เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 16 มีนาคม 2560 - 16:01

Triumph เปิดบททดสอบ Bonneville Bobber & Street Scrambler สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจไร้ขีดจำกัด

 

          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) เปิดบททดสอบสุดยิ่งใหญ่ ของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ 2 ตระกูล ได้แก่ Bonneville Bobber รถสายเลือดตระกูลบอนเนวิลล์อันเลื่องชื่อ ที่มาพร้อมสมรรถนะ และเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ และความปลอดภัยเหนือระดับ ซึ่งถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์บ็อบเบอร์สายพันธ์แท้ ที่ถูกตกแต่งโดยตรงจากโรงงาน และ Street Scrambler รถมอเตอร์ไซค์แนวเรทโทรที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดดเด่นในเรื่องของความแข็งแกร่ง และทนทาน ให้ความเท่ในระดับไฮคลาส ที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ระยะทางรวมกว่า 510 กิโลเมตร เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ และสมรรถนะอันเร้าใจแบบไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง

 

คุณจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด

 

          โดยตามกำหนดการเริ่มต้นขึ้นในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 14 มีนาคม 2560 ณ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นจุดนัดพบของคณะสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ โดยได้รับเกียรติจาก คุณจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวต้อนรับบรรดาสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทดสอบ พร้อมทั้งบรรยายสรุปถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลทางเทคนิค เพื่อให้ทราบ และเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับสมรรถนะของตัวรถทั้ง 2 รุ่น ก่อนที่จะเริ่มทำการทดลองขับขี่

 

Triumph Street Scrambler

 

          สำหรับการเดินทางในทริปนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ถูกจัดให้เริ่มทำสอบในรุ่น Street Scrambler ก่อนเป็นลำดับแรก โดยเจ้า Street Scrambler มาพร้อมกับโครงสร้างตัวถังที่ได้รับการออกแบบใหม่ตามแบบเฉพาะของ Street Scrambler ด้วยตำแหน่งการขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์แอดเวนเจอร์ ไม่ว่าจะเป็น ความสูงด้านท้ายรถที่ถูกยกสูงขึ้น เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่สามารถลุยไปในทุกเส้นทาง แฮนด์บาร์แบบอะลูมิเนียมปลายเรียวที่กว้างขึ้น เพื่อการควบคุมได้อย่างมั่นใจ และล้อแบบซี่ลวดด้านหน้าขนาด 19 นิ้ว และด้านหลังขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยาง Metzeler Tourance ที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ รวมไปถึงท่อไอเสียคู่ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่ให้ซุ่มเสียงอันเร้าใจในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร

 

ไฟหน้าโคมเดี่ยวทรงกลม เอกลักษณ์เฉพาะในตระกูล Street จาก Triumph

 

ท่อไอเสียคู่ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ Street Scrambler

 

          ด้านภาพลักษณ์อันโดดเด่น มาพร้อมกับสไตล์ท้ายเปิดโล่ง และตัวถังที่ดูเรียบง่ายแต่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นถังน้ำมันเชื้อเพลิงสุดหรูพร้อมฝาล็อค, ฝาครอบเครื่องยนต์สลักลายพร้อมตราสัญลักษณ์ Triumph, เรือนปีกผีเสื้อเดี่ยวพร้อมปลอกอะลูมิเนียม รวมไปถึงหัวปรับ และสายรัดเฮดเดอร์ ส่วนฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่เหมือนใคร คือ เบาะนั่งซ้อนท้าย และแร็คหลังอะลูมิเนียม ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ พร้อมแกนท้ายแบบถอดได้ รวมไปถึงแกนด้านหน้าสไตล์ Adventure ทรง Bear Trap พร้อมแผ่นฐาน ซึ่งทั้งหมดนี้คงไว้เพื่อชื่อเสียง และความเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดต่อกันมา จึงทำให้ Street Scrambler อัดแน่นไปด้วยความงดงาม มีความคลาสสิกแต่ร่วมสมัย รวมทั้งขับขี่ง่าย และมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

Street Scrambler เท่อย่างมีระดับ ลุยได้ทุกสถานการณ์     

 

          ส่วนด้านเทคโนโลยี Street Scrambler มาพร้อมระบบเบรค ABS ที่สามารถเปิด-ปิดได้ที่สวิตช์บนแฮนด์บาร์ เปิดคันเร่งได้อย่างใจสั่งด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-wire พร้อมระบบควบคุมการยึดเกาะถนน Traction Control ที่สามารถเปิด-ปิดได้ที่สวิตช์บนแฮนด์บาร์เช่นเดียวกัน รวมไปถึงระบบคลัตช์ควบคุมแรงบิดอีกด้วย

 

เครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 900 ซีซี. SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ 54 แรงม้า

 

