หากจะบอกว่า...ในปัจจุบัน รถมอเตอร์ไซค์ Touring Adventure กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ เพราะด้วยวิถีไบค์เกอร์ที่หันมาให้ความสนใจในการเดินทางออกทริปในเส้นทางธรรมชาติได้รับความนิยมมากขึ้นอยู่ทุกวัน และด้วยสมรรถนะของตัวรถที่พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง รวมไปถึงเทคโนโลยี และลักษณะของรถมอเตอร์ไซค์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับนักเดินทางโดยเฉพาะ
สำหรับการเปรียบเทียบในวันนี้ ทาง BoxzaRacing ขอหยิบนำเอารถสไตล์ Touring Adventure จากค่ายส้อมเสียง Yamaha FJ-09 มาประลองฝีมือกับรถ Adventure ขนานแท้ของ BMW F800GS เพื่อค้นหาว่า รุ่นใดจะเป็นคำตอบของนักเดินทางสายลุยมากกว่ากัน
Yamaha FJ-09
เรามาเริ่มกันที่ค่าย Yamaha กันก่อนเลย กับเจ้า FJ-09 หรือรุ่น MT-09 Tracer ซึ่งเป็นรุ่นที่ต่อยอดความสำเร็จมาจาก MT-09 โดยทางค่ายยักษ์ใหญ่จากดินแดนอาทิตย์อุทัย ได้ทำการปรับตัวแฮนด์บาร์ให้มีความกว้างและสูงขึ้น บวกกับท่านั่งในยามขับขี่ที่สะดวกสบายมากกว่าเก่า รวมไปถึงความโฉบเฉี่ยว คล่องตัว ทางด้านชิลด์หน้าของมันก็ยังสามารถปรับระดับให้สูง-ต่ำได้ และยังมีออพชั่นอย่างช่องเสียบไฟ 12 โวลต์ ไว้สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทางด้านหลังจะเสริมมาด้วยแรคสำหรับยึดกระเป๋าเดินทางมาให้ เรียกได้ว่าเป็นการตอบโจทย์เหล่านักเดินทางอย่างแท้จริง
ไฟหน้า LED อันดุดันของ Yamaha FJ-09
สำหรับมุมมองด้านหน้าของเจ้า Yamaha FJ-09 มาพร้อมกับไฟหน้า LED 2 โคมแยกซ้าย-ขวา ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ LED อีกทั้งด้านหน้าของแฮนด์ยังถูกเสริมความแข็งแกร่งไว้ด้วยการ์ดแฮนด์อีกด้วย และแน่นอนว่ารถบิ๊กไบค์สำหรับนักเดินทางก็ต้องมีการเพิ่มปริมาณความจุของถังน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้สามารถรองรับการขับขี่ในระยะทางไกล โดย Yamaha FJ-09 มาพร้อมกับถังน้ำมันที่สามารถบรรจุได้ถึง 18 ลิตร จาก MT-09 ที่บรรจุได้ 14 ลิตร เท่านั้น
หน้าปัดเรือนไมล์อันล้ำสมัยของ Yamaha FJ-09
มาต่อกันในส่วนของระบบช่วงล่างของเจ้า Yamaha FJ-09 ที่มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ Upside Down ขนาด 41 มม. ที่ให้การยุบตัวได้อย่างดีเยี่ยม รองรับกับการขับขี่ในทุกสภาวะ ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับโช้คอัพเดี่ยวในแนวนอนจับยึดกับลิ้งค์สวิงอาร์ม ส่วนระบบเบรคของ Yamaha FJ-09 มาพร้อมตัวช่วยอย่าง ABS ทั้งยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เพื่อรักษาความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้นไปอีกระดับกับระบบ Traction Control
ขุมพลัง Crossplane 3 สูบ 847 ซีซี. ของ Yamaha FJ-09
ทางด้านเครื่องยนต์ของ Yamaha FJ-09 ก็ถือเป็นการยกชุดมาจาก MT-09 ทั้งหมด นั่นก็คือ เครื่องยนต์ขนาด 847 ซีซี. 4 จังหวะ ด้านแรงม้ามีมาให้ถึง 115 ตัว ที่ 10,000 รอบ/นาที ส่วนทอร์คหรือแรงบิดก็มีมาให้แบบจุใจที่ 87.5 นิวตัน-เมตร ที่ 8,500 รอบ/นาที ทั้งนี้มันก็มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับได้ 3 แบบ นั่นก็คือ โหมดทัวร์ริ่ง ที่เหมาะกับการเดินทางระยะไกลโดยเฉพาะ โหมดธรรมดา เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป และโหมด Sport แน่นอนว่าโหมดนี้ ได้รับการออกแบบมาให้เรียกพละกำลังอันมหาศาลของมันออกมาได้แบบเต็มพิกัดเลยทีเดียว
Yamaha FJ-09 กับราคาค่าตัว 479,000 บาท
โดยเจ้าบิ๊กไบค์สำหรับนักเดินทาง และกึ่งแอดเวนเจอร์คันนี้ มีราคาอยู่ที่ 479,000 บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นค่าตัวที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ทั้งสมรรถนะต่างๆ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย และออพชั่นที่มีมาให้อย่างครบครัน
BMW F800GS
มาต่อกันที่รถในสายลุยแบบเต็มพิกัดกันบ้าง กับ BMW F800GS ซึ่งถูกออกแบบมาในสไตล์ Adventure พันธุ์แท้ ทำให้สมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรด ทำได้ดีมากไปกว่าเดิม หากจะกล่าวถึงจุดน่าสนใจของมอเตอร์ไซค์สายลุยรุ่นนี้ ก็คือ เรื่องของถังน้ำมันที่มีความจุถึง 16 ลิตร ซึ่งประโยชน์ข้อนี้เอง ที่ทำให้รถวิ่งได้ไกลกว่าเดิมถึง 40% เลยก็ว่าได้ ดังสโลแกนของ BMW นั่นก็คือ “55 mpg at 55 mph” โดยการทดสอบสามารถเดินทางไกลได้ถึง 400 กิโลเมตร หรือ 250 ไมล์ ในการขับขี่แบบปกติ
ดีไซน์สไตล์ลุยแบบเต็มตัว
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของ BMW F800GS มาพร้อมการออกแบบในสไตล์ที่พร้อมลุยแบบเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของด้านหน้าที่มาพร้อมกับบังโคลนปากเหยี่ยว ไฟหน้าแบบ 2 ช่อง และวินชิลด์หน้ากันลมปะทะแบบสูง ควบคุมบังคับเลี้ยวผ่านแฮนด์บาร์ ที่มาพร้อมการ์ดกันกระแทกในตัว โครงรถเป็นแบบ Tubular steel trellis frame, load-bearing engine น้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่งทรงพลัง ทางด้านหลังจะเสริมมาด้วยแรคสำหรับยึดกระเป๋าเดินทางมาให้
BMW F800GS มาพร้อมระบบ ESA, Enduro สำหรับ ABS และ ASC
จุดเด่นอีกอย่างของ BMW F800GS คือระบบ ESA ซึ่งย่อมาจาก Electronic Suspension Adjustment อันเป็นระบบที่สามารถปรับแต่งการ Damping ของแฮนด์จับได้ถึง 3 ระดับ หน้าปัดเรือนไมล์แบบอนาล็อค ผสมดิจิตอล แสดงผลผ่านหน้าจอ LCD ที่บอกค่ารายละเอียดการทำงานของเครื่องยนต์อย่างครบครัน นอกจากนี้ BMW F800GS ยังมาพร้อมระบบ Enduro สำหรับ ABS และ ASC (traction control) อีกด้วย
ระบบช่วงล่างของ BMW F800GS ที่พร้อมลุย และปลอดภัยทุกการเดินทาง
สำหรับระบบช่วงล่างของ BMW F800GS มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside Down ขนาด 43 มม. และด้านหลังแบบ Cast aluminium dual swing arm, WAD strut ที่สามารถปรับตั้งค่า Spring pre-load hydraulically และ Rebound damping ได้ ส่วนระบบเบรคมาพร้อมกับจานดิสก์เบรคคู่หน้าขนาด 300 มม. คาลิปเปอร์แบบ 4 POT และด้านหลังเป็นจานดิสก์เบรคเดี่ยวขนาด 265 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว ที่มาพร้อมกับระบบเบรค ABS
BMW F800GS มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ 4 จังหวะ Parallel Twin Engine 798 ซีซี.
ส่วนทางด้านขุมพลังของ BMW F800GS มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ 4 จังหวะ Parallel Twin Engine แบบ DOHC 8 วาล์ว ขนาด 798 ซีซี. ความจุกระบอกสูบ x ช่วงชัก 82 x 75.6 มม. กำลังอัด 12.0:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 85 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 83 นิวตัน-เมตร ที่ 5,750 รอบ/นาที
BMW F800GS กับราคาค่าตัวที่ 550,000 บาท
สำหรับราคาค่าตัวของ BMW F800GS ถูกตั้งไว้ที่ 550,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร แต่เมื่อเทียบกับสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจากรถฝั่งยุโรปแล้วล่ะก็ BMW F800GS ก็เป็นอีกรุ่นที่ขาลุยทั้งหลายไม่ควรมองข้าม
เปรียบเทียบกันชอตต่อชอต
เปรียบเทียบทุกซอกทุกมุม
ตารางข้อมูลพื้นฐาน Yamaha FJ-09 กับ BMW F800GS
Yamaha FJ-09 | สเปค รายละเอียดพื้นฐาน | BMW F800GS |
4 จังหวะ 3 สูบ Crossplane | เครื่องยนต์ | 4 จังหวะ 2 สูบ Parallel Twin Engine |
847 cc. | ปริมาตรกระบอกสูบ | 798 ซีซี. |
DOHC 4 วาล์ว/สูบ | ระบบวาล์ว | DOHC 4 วาล์ว/สูบ |
78.0 x 59.1 mm. | ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 82 x 75.5 mm. |
115 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที | แรงม้า | 85 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที |
87.5 นิวตันเมตรที่ 8,500 รอบ/นาที | แรงบิด | 83 นิวตัน-เมตร ที่ 5,750 รอบ/นาที |
11.5 : 1 | อัตราส่วนการอัด | 12.0:1 |
Manual 6 Speed | ระบบเกียร์ | Manual 6 Speed |
หัวฉีด Yamaha Fuel Injection with YCC-T | ระบบจ่ายน้ำมันเชื่อเพลิง | หัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ |
สตาร์ทมือ | ระบบสตาร์ท | สตาร์ทมือ |
คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate | ระบบคลัทช์ | คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate |
120/70ZR17 | ขนาดยางหน้า | 90/90 - 21 54V |
180/55ZR17 | ขนาดยางหลัง | 150/70 - 17 69V |
UpsideDown 41 mm. | โช็คอัพหน้า | Upside Down Showa 43 มม. |
โช๊คอัพเดี่ยวจับยึดบนสวิงอาร์ม |
โช็คอัพหลัง | Cast aluminium dual swing arm, WAD strut |
ดิสก์คู่ 298 mm. ABS |
เบรคหน้า | ดิสก์คู่ 300 มม. คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ ABS |
ดิสก์เบรค 245 มม. ABS | เบรคหลัง | ดิสเดี่ยว 265 มม. คาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว ABS |
2,160 x 950 x 1,375 มม. | ยาวxกว้างxสูง | 2,320 x 945 x 1,350 มม. |
- | ความสูงเบาะ | 820 มม. |
210 กก. | น้ำหนักรถ | 214 กก. |
18 ลิตร | ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 16 ลิตร |
479,000 บาท | ราคาจำหน่าย | 550,000 บาท |
Comment
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับการเปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ของ 2 รุ่น ที่ทาง BoxzaRacing หยิบมานำเสนอกันในคราวนี้ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นดังกล่าว ต่างก็มีจุดเด่น และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และสไตล์การขับขี่ของแต่ละท่าน ไม่ว่าจะเป็น Yamaha FJ-09 ที่กำเนิดมาเพื่อตอบสนองนักเดินทางที่ต้องการความเร้าใจ ผสานกับดีไซน์ที่มีความดุดันเป็นจุดเด่น รวมไปถึงสมรรถนะขุมพลังความแรงของเครื่องยนต์ Crossplane ที่เหนือชั้น หรือจะเป็น BMW F800GS รถ Adventure สำหรับสายลุยขนานแท้ ที่มาพร้อมดีไซน์อันแข็งแกร่ง และความอเนกประสงค์ให้พร้อมสรรพ รวมไปถึงสมรรถนะในการลุยเส้นทางทั้ง On-Road และ Off-Road ที่ไม่มีใครเทียบได้
ซึ่งการ Battle กันของ 2 รุ่นนี้ ดูเหมือนว่าทาง Yamaha FJ-09 จะมีสมรรถนะโดยรวมที่โดดเด่นกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขุมพลัง หรือดีไซน์ที่สามารถใช้งานได้ทั้งในเมือง และขับขี่ออกทริป อีกทั้งด้านราคายังเข้าถึงง่ายกว่า ส่วน BMW F800GS ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่กำเนิดมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับสายลุยขาโหด ที่ต้องการขับขี่ในเส้นทางที่เหนือจินตนาการ และแน่นอนว่าถ้าคุณคือผู้ชื่นชอบการขับขี่ที่ท้าทาย BMW F800GS เป็นรถสำหรับสายลุยที่คุณต้องมีไว้ในครอบครอง
นี่คือ การเปรียบเทียบจากข้อมูลบางส่วน เพื่อประกอบการตัดสินใจของไบค์เกอร์ทุกท่าน และในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike รุ่นไหนมาทำการ Battle ให้ชาวสองล้อขาซิ่งทั้งหลายได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันในรอบต่อไปที่ BoxzaRacing ที่นี่...ที่เดียวเท่านั้น