เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 11 มกราคม 2560 - 18:16

Kawasaki ZX-10RR vs. BMW S1000RR รุ่นใดจะเป็นที่สุดของสายรหัสดับเบิ้ล R วันนี้รู้กัน

 

          กลับมาพบกันอีกครั้ง สำหรับบทความเปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ที่ครบเครื่อง และครอบคลุมที่สุด ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน BoxzaRacing ขอส่งความเร้าใจครั้งยิ่งใหญ่ ประเดิมศักราชด้วยคู่ Battle ที่มีมิตรรักแฟนเพลงรอติดตาม และเรียกร้องกันเข้ามาอย่างหนาหู กับรถ Super Bike ภายใต้รหัสดับเบิ้ล R

          ซึ่งทั้ง 2 รุ่น ที่ทางทีมงานหยิบมานำเสนอในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Kawasaki ZX-10RR หรือ BMW S1000RR ถือเป็นคู่เดือดแห่งวงการ Big Bike ในบ้านเรา และมีการนำไปเปรียบเทียบกันต่างๆ นานา แต่ทว่าข้อมูลที่คุณได้เสพมา จะแท้จริงประการใด วันนี้ทางทีมงาน BoxzaRacing จะไขข้อข้องใจให้หายไปทุกประการ

 

Kawasaki Ninja ZX-10RR

 

          เริ่มต้นด้วยโมเดลใหม่ล่าสุดจากค่ายยักษ์เขียวกันก่อนเลย รถ Super Sport ที่ออกแบบมาเพื่อคว้าชัยชนะในการแข่งขัน WSBK กับ Kawasaki Ninja ZX-10RR ที่ได้รับการปลดเปลื้องอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นต่อการทำความเร็วออก เพื่อให้สมกับเป็นรถสปอร์ตพันธุ์แกร่ง ที่สามารถใช้งานบนท้องถนนได้ ซึ่งผลิตเพื่อจำหน่ายทั่วโลกเพียง 1,000 คันเท่านัน โดยจากการทดสอบของนักทดสอบจาก Kawasaki ที่สนามทดสอบออโต้โพลิส (Autopolis Circuit) สามารถทำความเร็วได้ดีกว่ารุ่นมาตรฐานถึง 2 วินาที และนั่นจึงเป็นที่มาของ Kawasaki Ninja ZX-10RR Winter Test Limited Edition

 

Kawasaki Ninja ZX-10RR Winter Test Limited Edition

โลโก้รูปเกล็ดหิมะทั้งที่ฝาครอบท้ายเบาะ และชิลด์หน้า เช่นเดียวกับรถทดสอบในฤดูหนาวของทีม Kawasaki Racing Team

 

สัมผัสความสปอร์ตเต็มพิกัดด้วยเอกลักษณ์พิเศษ “RR” ที่มีเพียง 1,000 คันเท่านั้น

 

          สำหรับรายละเอียดภายนอกของ Kawasaki Ninja ZX-10RR โดยรวมยังคงเอกลักษณ์ความเร้าใจของ ZX-10R โฉมปัจจุบันอย่างสมบูรณ์ แต่มีการพัฒนาในเรื่องของน้ำหนักตัวรถ และการทำ Aerodynamic เพื่อให้เป็นรถที่มีความเป็น Sport Bike อย่างเต็มภาคภูมิ โดย Ninja ZX-10RR จะมีเพียงที่นั่งเดียว ดีไซน์พิเศษปราศจากที่พักเท้าผู้โดยสาร และมาพร้อมกับปลายท่อไอเสียใหม่น้ำหนักเบา ที่สามารถลดน้ำหนักตัวรถได้อีก 1 กก. เมือเทียบกับรุ่นมาตรฐาน ฝาครอบท้ายเบาะให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ต นอกจากนี้ ยังมีโลโก้รูปเกล็ดหิมะตกแต่งเหมือนกันทั้งที่ฝาครอบท้ายเบาะ และชิลด์หน้า เช่นเดียวกับรถทดสอบในฤดูหนาวของทีม Kawasaki Racing Team ซึ่ง Ninja ZX-10RR แต่ละคันจะมีแผ่นป้ายหมายเลขเฉพาะประทับที่ขายึดโช้คอัพหน้า พร้อมโลโก้ RR บนแฟริ่ง บ่งบอกความเป็นสปอร์ตเต็มพิกัด เติมเต็มความสปอร์ตเหนือระดับด้วยโลโก้ “RR” ทีกุญแจสตาร์ท

 

ระบบช่วงล่างของ ZX-10RR พัฒนาใหม่จากพื้นฐานของ ZX-10R ให้มีความสปอร์ตเร้าใจมากยิ่งขึ้น

 