          สำหรับขุมพลังของ Street Scrambler มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 900 ซีซี. SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อคเดียวกันกับ Street Twin และ Street Cup แต่ได้รับการปรับจูนในส่วนของแรงบิดให้เร้าใจมากยิ่งขึ้น โดย Street Scrambler มาพร้อมกับแรงม้า 54 ตัว ที่ 6,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดระดับ 80 นิวตัน-เมตร ที่ 2,850 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ 5 สปีด คลัตช์ควบคุมแรงบิด ระบายไอเสียผ่านท่อไอเสียคู่ ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์

 

Street Scrambler มาพร้อมระบบช่วงล่างของ KYB และระบบเบรคจาก Nissin พร้อมระบบ ABS

 

          ส่วนระบบช่วงล่างของ Street Scrambler มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบเทเลสโคปิคของ KYB ขนาด 41 มม. ที่ให้ระยะยุบตัวที่ 120 มม. และด้านหลังแบบ Mono Shock ของ KYB ที่ให้ระยะยุบตัว 120 มม. ที่สามารถปรับค่า Preload ได้ ส่วนระบบเบรคด้านหน้ามาพร้อมกับจานดิสก์ขนาด 310 มม. ปั้ม Nissin ลูกสูบคู่ แบบ Floating และด้านหลังแบบดิสก์เบรคเดี่ยวขนาด 255 มม. ปั้ม Nissin ลูกสูบคู่ แบบ Floating พร้อมระบบเบรค ABS ทั้งหน้า และหลัง

 

เร่งแซงได้ฉับไว ปลอดภัยในทุกการเดินทาง

 

          หลังจากที่ทำความรู้จักกับเจ้า Street Scrambler อย่างคุ้นชินแล้ว ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ โดยการเดินทางบนถนน เจ้า Street Scrambler สามารถให้อัตราเร่งที่ตอบสนองได้อย่างใจสั่ง ซึ่งเป็นผลพวงจากระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-wire ผสานกับขุมพลังขนาด 900 ซีซี. ที่ให้แรงบิดซะใจระดับ 80 นิวตัน-เมตร ที่ 2,850 รอบ/นาที ซึ่งเป็นรอบเครื่องยนต์ที่ใช้บ่อยในการเร่งแซง หรือจังหวะที่ต้องการเร่งเครื่องก็ตาม ซึ่งสามารถตอบสนองได้อย่างฉับไว ไม่มีอาการรีรอแม้แต่น้อย โดยตัวรถจะถูกควบคุมด้วยระบบ Traction Control อีกครั้ง เพื่อความปลอดภัย หากตัวรถเกิดอาการสะบัด หรือหน้ายก ระบบ Traction Control จะตัดการทำงานของคันเร่งทันที ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกครั้งที่ต้องการทำความเร็ว

 

ควบคุมได้อย่างใจสั่ง มั่นใจในทุกสถานการณ์

 

          ไม่เพียงแต่อัตราเร่งที่ให้การตอบสนองอย่างใจสั่งเท่านั้น ด้านระบบการควบคุม หรือ Handling ของเจ้า Street Scrambler ก็ให้การควบคุมที่เหนือระดับเช่นเดียวกัน ด้วยท่าทางการขับขี่ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างถนัดมือ ความสมดุลของตัวรถที่สมบูรณ์ทุกองศาการขับขี่ ผสานกับระบบช่วงล่างที่เซ็ตมาอย่างลงตัว ทำให้มั่นใจในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นโค้งแคบ โค้งลึก หรือโค้งกว้างๆ ที่ใช้ความเร็ว สามารถเติมคันเร่ง เทรถ ได้อย่างไร้กังวล ซึ่งได้ทดสอบสมรรถนะอย่างเต็มที่บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีโค้งซ้าย-ขวา สลับกับช่วงลงเขา และขึ้นเขา

 

Street Scrambler สามารถลุยไปได้ในทุกเส้นทางดั่งใจต้องการ

 

          อีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ ที่ทาง Triumph จัดให้เป็นพิเศษ คือ การนำเจ้า Street Scrambler ลงไปลุยในทางฝุ่น หรือ Dirttrack เพื่อทดสอบสมรรถนะของช่วงล่างที่สามารถลุยได้ในทุกสถานการณ์ โดยในเส้นทางนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้ทดลองใช้ระบบ Traction Control ในช่วงต้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าหากตัวรถมีอาการสะบัด หรือเสียการควบคุม ระบบ TTC จะทำงาน และเข้าช่วยเหลือ ตัดระบบคันเร่งโดยทันที ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับความปลอดภัยสูงสุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางทีมงาน BoxzaRacing อยากสัมผัสบรรยากาศของสายลุยแบบเต็มอารมณ์ จึงทำการปิดระบบ TTC จากสวิตช์บนแฮนด์บาร์ ซึ่งบอกตามตรงว่า ระบบช่วงล่างของ Street Scrambler ก็สามารถเอาอยู่ในทุกโค้ง ทุกสถานการณ์ แม้จะไร้ซึ่งระบบ TTC คอยช่วยเหลืออยู่ก็ตาม

 

Triumph Street Scrambler ราคา 475,000 บาท และ 481,500 บาท ในสี Matt Khaki Green

 

          สำหรับ Triumph Street Scrambler มี 3 โทนสีให้เลือก ได้แก่ สี Jet Black, สี Korosi Red/Frozen Silver สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 475,000 บาท และ สี Matt Khaki Green ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 481,500 บาท ในส่วนของการบำรุงรักษาก็มีการขยายระยะทางเป็น 16,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี แล้วแต่อย่างใดจะถึงก่อน นอกจากนี้การรับประกันคุณภาพของรถยังยาวนานถึง 2 ปี โดยที่ไม่จำกัดระยะทาง ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้งานได้อย่างเต็มที่

          นอกจากนี้ Triumph Street Scrambler ยังเพิ่มสไตล์ และขีดความสามารถให้ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ ด้วยอุปกรณ์เสริมมากกว่า 150 รายการ เพื่อการขับขี่บนเส้นทางวิบากได้อย่างทนทาน แต่ยังคงความดูดีมีสไตล์เฉพาะตัว โดยอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้งานบนทางวิบาก ประกอบด้วย โช้ค FOX แบบสปริงเกลียวสามารถปรับได้ 24 ระดับ, ตะแกรงไฟหน้าพร้อมกับกรอบไฟหน้าอะลูมิเนียม และตัวยึดแฮนด์บังคับอะลูมิเนียม ซึ่งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ยังรวมถึงท่อเก็บเสียงของ Vance & Hines แบบสลิปออน, เบาะที่นั่งคู่แบบดั้งเดิม และกระจกโค้งปลายแฮนด์เส้นผ่านศูนย์กลาง 70 มม.

 

Triumph Bonneville Bobber

 

          หลังจากที่ได้ทดสอบเจ้า Street Scrambler ครบถ้วนทุกขบวนการแล้ว ทางทีมงาน BoxzaRacing ขอเปลี่ยนอารมณ์มาควบรถบ็อบเบอร์ที่ล้ำสมัยที่สุดของยุคกันบ้างกับเจ้า Bonneville Bobber ซึ่งเป็นรถในสไตล์บ็อบเบอร์ที่ทาง Triumph สรรค์สร้างออกมาอย่างพิถีพิถัน และให้สมรรถนะการขับขี่ที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้ที่ติ บ่งบอกความเป็นตัวคุณได้อย่างครบถ้วน และชัดเจน โดยชูจุดเด่นเรื่องสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานกับความดุดันเร้าใจของขุมพลังระดับ 1,200 ซีซี. ซึ่งครั้งหนึ่งทางทีมงาน BoxzaRacing ได้มีโอกาสสัมผัสความเร้าใจของ Bonneville Bobber แบบพอหอมปากหอมคอกันไปบ้างแล้ว ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้ ทางทีมงานขอพูดถึงเรื่องสมรรถนะการขับขี่ล้วนๆ เพียงอย่างเดียว สำหรับใครที่อยากทราบข้อมูลรายละเอียดของตัวรถ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ใน Triumph Bonneville Bobber

 

Bonneville Bobber เครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 1,200 ซีซี. SOHC 8 วาล์ว 76 แรงม้า

 

          สำหรับ Bonneville Bobber มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 1,200 ซีซี. SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ได้รับการพัฒนาให้มีแรงบิดแบบ High Torque เพื่อการขับขี่ที่สนุก และเร้าใจ โดย Bonneville Bobber มีสมรรถนะอยู่ที่ 77 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงถึง 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด คลัตช์มือควบคุมแรงบิด ระบายไอเสียผ่านท่อไอเสียคู่ดีไซน์ออก 2 ฝั่ง ที่ให้สุ้มเสียงที่เร้าใจ เต็มอารมณ์

 

ความเท่ และความเร้าใจ ที่อยู่ภายใต้พื้นฐานความปลอดภัยที่เหนือระดับ

 

