Yamaha YZF-R1 vs. Suzuki GSX-R1000 เทคโนโลยีไม่เกี่ยว วัดกันเดี่ยวๆ ที่ความสะใจ !

          อีกหนึ่งความเร้าใจของคู่เดือดแห่งสาย Sport Bike พิกัด 1,000 ซีซี. แดนปลาดิบ ที่ทาง BoxzaRacing นำมาประชันกันในครั้งนี้ นั่นก็คือ Yamaha YZF-R1 รถซุปเปอร์ไบค์ที่ได้รับการโหวตให้เป็นรถที่มีสมรรถนะโดยรวมดีเยี่ยมที่สุด กับ Suzuki GSX-R1000 รถ Sport Bike ที่ ณ เวลานี้ มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ให้ได้เห็น (แต่คงอีกนานกว่าจะมีจำหน่ายในประเทศไทย) โดยการเปรียบเทียบครั้งนี้ จะเน้นไปที่ความดิบของตัวรถ และฟิลลิ่งของการขับขี่ของทั้ง 2 รุ่น ว่ารุ่นใดจะมีความเร้าใจในการขับขี่มากกว่ากัน

Yamaha YZF-R1

          เรามาเริ่มกันที่ตัวแรงแห่งยุค การันตีด้วยแชมป์ MotoGP ปีล่าสุดกันก่อนเลยดีกว่า กับ Yamaha YZF-R1 รถ Sport Bike แบบเต็มขั้น ในโฉมปี 2015 ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ในหลายจุดด้วยกัน โดยเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนจากตัวแฟริ่งที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ ให้มีความเป็นเหลี่ยมเป็นสันดูมีเชฟมากขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมกับไฟหน้า LED คู่ขนาดเล็ก และไฟเดย์ไลท์ LED แบบเป็นเส้นที่ดูโฉบเฉี่ยว อีกทั้งยังเสริมไฟเลี้ยว LED ฝังอยู่ในกระจกมองข้าง ตลอดจนไฟท้ายเรียวยาวแบบ LED อีกเช่นกัน ช่องดักลมด้านหน้าแบบ YZR-M1 แชมป์ MotoGP รุ่นล่าสุด ล้อแมกนีเซียมอัลลอย เฟรมแบบ Aluminum Deltabox พร้อมซับเฟรมหลังแมกนีเซียม ปิดท้ายด้วยสวิงอาร์มอลูมินัม

โฉมหน้าสุดเท่ของ Yamaha YZF-R1

ระบบช่วงล่างของ Yamaha YZF-R1

          สำหรับตัวแฟริ่งของ Yamaha YZF-R1 ได้รับการออกแบบมาให้มีความดุดันทุกส่วนสัด ในส่วนของแผงเรือนไมล์ใช้เป็นแบบ Digital TFT LCD สามารถปรับโหมดแสดงผลแบบ Street และ Track ได้ และยังสามารถปรับสี Background ให้เป็นสีขาว และสีดำได้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลในนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน ในเรื่องของระบบกันสะเทือน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโช้คอัพ KYB โดยด้านหน้ามีขนาดแกน 43 มม. สามารถปรับ Compression, Rebound Damping และ Spring Preload ได้ ส่วนด้านหลังก็สามารถปรับค่าต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน และอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญก็คือ สวิงอาร์มที่เลือกใช้เป็นแบบ Upper Bracing Swing-Arm แทนแบบ Lower Bracing ที่เคยได้ใช้มาในรุ่นก่อนหน้านี้

ขุมพลัง Crossplane CP4 ขนาด 998 ซีซี. ที่ให้พละกำลังสูงถึง 200 แรงม้า

          มาดูทางด้านขุมพลังสุดร้อนแรงของเจ้า Yamaha YZF-R1 กันบ้าง โดยเจ้าตัวมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี. เป็นแบบ 4 สูบเรียง Crossplane CP4 ซึ่งมีรูปแบบการจุดระเบิดเช่นเดียวกันกับ YZR-M1 แชมป์ MotoGP ของทาง Yamaha ที่มีแรงบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ พร้อมลูกสูบแบบ Forged Aluminum, เพลาข้อเหวี่ยงไทเทเนียม, กระเดื่องกดวาล์วที่ออกแบบใหม่ ห้องเผาไหม้มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0:1 ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่งผลให้ Yamaha R1 มีแรงม้าถึง 200 ตัว สมกับเป็นรถซุปเปอร์ไบค์ที่ได้รับการโหวตให้เป็นรถที่มีสมรรถนะโดยรวมดีเยี่ยมที่สุดจริงๆ

Yamaha YZF-R1 กับราคาค่าตัว 899,000 บาท

          ด้านราคาของเจ้า Yamaha YZF-R1 ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับสมรรถนะที่จัดเต็ม โดยมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 899,000 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบราคากับสมรรถนะที่ได้รับ รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบที่เร้าใจขาซิ่ง และการันตีด้วยขุมพลังจากแชมป์ MotoGP ปีล่าสุด ก็ทำให้ Yamaha YZF-R1 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ควรค่ากับการมีไว้ในครอบครอง

Suzuki GSX-R1000

          มาต่อกันที่อีกหนึ่งความเร้าใจจากค่าย Suzuki ที่ส่ง GSX-R1000 ลงชิงชัยในศึก Sport Bike พิกัด 1,000 ซีซี. ซึ่งเป็นรถที่ไม่สนเรื่องเทคโนโลยี ชูจุดเด่นแบบโหดดิบสไตล์ Suzuki ที่เน้นให้ผู้ขับได้สัมผัสสมรรถนะของตัวรถอย่างสะใจ โดยไม่มีเทคโนโลยีใดๆ มาปิดกั้น ตามสโลแกน "คนบ้าขี่ซู" ด้านดีไซน์ Suzuki GSX-R1000 มาพร้อมกับไฟหน้าทรงแหลมปราดเปรียวเป็นเอกลักษณ์ โครงสร้างตัวถังแบบทวิน-สปา อะลูมิเนียมอัลลอยด์เฟรม ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา ซึ่งทั้งหมดได้รับการถ่ายทอด DNA สายพันธุ์สปอร์ตมาจากรถแข่ง MotoGP เช่นเดียวกัน

หน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอล LCD พร้อมโหมดการขับขี่ Suzuki Drive Mode Selector (S-DMS) ให้เลือกถึง 3 โหมด

          สำหรับหน้าปัดเรือนไมล์ของ Suzuki GSX-R1000 มาพร้อมกับมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มอนาล็อค และมาตรวัดความเร็ว, นาฬิกา, ตำแหน่งเกียร์ และมาตรวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์แบบดิจิตอล ผ่านหน้าจอ LCD อีกทั้งยังมีโหมดการขับขี่ Suzuki Drive Mode Selector (S-DMS) ให้เลือกถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดเรซซิ่ง, โหมดสปอร์ต และโหมดทัวร์ริ่ง

โช้คอัพหน้า Upside Down ของ Showa ที่สามารถปรับตั้งค่าได้

เบรคหน้าแบบ Twin Disc คาลิเปอร์ Brembo 4 POT พร้อมระบบเบรก ABS

          สำหรับระบบช่วงล่างของ Suzuki GSX-R1000 มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside Down ของ Showa ที่สามารถปรับตั้งค่า Compression, Rebound Damping ได้ ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Link Type กับ Coil Spring ส่วนระบบเบรคด้านหน้าเป็นแบบ Twin Disc คาลิเปอร์ Brembo 4 POT พร้อมระบบเบรก ABS ส่วนด้านหลังเป็นแบบดิสก์เบรคเดี่ยว

Suzuki GSX-R1000 กับเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 999 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว

          สำหรับขุมพลังของ Suzuki GSX-R1000 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 999 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว กระบอกสูบแบบอะลูมิเนียมผ่านกระบวนการเคลือบสาร Suzuki Composite Electrochemical Material (SCEM) ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก 74.5 x 57.3 มม. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด จุดระเบิดด้วยระบบ Electronic Ignition

Suzuki GSX-R1000 กับราคา 799,000 บาท

          สำหรับราคาค่าตัวของ Suzuki GSX-R1000 ถูกกำหนดไว้ที่ 799,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สมน้ำสมเนื้อกับสมรรถนะโดยรวม และเป็นราคาที่เหล่าไบค์เกอร์ผู้หลงไหลในความดิบ และฟิลลิ่งการขับขี่ที่ชัดเจนสามารถหามาครอบครองได้อย่างไม่ยากเย็นจนเกินไป

เปรียบเทียบกันชอตต่อชอต

เปรียบเทียบกันทุกซอกทุกมุม

ตารางเปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐาน Yamaha YZF-R1 กับ Suzuki GSX-R1000

Comment

          สำหรับใครที่กำลังมีความสนใจ และหมายปองรถ Bigbike ในพิกัด 1,000 ซีซี. ใน 2 รุ่น ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Yamaha YZF-R1 และ Suzuki GSX-R1000 ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีข้อดี และข้อได้เปรียบกันไปในคนละด้าน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และสไตล์การขับขี่คนแต่ละท่าน

          ซึ่งการเปรียบเทียบกันในครั้งนี้ ดูเหมือนว่า Yamaha YZF-R1 ยังคงความเป็นที่สุดของรถ Sport Bike พิกัด 1,000 ซีซี. ไว้ได้เหมือนเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขุมพลังความแรง หรือจะเป็นสมรรถนะการขับขี่ที่ถูกยกมาจากแชมป์ MotoGP ปีล่าสุด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยจำนวนเงินส่วนต่างที่มากกว่า 100,000 บาท ส่วนใครที่ชื่นชอบการขับขี่ที่เข้าถึงตัวรถ เน้นใช้ทักษะการขับขี่ที่ควบคุมตัวรถผ่านฟิลลิ่งเพียวๆ Suzuki GSX-R1000 เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์คุณได้อย่างไม่ต้องสงสัย และหามาครอบครองได้อย่างสบายงบในกระเป๋าอีกด้วย

          นี่คือ การเปรียบเทียบจากข้อมูลบางส่วน เพื่อประกอบการตัดสินใจของไบค์เกอร์ทุกท่าน และในครั้งหน้า BoxzaRacing.com จะนำรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike สุดเร้าใจคันไหนมาทำการ Battle ให้ชาวสองล้อขาซิ่งทั้งหลายได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันในรอบต่อไปที่ BoxzaRacing.com ที่นี่...ที่เดียวเท่านั้น สำหรับวันนี้ผมต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