          ส่วนระบบช่วงล่างของ Kawasaki Ninja ZX-10RR ยังคงใช้พื้นฐานเดิมจากรุ่นมาตรฐาน แต่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ให้มีสมรรถนะในการขับขี่ที่เน้นไปในทิศทางที่สปอร์ตมากยิ่งขึ้น ตามแบบฉบับรถทดสอบในฤดูหนาวของทีม Kawasaki Racing Team ไม่ว่าจะเป็นไส้ในของโช้คอัพหน้าแบบ Upside Down ของ Showa ขนาด 43 มม. พร้อมด้วยกระปุกโช้คแยกสำหรับการปรับ Compression, Rebound และ Preload ได้แบบครบครัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากระบบที่ใช้ในสนามแข่ง WSBK และโช้คอัพด้านหลังเป็นแบบนอนจาก Showa Balance Free Rear Cushion (BFRC) สามารถปรับ Compression, Rebound และ Preload ได้เช่นกัน

 

ระบบเบรคของ Kawasaki Ninja ZX-10RR ได้รับการพัฒนาใหม่จากพื้นฐานของ ZX-10R

ล้อฟอร์จดีไซน์พิเศษจาก Marchesini ใน Kawasaki Ninja ZX-10RR

 

          สำหรับระบบเบรคของ Kawasaki Ninja ZX-10RR ก็ได้รับการพัฒนาใหม่ บนพื้นฐานเดิมของ ZX-10R เช่นเดียวกัน โดยยังคงใช้จานดิสก์คู่ขนาด 330 มม. พร้อมระบบเบรค ABS ปั้มจาก Brembo M50 Monobloc และเบรคหลังใช้เป็นจานดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มม. ปั๊มจาก Nissin โดยที่ลูกสูบจะเป็นอลูมิเนียม และกันสะบัดที่สามารถปรับไฟฟ้าได้ จากแบรนด์ Ohlins นอกจากนี้ Kawasaki ZX-10RR ยังมาพร้อมกับล้อฟอร์จดีไซน์พิเศษจาก Marchesini แบบ 7 ก้าน อีกด้วย ส่วนด้านเทคโนโลยีก็ยังคงครบถ้วนเต็มระบบเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น Sport-Kawasaki Traction Control, Intelligent anti-lock Brake System, Launch Control Mode, Quick Shifter และ Engine Brake Control

 

เครื่องยนต์ของ Kawasaki Ninja ZX-10RR ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ จากประสบการณ์ในสนามแข่งรายการ Superbike World Championship

 

          สำหรับขุมพลังของ Kawasaki Ninja ZX-10RR ได้รับการพัฒนาใหม่ จากประสบการณ์ในสนามแข่งรายการ Superbike World Championship โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 998 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ขนาดกระบอกสูบ 76 x 55 มม. กำลังอัด 13.0:1 ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด พร้อมออกแบบถ้วยกดวาล์วเคลือบด้วย DLC (คาร์บอนทีมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับเพชร) อีกทั้งฝาสูบยังได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อให้มีระยะยกลูกเบี้ยวสูงขึ้น เทียบเท่ากับเวอร์ชั่นตัวแข่งในสนาม โดยมอบสมรรถนะสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 113 นิวตัน-เมตร ที่ 11,500 รอบ/นาที พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

 

Kawasaki ZX-10RR Winter Test Limited Edition ราคา 785,000 บาท

 

          สำหรับราคาค่าตัวของ Kawasaki ZX-10RR Winter Test Limited Edition ถูกเปิดตัวมาที่ 785,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่เร้าใจเอามากๆ สำหรับสมรรถนะที่ถูกถ่ายทอดโดยตรงจากรายการแข่งขันระดับโลก รวมไปถึงความพิเศษสำหรับผู้ที่ครอบครอง ที่มีจำนวนเพียง 1,000 คันทั่วโลก

 

BMW S1000RR

 

          มาต่อกันที่รถ Sport Bike ยอดนิยม ที่เหล่าไบค์เกอร์ชาวไทยต่างเทใจให้อย่างล้นหลาม เรียกได้ว่าเป็นรถ Sport Bike ที่เหล่าไบค์เกอร์ชาวไทยจะนึกถึงเป็นอันดับแรกเลยทีเดียว กับ BMW S1000RR หรือที่คนไทยให้ฉายามันว่า "ฉลาม" ซึ่งต้องยอมรับว่าย้อนหลังกลับไป 1-2 ปีก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องที่ยาก หากจะหารุ่นใดมาเทียบเทียมความแรงของมัน กับความเร้าใจระดับ 200 แรงม้า ที่กำเนิดมาก่อนใครในคลาสนี้

 

แฮนด์แบบจับยึดกับโช้คอัพใต้แผงคอ ให้อารมณ์การควบคุมสไตล์รถ Super Sport

 