          โดยการขับขี่ในครั้งนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้สัมผัสกับความเร้าใจของ Bonneville Bobber แบบเต็มระบบ ซึ่งแน่นอนว่าด้วยความจุของเครื่องยนต์ระดับ 1,200 ซีซี. เรื่องความแรง และความเร้าใจในการขับขี่ Bonneville Bobber ให้การตอบสนองได้อย่างเต็มอารมณ์ ซึ่งทีมงานได้ลองออกตัวแบบกระชาก เพื่อดูอาการสบัดของตัวรถ และแรงบิดอันมหาศาลว่าจะทำลายล้างได้มากขนาดไหน แต่ปรากฏว่าระบบ TTC ได้เข้ามาช่วยเหลืออย่างทันใจ ทำให้แรงบิดอันมหาศาลลงสู่ล้อหลังอย่างเต็มกำลัง ส่งผลให้ตัวรถเร่งแซงไปข้างหน้าอย่างไร้อาการสบัดแม้แต่น้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าแม้แรงบิดจะเยอะแค่ไหน แต่ความปลอดภัยกลับไม่ได้ลดน้อยหายไปแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้การขับขี่เต็มไปด้วยความมั่นใจ จะเร่งแซง หรือช่วงทำความเร็วในทางตรงยาวๆ Bonneville Bobber ก็ให้การตอบสนองที่เชื่องมือ และนิ่งสงบ ซึ่งเรียนตามตรงว่า ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้ใช้ความเร็วถึงระดับ 180 กม./ชม. (ไม่แนะนำสำหรับการขับขี่ทั่วไปบนท้องถนน) เพื่อดูอาการของตัวรถ แต่ไฉน Bonneville Bobber กลับให้ความรู้สึกว่านี่ใช้ความเร็วเพียง 120 กม./ชม. ยังไงยังงั้น ทั้งเนียน ทั้งนิ่ง ผสานกับเสียงของขุมพลังอันแผดร้องอย่างเร้าใจ สะใจเต็มอารมณ์ทีมงาน BoxzaRacing จริงๆ

 

Handling ที่นิ่ง และแม่นยำ คือ หัวใจสำคัญของ Triumph Bonneville Bobber

 

          เมื่อความแรง และความเร้าใจตอบโจทย์ได้อย่างไร้ที่ติแล้ว เรื่องของการควบคุมก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Bonneville Bobber ทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ หากตัดสินด้วยรูปทรงที่เป็นแบบบ็อบเบอร์ หลายท่านคงจะคิดว่าการขับขี่ หรือการควบคุมมันจะทำได้ดีจริงหรือ ? หรือแค่ขับเท่ๆ แล้วจอดโชว์ได้อย่างเดียว แต่ทางทีมงาน BoxzaRacing ขอบอกตรงนี้เลยว่า ลบภาพในหัวของท่านทิ้งไปให้หมด เพราะแท้จริงแล้ว Bonneville Bobber ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ไม่ต่างอะไรจากรถสปอร์ต หรือรถทัวร์ริ่งทั่วไปแต่อย่างใด บางทีอาจจะดีกว่าในบางด้านด้วยซ้ำ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน และสัมผัสได้อย่างเด่ดชัดที่สุด คงต้องยกให้เป็นความนิ่ง และความแม่นยำของ Handling ไม่ว่าจะเป็นโค้งแคบ โค้งลึก โค้งกว้างๆ ใช้ความเร็ว Bonneville Bobber ก็ไปได้อย่างใจสั่ง สามารถเทโค้งได้อย่างสนุก (เทลึกอาจมีพักเท้าขูดพื้น) ด้วยรูปทรงที่ได้หลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) ผสานกับความสูงของตัวรถที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ และสนุกไปกับการขับขี่ได้อย่างไร้กังวล

 

Triumph Bonneville Bobber ราคา 570,000 บาท

 

          สำหรับ Triumph Bonneville Bobber มีโทนสีพรีเมียมคลาสสิกให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ สี Ironstone, สี Morello Red, สี Competition Green / Frozen Silver และสี Jet Black สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 570,000 บาท ในส่วนของการบำรุงรักษาก็มีการขยายระยะทางเป็น 16,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี แล้วแต่อย่างใดจะถึงก่อน นอกจากนี้การรับประกันคุณภาพของรถยังยาวนานถึง 2 ปี โดยที่ไม่จำกัดระยะทาง ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้งานได้อย่างเต็มที่

          นอกจากนี้ Triumph Bonneville Bobber ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือกมากกว่า 150 รายการ เพื่อการปรับแต่งรถตามสไตล์ รวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง หรือแม้แต่เสริมประสิทธิภาพของรถ อาทิ แฮนด์บังคับเลี้ยวแบบ Ape Hanger, เบาะแบบบากร่อง และบุนวม, ชุดระบบควบคุมความเร็วคงที่ และกระจกปลายแฮนด์ทรงกลมเพื่อภาพลักษณ์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น รวมถึงระบบช่วงล่างจาก FOX และท่อไอเสียใหม่หลากหลายสไตล์จาก Vance & Hines เป็นต้น

 

 

          สำหรับท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงทดลองขี่ และเป็นเจ้าของ Triumph Street Scrambler และ Triumph Bonneville Bobber ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์อย่างเป็นทางการ 10 สาขาทั่วประเทศ โดยหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด Email: Contact.TH@triumphmotorcycles.com รวมถึงติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcycleThailand

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook