ่ง BoxzaRacing เคยนำเจ้า KTM 390 Duke เจนเนอเรชั่นก่อน มารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันไปแล้ว แต่การกลับมาในครั้งนี้ ถ้าจะบอกว่าเป็นการพลิกโฉมแบบครั้งใหญ่เลยก็คงจะไม่ผิด เพราะระหว่างเจนฯ เดิมและเจนฯ ใหม่นั้น มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย จนยากที่จะอธิบายได้จนหมดสิ้นในวันเดียว ตั้งแต่ในส่วนของโครงสร้าง รวมไปถึงระบบอิเลคทรอนิคส์ต่างๆ ที่ใส่มาให้ เรียกได้ว่า KTM 390 Duke ใหม่ ได้รับการรังสรรค์ออกมาให้มีความโดดเด่น ล้ำสมัยไปอีกขั้นตามแบบฉบับความเป็นสตรีทไบค์สายพันธุ์โหด ภาพลักษณ์โดยรวมได้รับการถอดแบบมาจากอสุรกายรุ่นใหญ่อย่าง KTM 1290 Super Duke R ไล่มาตั้งแต่ไฟหน้าและไฟท้าย LED ดีไซน์ดุดันที่มาพร้อม LED Day Light ที่สามารถเลือกปิด-เปิดได้ตามต้องการ โครงสร้างตัวถังมาในรูปแบบ Steel Trellis ที่แยกระหว่างเฟรมหลักสีส้ม Powder Coat และ Sub Frame แยกสีขาวสไตล์รถรุ่นใหญ่ เพื่อให้เสถียรภาพในการขับขี่ที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น ถังน้ำมันได้รับการออกแบบใหม่ ผสานระหว่างความเพรียวรับกับสรีระ และดีไซน์ที่ดุดัน โดยเพิ่มความจุเป็น 13.4 ลิตร (มากกว่าเจนเนอเรชั่น 2.4 ลิตร) เบาะนั่งมาในแบบ 2 ตอน แยกระดับระหว่างผู้ขับขี่และผู้ซ้อน โดยความสูงเบาะผู้ขี่อยู่ที่ 830 มม. น้ำหนักตัวรถไม่รวมของเหลวอยู่ที่ 149 กก.

 

จอสี TFT แสดงข้อมูลได้แบบครบถ้วน ชัดเจน เล่นง่ายๆ  ด้วย 4 ปุ่ม ที่แฮนด์ด้านซ้าย

 

           KTM 390 Duke มาพร้อมลูกเล่นสุดว้าว โดดเด่นเกินใครในคลาสด้วยหน้าจอสี  TFT แบบมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถแสดงข้อมูลในการขับขี่ได้อย่างหลากหลายและครบครัน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว รอบเครื่องยนต์พร้อมชิฟต์ไลท์ไล่โทนสีอย่างสวยงาม ความร้อน ปริมาตรเชื้อเพลิง ระยะทาง อัตราสิ้นเปลือง เวลาที่ใช้ในการขับขี่ โดยหน้าจอนี้จะปรับสีโดยอัตโนมัติให้เหมาะกับสภาพแสง เช่น ในเวลากลางวันจะแสดงผลด้วยพื้นสีขาว ที่ให้ความชัดเจน มองเห็นแม้ในยามแดดจ้า และจะปรับเป็นพื้นหลังสีดำเมื่อขับขี่ในสภาพแสงน้อย เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนสายตาผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมลูกเล่นเด็ดอย่าง KTM My Ride ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทางบลูทูธ สามารถรับ-วางสาย หรือฟังเพลิงเพื่อเติมสุนทรียภาพในการเดินทาง โดยการคอนโทรลเพียงปลายนิ้วสัมผัสที่แฮนด์ด้านซ้าย ซึ่งแม้จะมีลูกเล่นที่ค่อนข้างหลากหลาย แต่ก็สามารถทำความเข้าใจในการเข้าถึงได้ไม่ยาก กดเล่น 2-3 ครั้ง ก็เข้าใจระบบการใช้งานฟังค์ชั่นต่างๆ ได้โดยง่ายแล้ว

 

ขุมพลังสูบเดียว เสียวทุกเกียร์ ได้รับการปรับให้ดุดัน ตอบสนองเร้าใจอีกระดับ

 

ท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ ดุดันขึ้นกว่าเจนเนอเรชั่นก่อนอย่างชัดเจน

 

           พูดถึงค่าย KTM สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นคาแร็กเตอร์หลักของแบรนด์นี้ก็คือ ขุมพลังสูบเดียวเสียวทุกเกียร์ เช่นเดียวกับ KTM 390 Duke ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1 สูบ 4 จังหวะ พิกัด 373.2 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 89 x 60 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 12.6 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเลคทรอนิคส์ Bosch EFI จับคู่ลิ้นเร่งขนาด 46 มม. ควบคุมด้วยไฟฟ้า Ride by Wire (แทนที่เจนเนอเรชั่นเก่าที่เป็นคันเร่งสาย) ผสานความนุ่มนวลในการควบคุม และการตอบสนองอันโดดเด่นได้อย่างลงตัวให้พละกำลังสูงสุดที่ 44 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที แรงบิด 37 นิวตัน-เมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ 6 สปีด จับคู่กับชุดคลัทช์เปียกหลายแผ่นซ้อนกัน พร้อม Slipper Clutch ป้องกันอาการล็อคของล้อหลังหากมีการลดเกียร์ลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง

 

โช้กอัพจาก WP 43 มม. จับคู่เบรก ByBre แบบเรเดียลเม้าท์ จัดเต็มสมรรถนะการควบคุม

 

            อีกแบรนด์หนึ่งที่เป็นเครื่องเคียงคู่บารมีของแบรนด์ KTM ก็คือ โช้กอัพจาก WP (White Power) โดย KTM 390 Duke มาพร้อมโช้กอัพด้านหน้าแบบ Upside Down แกน 43 มม. พร้อมปรับระบบการทำงานใหม่เป็นแบบ Open Catridge ระยะยุบ 142 มม. (น้อยกว่าเจนเนอเรชั่นก่อนเล็กน้อย ตามวัตถุประสงค์ที่ทางค่ายเน้นให้ KTM 390 Duke มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้น) ส่วนโช้กอัพหลังมาในแบบ Mono Shock ระยะยุบ 150 มม. ระบบเบรกหน้ามาพร้อมคาลิเปอร์ ByBre 4 POT จับคู่จานขนาด 320 มม. ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 1 POT จาน 230 มม. พร้อม ABS จาก Bosch 9.1 MP ที่สามารถปิดการทำงานได้ตามต้องการ หรือสามารถเลือกโหมด SuperMoto (ปิด ABS เฉพาะล้อหลัง) ก็ย่อมได้ ล้อแม็กที่ให้มาในขนาด 17 นิ้ว โอบรัดด้วยยาง Michelin Pilot Street ไซส์ 110/70 และ 150/60 ZR17 ตามลำดับ

 

 

           ไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจยากอะไรเลย เมื่อมีโทรศัพท์จากทาง KTM Thailand เชิญให้ BoxzaRacing เข้าร่วมทดลองขี่ KTM 390 Duke เพราะอย่างที่บอก คือ เจ้าสตรีทไบค์สีส้มผู้นี้ เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ยังไม่อยู่ในฐานะบิ๊กไบค์รุ่นเดียวในโลก ที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นได้ขนาดนี้ ด้วยองค์ประกอบและความล้ำสมัยที่ให้มา (เหนือกว่าบิ๊กไบค์หลายๆ รุ่นแบบเทียบกันไม่ได้) บวกกับชื่อชั้นและความมันส์ขั้นสุดในสไตล์ของแบรนด์ ผมจึงไม่รีรอที่จะตอบรับเข้าร่วมการทดลองขี่ในทันที โดยเส้นทางที่ใช้ในการทดลองขี่ คือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มุ่งหน้าสู่โชว์รูม KTM ถ.พระราม 4

 

 

           สัมผัสแรกที่ได้คร่อม KTM 390 Duke น้ำหนักของตัวรถนั้นเรียกได้ว่ากำลังดีสำหรับผู้ขี่ไซส์มาตรฐานชายไทยร่างเล็ก (สูง 168 ซม. น้ำหนัก 55 กก.) ความสูงเบาะนั่งที่ 830 มม. อาจดูค่อนข้างสูง วางเท้าได้ไม่เต็มพื้น แต่ด้วยบาลานซ์ที่เซ็ตมาอย่างเหมาะสม ทำให้การควบคุมทำได้ไม่ยากอย่างที่หลายคนเป็นกังวล ปรับท่าทางเล็กน้อย ก็สามารถทำความคุ้นเคยกับตัวรถได้ไม่ยาก โดยจุดสังเกตของ KTM 390 Duke เจนฯ นี้ คือ ท่านั่งมีความเป็นสปอร์ต ต้องโน้มตัวไปด้านหน้ามากกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย  เส้นทางในช่วงแรกถนนเลียบนาเกลือจาก อ.ชะอำ-คลองโคลน มีโค้งให้เล่นพอสนุกๆ ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัสถึงพละกำลังของ KTM 390 Duke แล้ว ยังได้ลองช่วงล่างกันแบบจัดหนัก ใส่เต็มอีกด้วย แน่นอนว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้ ยังให้ความรู้สึกที่เร้าใจเพียงพออย่างที่เคยสัมผัส แรงบิดรอบต่ำเรียกมาใช้งานได้ง่าย ด้วยอัตราทดเกียร์ที่ค่อนข้างจัดจ้าน ช่วยให้การออกตัวทำได้ง่าย ไล่รอบขึ้นไปเรื่อยๆ แถบวัดรอบที่เรือนไมล์มีการไล่โทนสีให้สอดคล้อง ช่วยสร้างอารมณ์ในการขับขี่ขึ้นมาอีกขั้น ก่อนจะเตือนเป็นชิฟต์ไลท์เมื่อถึงรอบเครื่องที่ตั้งไว้

 

หน้าลอยเบาๆ แค่เรากล้าใช้คันเร่ง

 

จะยืน จะนั่ง ยังไงก็คุมง่าย ได้อารมณ์สตรีทไบค์พันธุ์ดุ

 

            KTM 390 Duke แม้จะใช้เครื่องยนต์บล็อคเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับเจนเนอเรชั่นก่อนก็คือ เรื่องของคาแร็กเตอร์คันเร่ง ที่ให้การตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น หากเผลอเปิดคันเร่งเยอะในช่วงเกียร์ 1 หรือ 2 มีอาการล้อหน้าลอยเล็กๆ ให้เห็นได้เหมือนกัน เรียกได้ว่าบิดเป็นมาในทุกย่านกำลัง (แตกต่างอย่างชัดเจนจากเจนเนอเรชั่นก่อนที่ต้องลากให้ทะลุ 6,000 รอบ/นาที เสียก่อน พละกำลังจึงจะถูกปลดปล่อยออกมาเต็มที่) การต่อเกียร์ทำได้อย่างต่อเนื่อง นุ่มนวล เช่นเดียวกับการเชนจ์เกียร์ลงหนักๆ ระบบ Slipper Clutch ที่ติดตั้งมาให้ ถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากว่ากันด้วยเรื่องความสนุกและการตอบสนองของเครื่องยนต์ในพิกัดไม่เกิน 400 ซีซี. แล้วล่ะก็...ผมกล้าพูดได้เลยว่า “ให้เต็มสิบ”

 

ความเร็วในโค้ง อาวุธลับของ KTM 390 Duke 

 

 