          ซึ่งเจ้าฉลาม BMW S1000RR โมเดลนี้ ถูกประกอบขึ้นในบ้านเรานี่เอง สำหรับการออกแบบนั้นมาพร้อมกับรูปทรงที่เป็น Super Sport Bike เต็มพิกัด แฟริ่งที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะช่องดักลมที่ออกแบบมาสไตล์แบบครีบฉลาม รวมไปดีไซน์ไฟหน้าที่คงความเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในคลาส ที่ออกแบบโคมไฟหน้าไม่เหมือนกัน รวมไปถึงลวดลายของชุดแฟริ่งที่มองเพียงแค่แว๊บแรกก็สามารถรู้ได้ทันทีว่ามันคือ S1000RR

 

หน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอล ผสมอนาล็อคของรอบเครื่องยนต์

 

          มาต่อกันที่ทางด้านหน้าปัดเรือไมล์ของเจ้าฉลาม BMW S1000RR ที่เป็นการผสมผสานระหว่างแบบดิจิตอล และอนาล็อกอย่างลงตัว ที่บอกค่ารายละเอียดการทำงานของเครื่องยนต์อย่างครบครัน พร้อมเสริมด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่มีมาให้ ไม่ว่าจะเป็นการเซ็ตค่าของ DDC, DTC, การจับเวลาต่อรอบ และ Lap Distance, Lap-Specific Speed, Active Riding Mode, Gear Changes per lap เป็นต้น

 

Gear Shift Assistant Pro หรือ Qick Shifter ของ BMW S1000RR

 

          สำหรับอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของ BMW S1000RR คงจะต้องยกให้เป็นด้านเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทาง BMW จัดเต็มมาให้แบบไม่มีกั๊ก ไม่ว่าจะเป็นระบบ Dynamic Damping Control (DDC) หรือระบบควบคุมช่วงล่างแบบใช้ไฟฟ้า ที่สามารถปรับค่า Compression, Rebound และ Preload ได้อย่างครบครันบนหน้าปัดเรือนไมล์, Gear Shift Assistant Pro หรือ ระบบการเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องใช้คลัทช์ พ่วงมาด้วยระบบควบคุมล้อหมุนฟรีอย่าง Dynamic Traction Control

 

เทคโนโลยี และระบบช่วงล่างที่จัดเต็ม ตามแบบฉบับรถ Super Sport ของ BMW

 

          สำหรับระบบช่วงล่างของ BMW S1000RR มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside Down จาก SACHS ขนาด 46 มม. มีระยะการยุบตัวอยู่ที่ 120 มม. ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Mono Shock แบบมีซับแท้งค์แยกของ SACHS ทำงานร่วมกับกระเดืองที่สวิงอาร์ม พร้อมทั้งสามารถปรับระดับการ Preload ได้ด้วย ทางด้านเบรคหน้ามาพร้อมดิสก์เบรคคู่จาก Brembo ขนาด 320 มม. ปั้มเบรคของ Brembo และปั้มบนเป็นของ Nissin และเบรคหลังเป็นแบบจานดิสก์เดี่ยว Brembo ขนาด 220 มม. และคาลิปเปอร์ของ Brembo เช่นเดียวกัน เสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรค ABS ทั้งหน้า และหลัง

 

ขุมพลัง 4 สูบเรียง 999 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว 199 แรงม้า

 

          ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์ของเจ้าฉลาม BMW S1000RR ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของมันเลยก็ว่าได้ กับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 999 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว กระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 80 x 49.7 มม. กำลังอัด 13.0:1 ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด พร้อม Quick Shifter ให้สมรรถนะสูงสุดที่ 199 แรงม้า ที่ 13,500 รอบ/นาที และมีแรงบิด 113 นิวตัน-เมตร ที่ 10,500 รอบ/นาที ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ และออยคูลเลอร์ ตอบสนองได้ดั่งใจด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride by Wire

 

BMW S1000RR นั้นเริ่มต้นที่ 820,000 บาท และราคา 840,000 บาท (ในสีไตรคันเลอร์)

 

          สำหรับราคาค่าตัวของ BMW S1000RR นั้นเริ่มต้นที่ 820,000 บาท (ในสีธรรมดา) และราคา 840,000 บาท (ในสีไตรคันเลอร์) ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงกว่า แต่ก็ดูจะสมน้ำสมเนื้อ เมื่อเทียบกับสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ BMW ใส่มาให้แบบไม่มีกั๊ก ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า หากย้อนกลับไปครั้นเมื่อเจ้าฉลามถือกำเนิดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คงไม่มี Sport Bike รุ่นไหนที่พกความเร้าใจติดตัวมาเยอะขนาดนี้อย่างแน่นอน

 

เปรียบเทียบกันชอตต่อชอต

 

เปรียบเทียบกันทุกซอกทุกมุม

 

ตารางเปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐาน Kawasaki Ninja ZX-10RR กับ BMW S1000RR

Kawasaki ZX-10RR  สเปครายละเอียดพื้นฐาน BMW S1000RR
 4 สูบเรียง  เครื่องยนต์  4 สูบเรียง 
998 ซีซี.  ปริมาตรกระบอกสูบ 999 ซีซี.
DOHC 4 วาล์ว/สูบ  ระบบวาล์ว  DOHC Titanium 4 วาล์ว/สูบ
76 mm. x 55 mm.  ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก 80 mm. x 49.7 mm.
200 HP @13,000 rpm  แรงม้า 199 HP @13,500 Rpm
113 Nm @11,500 Rpm  แรงบิด 113 Nm @10,500 Rpm
13.0:1  อัตราส่วนการอัด  13.0:1
Quick Shifter 6 Speed  ระบบเกียร์ Quick Shifter 6 Speed
 Fuel injection  ระบบจ่ายน้ำมันเชื่อเพลิง   Fuel injection
สตาร์ทไฟฟ้า(มือ)  ระบบสตาร์ท  สตาร์ทไฟฟ้า(มือ)
คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate  ระบบคลัทช์  คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate 
120/70ZR17M/C (58W)  ขนาดยางหน้า 120/70ZR17
190/55ZR17M/C (75W)  ขนาดยางหลัง 190/55ZR17
Upside Down ของ Showa ขนาด 43 มม.  โช็คอัพหน้า Upside Down ของ SACHS ขนาด 46 มม.

Horizontal Back-link ของ BFRC

 โช็คอัพหลัง Mono Shock ของ SACHS

Twin Disc ขนาด 330 มม. ปั้มเบรค Brembo พร้อมระบบเบรค ABS

 เบรคหน้า  Twin Disc คาลิปเปอร์ Brembo พร้อมระบบเบรค ABS

จานดิสก์ 220 มม. พร้อมระบบเบรค ABS

 เบรคหลัง   จานดิสก์เดี่ยว Brembo พร้อมระบบเบรค ABS
2,090 x 740 x 1,145 มม.  ยาวxกว้างxสูง 2,056 x 826 x 1,138 มม.
835 mm.  ความสูงเบาะ 820 mm.
206 kg.  น้ำหนักรถ  202 kg.
17 ลิตร  ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง  17.5 ลิตร
785,000 บาท  ราคาจำหน่าย 820,000 - 840,000 บาท

 

Comment

          สำหรับใครที่กำลังสนใจ และหมายปองรถ Super Sport Bike ทั้ง 2 รุ่น ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Kawasaki Ninja ZX-10RR และ BMW S1000RR ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มีข้อดี และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

          โดยหากใครที่ชื่นชอบความเป็น Sport Bike ที่ได้รับการถ่ายทอดขุมพลังจากสนามแข่งแบบเต็มพิกัด รวมไปถึงความพิเศษในรูปแบบ Limited Edition ที่มีเพียง 1,000 คันในโลก ในเวลานี้คงไม่มีรุ่นไหนจะพิเศษไปกว่า Kawasaki Ninja ZX-10RR ไปได้ แต่หากใครที่ชื่นชอบความโหด ความดิบ แล้วความเท่ที่กาลเวลาไม่สามารถหักล้างได้ รวมไปถึงสมรรถนะของขุมพลังที่ไม่เคยเป็นรองใคร BMW S1000RR ก็ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่สาย Sport Bike ไม่สามารถมองข้ามได้

 

 

          หากเทียบกันที่สมรรถนะโดยรวมของทั้ง 2 รุ่น ก็คงต้องบอกว่าคงกินกันไม่ลงจริงๆ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของแรงม้า หรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่บรรจุมาให้ ต่างก็มีความใกล้เคียง และโดดเด่นกันไปกันคนละด้าน แต่ถูกหากมองความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย ดูเหมือนว่า Kawasaki ZX-10RR จะน่าสนใจกว่า ด้วยโมเดลที่พึ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ แถมยังมีเพียง 1,000 คันในโลก ในราคาที่ถูกกว่าประมาณ 40,000 บาท กับภาพลักษณ์ของแชมป์เปี้ยนที่ส่งตรงจากสนามแข่ง WSBK ปีล่าสุด แต่ก็ใช่ว่า BMW S1000RR จะด้อยกว่าประการใด เจ้าฉลามลำนี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในสุดยอดรถ Sport Bike พิกัด 1,000 ซีซี. ในเวลานี้ หากคุณชื่นชอบความดุดัน S1000RR ตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook