Kawasaki ZX-10R vs. Honda CBR1000RR มาก่อนมาหลังไม่สำคัญ จ่ายตังค์แล้วคันไหนใช่กว่าคือคำตอบ

          สำหรับการเปรียบเทียบในครั้งนี้ ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ชาวสองล้อเรียกร้องเข้ามาอย่างหนาหู ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบกันระหว่างรถในสไตล์ Sport Bike พิกัด 1,000 ซีซี. ซึ่งเป็น 2 รุ่น ที่ได้รับความนิยม และมีราคาจำหน่ายที่ใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น Kawasaki ZX-10R ยักษ์เขียวรุ่นพี่ที่ทำตลาดมาก่อนสักระยะ กับเครื่องเคียงที่ครบครัน Battle กับสายเลือดใหม่รุ่นใหญ่สุด Honda CBR1000RR ที่พึ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ ส่วนรุ่นไหนจะมีความคุ้มค่า น่าสนใจกว่ากันไปชมกันครับ

Kawasaki ZX-10R

          เรามาเริ่มกันที่ค่ายตั๊กแตนเขียวกันก่อนเลย ค่ายนี้ส่งเจ้ายักษ์เขียว Kawasaki ZX-10R รถสปอร์ตไบค์รุ่นใหญ่ประจำค่าย ที่กำลังได้รับความรับความสนใจจากชาวไบค์เกอร์สายโหดอยู่ไม่น้อยในเวลานี้ ด้วยรูปร่างอันบึกบึน ทรงพลัง และความเท่ที่ถูกจัดไว้ให้อย่างลงตัว ภายใต้ค่าตัวที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้มันกลายเป็นรถ Big Bike ในฝันของชาวสองล้อหลายๆ คนอย่างไม่ต้องสงสัย

กันสะบัดจาก Ohlins ติดตั้งมาให้พร้อมจากโรงงาน

          สำหรับรูปโฉมภายนอกของเจ้ายักษ์เขียว Kawasaki ZX-10R นั้น ได้รับการออกแบบให้มาพร้อมกับความสปอร์ต และดุดันตามแบบฉบับของตระกูล Ninja ซึ่งได้ถูก Redesign ใหม่จากรุ่นก่อนหน้า เริ่มจากชุดแฟริ่งหน้าปรับปรุงใหม่พัฒนาให้การไหลผ่านของอากาศ (Aerodynamics) ดีขึ้น, วินชิลด์ขนาดใหญ่ขึ้น, เบาะนั่งกว้างขึ้น, ดีไซน์ด้านท้ายที่ดูแหลมคมขึ้น, Handbar ใกล้ตัวผู้ขี่มากยิ่งขึ้นส่งผลให้น้ำหนักลงไปที่ล้อหน้ามากขึ้น, สวิงอาร์มที่ได้รับการพัฒนาให้ยาวขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วถึง 15.88 มม. พร้อมดีไซน์ตัวบังโคลนหน้าให้สามารถรับ และรีดแรงลมเข้าสู่ตัวหม้อน้ำได้อย่างพอดิบพอดี และเฟรมแบบ Twin-Spar Aluminum ส่วนน้ำหนักตัวของเจ้ายักษ์เขียวจอมโหดคันนี้อยู่ที่ 204 กิโลกรัม สามารถบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 17 ลิตร

หน้าปัดเรือนไมล์ Full Digital LED ดีไซน์ล้ำสมัย

          สำหรับหน้าปัดเรือนไมล์ของมันมาพร้อมกับหน้าจอ Full Digital LED ซึ่งจะมีลูกเล่นต่างๆ อย่างครบครัน ทั้งตัวแสดงความเร็ว และรอบของเครื่องยนต์ รวมถึงตัววัดระยะทางเมื่อยามออกทริป แบ่งเป็น A และ B นอกจากนั้นก็จะมีตัวบอกตำแหน่งเกียร์ นาฬิกา และแสดงผลการตั้งค่าของระบบ Traction Control พร้อมเสริมความนิ่งในการขับขี่ด้วยกันสะบัดไฟฟ้าจาก Ohlins ที่มีติดตัวมาให้อีกด้วย

โช้คอัพหน้า Upside Down จาก Showa พร้อมกระปุกโช้คแยกสำหรับการปรับ Compression, Rebound และ Preload ได้แบบครบครัน

          ถัดลงมาชมในส่วนของช่วงล่างกันบ้าง Kawasaki ZX-10R ใช้โช้คอัพด้านหน้าจาก Showa Balance Free Fork Upside Down ขนาด 43 มม. พร้อมด้วยกระปุกโช้คแยกสำหรับการปรับ Compression, Rebound และ Preload ได้แบบครบครัน มาพร้อมกันสะบัดไฟฟ้าจาก Ohlins ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากระบบที่ใช้ในสนามแข่ง WSBK เลยทีเดียว และโช้คอัพด้านหลังเป็นแบบนอนจาก Showa Balance Free Rear Cushion (BFRC) สามารถปรับ Compression, Rebound และ Preload ได้เช่นกัน

ปั๊มเบรคหน้า Brembo M50 Monobloc แบบ Radial Mount

          ในส่วนของระบบเบรค Kawasaki ZX-10R จัดชุดใหญ่ให้แบบครบเซ็ต ระบบเบรคด้านหน้ามาพร้อมกับจานดิสก์คู่ขนาด 330 มม. พร้อมระบบเบรค ABS ปั๊มจาก Brembo M50 Monobloc และเบรคหลังใช้เป็นจานดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มม. ปั๊มจาก Nissin ลูกสูบเดี่ยวอลูมิเนียม นอกจากนี้ยังนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเสริมทัพความล้ำสมัยแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Sport-Kawasaki Traction Control, Intelligent anti-lock Brake System, Launch Control Mode, Quick Shifter, Engine Brake Control

เครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี. แบบ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว คายไอเสียผ่านคอท่อไทเทเนี่ยม

          มาต่อกันที่ขุมพลังของเจ้ายักษ์เขียวกันบ้าง โดย Kawasaki ZX-10R ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง โดยมีขนาดกระบอกสูบอยู่ที่ 998 ซีซี. DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังอัด 13.0:1 ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 76.0×55.0 มม. ระบายความร้อนด้วยน้ำ รีดแรงม้าสูงถึง 179 ตัว ที่ 13,000 รอบ/นาที (Specs ยุโรปอยู่ที่ 210 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที หลังจากติดตั้ง Ram Air) ด้านแรงบิดอยู่ที่ 113.5 นิวตัน-เมตร ที่ 11,500 รอบ/นาที คายไอเสียผ่านชุดคอท่อไทเทเนียมเต็มระบบ

Kawasaki ZX-10R ราคา 694,000 บาท

          สำหรับราคาจำหน่ายของเจ้ายักษ์เขียว Kawasaki ZX-10R สปอร์ตไบค์รุ่นใหญ่จากค่ายตั๊กแตนเขียว ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงเกินไป โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 694,000 บาท ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าเอามากๆ เมื่อเทียบกับออพชั่น และของแต่งที่ให้มาอย่างจัดเต็มจากโรงงาน

Honda CBR1000RR

          ย้ายฝั่งมาดูน้องใหม่สาย Sport รุ่นล่าสุดจากค่ายปีกนกกันบ้าง กับ Honda CBR1000RR ซึ่งเป็นรถซุปเปอร์สปอร์ตที่ถูกถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่การขับขี่บนท้องถนนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักที่เบาลง และสามารถควบคุมได้ง่าย และแม่นยำยิ่งขึ้น ประกอบกับสีสัน และดีไซน์ที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวสไตล์ Racing Bike รวมไปถึงการนำรุ่น CBR1000RR SP ที่เป็นรุ่นระดับท็อปจัดเต็มเทคโนโลยีระดับรถที่ใช้แข่งขัน เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย

ไฟหน้าใหม่แบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว

ท่อไอเสียไทเทเนียมน้ำหนักเบา

หน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอล ที่บอกรายละเอียดการทำงานของเครื่องยนต์อย่างครบครัน

          สำหรับ Honda All-New CBR1000RR ได้รับการปรับโฉมใหม่ภายใต้แนวคิด "Total Control" โดดเด่นทั้งในด้านขุมพลังของเครื่องยนต์ที่ถ่ายทอดจากสนามแข่ง และที่สุดแห่งการควบคุม เสริมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ที่จะช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น และยังเป็นรถที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในรถคลาสเดียวกัน โดย Honda CBR1000RR มาพร้อมกับไฟหน้า และไฟท้ายใหม่แบบ LED, โครงสร้าง และเฟรมรถอลูมิเนียมน้ำหนักเบาที่มีการปรับให้มีความกระชับขึ้นกว่าเดิม เพื่อการขับขี่ที่คล่องตัว พร้อมปรับจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง นอกจากนั้น Honda CBR1000RR ยังได้รับการปรับในส่วนของชุดแฟริ่ง และถังน้ำมันให้ได้ตามหลักอากาศพลศาสตร์ Aerodynamic มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งดีไซน์ท่อไอเสียใหม่ ด้วยวัสดุไทเทเนียม ที่ให้น้ำหนักที่เบา แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเร้าใจของ CBR1000RR ไว้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเจ้า Honda CBR1000RR มีน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 14 กก. และเป็นรถ Sport Bike พิกัด 1000 ซีซี. ที่เบาที่สุดในคลาส โดย CBR1000RR มีน้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 196 กก.

Honda CBR1000RR SP

          สำหรับรุ่น CBR1000RR SP ได้เพิ่มความสปอร์ตให้เหนือชั้นด้วยชุดสีดีไซน์ใหม่แบบ Tri-color (Victory Red) ถังน้ำมันเป็นไทเทเนียมน้ำหนักเบา พร้อมอัดแน่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Quick shifter ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องบีบคลัทช์ และ Slipper Clutch ที่จะช่วยให้ Engine Brake ไม่มากระทบกับการหมุนของล้อหลัง ระบบกันสะเทือนจาก Ohlins ทั้งหน้า-หลัง ที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า และระบบเบรคคู่หน้าเป็นคาลิเปอร์เบรค Monobloc 4 POT จาก Brembo และล้อแม็กน้ำหนักเบาสีทองอร่าม ซึ่งทั้งหมดนี้ เพื่อช่วยเพิ่มการควบคุมรถสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งได้สนุกยิ่งขึ้น

เฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ห่อหุ้มเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1000 ซีซี. 189 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที

          สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์ของ Honda CBR1000RR ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 999 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบา อัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0 และสามารถทำกำลังสูงสุด 189 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที เพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น TBW & APS เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า (Throttle by Wire) ที่ทำงานประสานกับเซ็นเซอร์ APS ที่ฝังอยู่ใน Handlebar grip เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ตอบสนองกับแรงบิดของผู้ขับขี่ได้ดีที่สุด, Power Selector ระบบการตั้งค่าการขับขี่ โดยผู้ขับขี่เลือกตั้งค่ากำลังจากเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับแรงบิดของคันเร่ง, HSTC (Honda Selectable Torque Control) ระบบควบคุมแรงบิดแบบเลือกได้ของฮอนด้า เพื่อตรวจจับความเร็วล้อด้านหน้า และด้านหลัง ช่วยให้การควบคุมรถได้อย่างราบรื่น และ Engine Brake Control ซึ่งสามารถปรับเลือกได้ตามโหมดขับขี่ที่ที่ตั้งไว้เป็นค่ามาตรฐาน หรือผู้ใช้สามารถตั้งค่าเองได้ตามต้องการ

Honda CBR1000RR ราคา 643,000 บาท และ CBR1000RR SP ราคา 779,000 บาท

          สำหรับ Honda CBR1000RR ทั้ง 2 รุ่น ได้เผยราคาจำหน่าย พร้อมเปิดโอกาสให้ไบค์เกอร์ชาวไทยได้จับจองเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ โดย CBR1000RR มีสีตัวถังให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีแดง (Victory Red) และสีดำ (Mat Ballistic Black Metallic) ในราคาจำหน่ายที่ 643,000 บาท และสำหรับรุ่น CBR1000RR SP มาพร้อมกับสีพิเศษ Tri-color (Victory Red) ในราคาจำหน่ายที่ 779,000 บาท

ตารางเปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐาน Kawasaki ZX-10R กับ Honda CBR1000RR

Comment

          สำหรับใครที่กำลังมีความสนใจ และหมายปองรถ Bigbike ในพิกัด 1,000 ซีซี. ในงบประมาณราวๆ 700,000 บาท ทั้ง 2 รุ่น ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Kawasaki ZX-10R และ Honda CBR1000RR ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

          โดยหากใครที่ชื่นชอบความเป็น Sport Bike ที่คุ้มค่า เกินราคา ในเวลานี้คงไม่มีรุ่นใดที่จะน่าสนใจไปกว่า Kawasaki ZX-10R อีกแล้ว ด้วยออพชั่นที่บรรจุไว้ให้อย่างครบครัน ในราคาที่สมน้ำสมเนื้อ แต่หากคุณชอบความสดใหม่ เท่สะกดได้ทุกสายตาแล้วล่ะก็ Honda CBR1000RR ก็ถือเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว โดยในรุ่นธรรมดามีราคาถูกกว่าถึง 50,000 บาท แต่หากคุณไม่เกี่ยงเรื่องงบประมาณแล้วละก็ ขยับไปเล่น Honda CBR1000RR SP ที่พกอ็อพชั่นจากสนามแข่งมาอย่างครบเครื่องรุ่นเดียวจบ

          สำหรับการ Battle กันในครั้งนี้ หากจะพูดถึงความคุ้มค่าในการใช้เงินซื้อรถ Sport Bike สักคัน ดูเหมือนว่า Kawasaki ZX-10R จะมีความน่าสนใจกว่าเล็กน้อย ด้วยอ็อพชั่นของแต่งที่ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน ความดุดันของเครื่องยนต์ระดับแชมป์ WSBK ปีล่าสุด ในงบที่ยังไม่ถึง 700,000 บาท แต่หากดีไซน์ความเท่คือสิ่งที่คุณถวิลหาในรถ Sport Bike พิกัด 1,000 ซีซี. ในเวลานี้คงไม่มีรุ่นใดจะน่าสนใจไปกว่า Honda CBR1000RR อีกแล้ว กับไฟหน้าใหม่แบบ LED ดีไซน์ล้ำสมัย สดใหม่ กับราคาที่ถูกกว่าเล็กน้อยที่สามารถนำส่วนต่างไปซื้อท่อไอเสียดีๆ ได้หนึ่งใบ ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบ และสไตล์ของแต่ละบุคคล