           เดินทางมาได้สักพักก็ได้เวลาสนุกกับโค้งในรูปแบบต่างๆ ที่มีมาให้เล่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าโช้ก WP ที่ติดตั้งมาให้ แม้จะไม่ใช่รุ่นป๋าเหมือนที่ประจำการอยู่ในรุ่นใหญ่ๆ แต่ก็สามารถรับมือกับโค้งทุกรูปแบบได้อย่างอยู่หมัด นุ่มนวลระดับที่น่าพอใจในการขับขี่ปกติ และหนึบพอสำหรับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง โดยเมื่อลองสาดเข้าไปด้วยความเร็วที่สามารถคุมได้ จัดท่าทางและคุมคันเร่งให้อยู่ในระดับเหมาะสม ไม่รู้สึกถึงอาการดีดดิ้นแต่อย่างใด แต่มีจุดสังเกตอย่างหนึ่งคือ หากผู้ขับขี่เผลอเปิดคันเร่งออกโค้งแบบ “เปิดทิ้งเปิดขว้าง เอามันส์ลูกเดียว” บนพื้นแอสฟัลต์ที่ค่อนข้างลื่น อาจมีอาการสไลด์ที่ล้อหลังเล็กๆ พอให้ได้สนุก ตื่นเต้นได้บ้าง (มี 2 สาเหตุ ที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้ คือ พละกำลังที่เร้าใจของเครื่องยนต์ หรือประสิทธิภาพของยางติดรถ) ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้น่ากลัวจนรู้สึกว่าเกินที่จะควบคุม (แต่ถือว่าไม่แนะนำ และควรค่อยเป็นค่อยไปสำหรับมือใหม่ล่ะกันครับ) การทรงตัวในย่านความเร็วเดินทาง 110-120 กม./ชม. ถือว่าทำได้ดี นิ่ง มั่นคง แม้กระทั่งการโดดเนินหรือคอสะพานต่างๆ ที่ความเร็วประมาณนี้ ยังคงแลนด์ดิ้งได้แบบเนียนๆ หากจัดท่าทางให้เหมาะสม หนีบถังให้มั่น ไม่ออกอาการสะบัดแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่ตัวรถมีน้ำหนักค่อนข้างเบา อาการแกว่งของตัวรถจะเริ่มออกเป็นปกติในย่านความเร็วสูง ซึ่งในที่นี้คือ ราวๆ 150 กม./ชม. ขึ้นไป อันเป็นความเร็วที่เกินความปลอดภัยที่จะควบคุม BoxzaRacing จึงไม่แนะนำให้ทำตาม แค่รู้ไว้เพื่อเป็นข้อมูลก็น่าจะเพียงพอ ความเร็วสูงสุดของ KTM 390 Duke เจนเนอเรชั่นนี้ เหมือนจะถูกล็อคไว้ที่ราว 16x กม./ชม. (เครื่องยังไปได้อีก แต่กล่องตัดแล้ว) ซึ่งสำหรับการเดินทางจริง ความเร็วนี้...เรียกได้ว่าเหลือๆ

 

 

           เครื่องพิสูจน์ถึงการเป็นสตรีทไบค์ที่ชัดเจน และตรงคาแร็กเตอร์ที่สุดของ KTM 390 Duke ก็คือ การต้องฝ่าการจราจรช่วงเวลาเลิกงานจากมหาชัย มุ่งหน้าสู่พระราม 4 ด้วยตัวรถที่มีขนาดกะทัดรัด แคบเพราะใช้เครื่องยนต์สูบเดียว ทำให้การวิ่งผ่านช่องระหว่างรถซ้าย-ขวา ทำได้อย่างคล่องตัว สามารถวิ่งผ่านไปได้อย่างลื่นไหล แม้แต่การซอกแซกเปลี่ยนช่องการจราจรก็สามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยน้ำหนักตัวรถที่เบา และอัตราเร่งและประสิทธิภาพของระบบเบรกอันยอดเยี่ยม สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้อย่างที่ต้องการ ไม่ต้องลุ้นว่าจะเอาชีวิตไปฝากไว้กับใคร จะเร็วก็เร่งหนีได้ จะช้าหรือหยุดก็สามารถสั่งได้อย่างใจ แม้แต่การเบรกอย่างรุนแรง ABS ก็สามารถทำงานได้ในระดับที่เหมาะสม ไม่เร็วเกินไปจนรู้สึกหงุดหงิด หรือช้ามากจนรู้สึกว่าขาดความปลอดภัย หากใครต้องการความดิบ หรือต้องการขี่ซิ่งในสนาม เลือกปิดไปเลยก็ยังไหว

 

 

           KTM 390 Duke มาพร้อมความครบเครื่องเต็มกระบุง ผมยังยืนยันคำเดิมว่า นี่คือ...ความเร้าใจที่ใครๆ ก็สามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ ไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะหลงรักหากได้ลองสัมผัสเจ้าสตรีทไบค์พันธุ์ดุผู้นี้สักครั้ง โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาสองล้อคู่ใจที่มาในสไตล์ที่โดดเด่น ขี่สนุกเร้าใจ ใส่เต็มเทคโนโลยี ควบคุมได้อย่างใจสั่ง ในงบราว “สองแสนบวกลบ” ผมเชื่อว่า KTM 390 Duke ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจได้เสมอ อย่างน้อยก็กับผมคนนึงแหละ

 

 

KTM 390 Duke ราคา 209,900 บาท มีให้เลือก  2 สี คือ สีส้มและสีขาว

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook