เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 19 กรกฏาคม 2559 - 10:26

KTM 690 Duke R vs. Triumph Street Triple 675 RX ศึกชิง King of Middle Class

KTM 690 Duke R vs. Triumph Street Triple 675 RX

 

          กลับมาพบกันอีกครั้ง กับการเปรียบเทียบมอเตอร์ไซค์ที่ครบถ้วน ละเอียด และครอบคลุมมากที่สุด และในครั้งนี้ BoxzaRacing จะพาทุกท่านมาพบกับการประชันชิงเจ้าแห่งบังลังก์ King of Middle Class ในรถสไตล์ Naked Bike ที่ทุกคนต่างเฝ้ารอคอย และติดตามการโคจรมาพบกันของ 2 ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่ของโลก

          โดยการ Battle กันในครั้งนี้ BoxzaRacing ได้หยิบนำเอารถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษอย่าง Triumph Street Triple 675 RX ที่ถูกยกให้เป็น King of Middle Class ถึงขั้นมีคำกล่าวที่ว่าสมรรถนะโดยรวมของรถในคลาส 600 ซีซี. ไม่มีคู่ต่อกรเจ้าไหนล้มได้ จึงต้องถูกนำไปเทียบกับรถในระดับ 800 ซีซี. เลยทีเดียว ซึ่งผู้ท้าชิงในครั้งนี้ คือ โมเดลใหม่จากค่ายรถสัญชาติออสเตรีย กับ KTM 690 Duke R ที่ว่ากันว่าเป็นคู่ชิงที่สมศักดิ์ศรีที่สุดในตอนนี้ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมกันเลย

 

KTM 690 Duke R

 

          เรามาเริ่มกันที่ผู้ท้าชิงกันก่อนเลยดีกว่า กับรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติออสเตรีย KTM ที่ส่งเจ้า 690 Duke R โมเดลใหม่ล่าสุด เข้ามาประชันในศึกชิง King of Middle Class ในคราวนี้ โดย KTM 690 Duke R ถูกจัดเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในประเภท Naked Bike ซึ่งถือเป็นงานถนัด และเป็นจุดเด่นของ KTM ในรถสไตล์นี้เลยก็ว่าได้

 

KTM 690 Duke R กับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวในสไตล์ Naked Bike

 

          สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของเจ้า KTM 690 Duke R มาพร้อมดีไซน์อันโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในตระกูล Duke ของ KTM โดยตัวรถจะทำการเปลือยชุดแฟริ่งด้านข้างเพื่อโชว์ความสวยงามของโครงถักสีส้มแบบ Chromium-Molybdenum Steel Trellis Frame ส่วนดีไซน์ด้านมาเป็นแบบเรียบๆ แต่ดูเร้าใจด้วยไฟหน้าโคมเดี่ยวทรง 6 เหลี่ยม พร้อมก้านไฟเลี้ยว LED ยื่นออกมา ควบคุมและบังคับตัวรถผ่านแฮนด์เดิ้ลบาร์ขนาดพอเหมาะ ถังน้ำมันแบบเพรียวบางดีไซน์สปอร์ต ที่สามารถบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 14 ลิตร เบาะนั่งแบบ 2 ตอน พร้อมมีอุปกรณ์ตกแต่งปิดเบาะท้ายให้อารมณ์แบบเรซซิ่ง ปิดท้ายด้วยบังโคลนท้ายแบบสั้นสไตล์รถ Naked Bike ที่มาพร้อมไฟท้าย และไฟเลี้ยวในตัว

 

เบาะนั่ง พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งปิดเบาะท้ายในสไตล์เรซซิ่ง

 

          สำหรับหน้าปัดเรือนไมล์ของ KTM 690 Duke R มาพร้อมกับหน้าจอแบบ TFT Colour Display หน้าจอแสดงผลจอสีแบบดิจิตอล ทั้งรอบเครื่องยนต์, ความเร็ว, ตำแหน่งเกียร์, อุณหภูมิความร้อนของเครื่องยนต์ และเวลา นอกจากนี้ KTM 690 Duke R ยังมาพร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เหนือชั้น ซึ่งจะมาช่วยให้การขับขี่สนุกสนานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ Motorcycle Traction Control และ โหมดการขับขี่ Ride Modes ที่มีให้เลือกทั้ง Sport, Street และ Rain พร้อมทั้งยังมีระบบที่จะช่วยป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกิดกรณีล้อหลังล็อคจากการเปลี่ยนเกียร์ลง และพิเศษสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ที่ท้าทายความเร็ว สามารถเปิดใช้โหมดการขับขี่แบบ Super Moto ได้อีกด้วย

 

โช้คอัพหน้า Upside Down ของ WP ขนาด 43 มม. สามารถปรับตั้งค่าได้ที่ด้านบนของแกนโช้ค

 

จานดิสก์ขนาด 320 มม. ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์ Brembo 4 POT พร้อมระบบ ABS

 

          ส่วนระบบช่วงล่าง KTM 690 Duke R มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ Upside Down ของ WP ขนาด 43 มม. ที่สามารถปรับตั้งค่าได้ที่หัวโช้คอัพ ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Monoshock ของ WP ที่สามารถปรับตั้งค่า Preload และ Rebound ได้เต็มระบบ รองรับทุกสไตล์การขับขี่ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแบบ Pro-Lever Linkage ส่วนระบบเบรกด้านหน้ามาพร้อมกับจานดิสก์ขนาด 320 มม. ร่วมกับคาลิเปอร์ Brembo 4 POT พร้อมระบบ ABS และระบบเบรกด้านหลังมาพร้อมกับจานดิสก์ขนาด 240 มม. จับคู่กับคาลิเปอร์ Brembo ลูกสูบเดี่ยว

 

KTM 690 Duke R มาพร้อมท่อไอเสียจากแบรนด์ Akrapovic แบบ Slip-on จากโรงงาน

 

          ส่วนเรื่องของขุมกำลังนั้น KTM 690 Duke R มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 692.70 ซีซี. กระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 105 x 80 มม. จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด Keihin ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ผ่านระบบคลัชท์ APTC (TM) Slipper Clutch ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ให้กำลังสูงสุด 75 แรงม้า และแรงบิดอยู่ที่ 74 นิวตัน-เมตร และพิเศษสำหรับ KTM 690 Duke R ที่ได้ติดตั้งท่อไอเสียจากแบรนด์ Akrapovic แบบ Slip-on มาให้จากโรงงานเพื่อเติมเต็มอารมณ์สปอร์ต

 

KTM 690 Duke R กับราคาค่าตัว 679,000 บาท

 

          สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า KTM 690 Duke R ถูกตั้งไว้ที่ 679,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับรถในระดับ 690 ซีซี. แต่ก็ถือเป็นรถที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเอกลักษณ์ความเป็น Duke ในรถ KTM ที่สามารถจะตอบสนองการขับขี่ได้อย่างเร้าใจ และมอบความสนุกสนานในทุกการขับขี่ คล่องตัว ตอบรับทุกภารกิจทั้งบนนถนน และในสนามแข่ง ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญา "Ready To Race" ของ KTM

 

Triumph Street Triple 675 RX

 

          มาต่อกันที่เจ้าแห่งบัลลังก์ หรือ King of Middle Class กับรถสัญชาติอังกฤษอย่าง Triumph Street Triple 675 RX ที่ถูกยกให้เป็นที่สุดของคลาสระดับ 600 ซีซี. ซึ่งมีคำกล่าวที่ว่าสมรรถนะโดยรวมของรถในคลาส 600 ซีซี. ไม่มีคู่ต่อกรเจ้าไหนล้มได้ จึงต้อถูกนำไปเทียบกับรถในระดับ 800 ซีซี. เลยทีเดียว

 

Triumph Street Triple 675 RX ถูกจัดให้เป็น King of Middle Class

 

          สำหรับ Triumph Street Triple 675 RX ถือเป็นรุ่นพิเศษ ที่มาพร้อมกับดีไซน์อันดุดันในสไตล์แบบ Naked Bike เช่นเดียวกัน โดยด้านหน้ามาพร้อมไฟหน้า 2 ฝั่งแบบเปลือย ให้อารมณ์ดุดันแบบดิบๆ พร้อมมีชิลหน้าสูงขึ้นมาเล็กน้อย ควบคุมและบังคับเลี้ยวด้วยแฮนด์เดิ้ลบาร์ อกไก่ล่างสำหรับป้องกันการกระแทกของคอท่อ ถังน้ำมันดีไซน์เพรียวบางสามารถบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 17.4 ลิตร โครงรถเป็นแบบอะลูมิเนียมคานคู่ เบาะนั่งแบบ 2 ตอน พร้อมชุดแฟร์ริ่งท้ายที่ได้แรงบันดาลใจจาก Daytona ไฟท้ายดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวสะกดทุกสายตา พร้อมบังโคลนท้ายแบบสั้น ปิดท้ายด้วยล้อแม็กสีแดงสด พิเศษเฉพาะรุ่น RX

 

มุมมองด้านท้ายอันเร้าใจของ Triumph Street Triple 675 RX

 

          หน้าปัดเรือนไมล์ของ Triumph Street Triple 675 RX มาพร้อมกับจอแสดงผล LCD มาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล, มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง, ทริปคอมพิวเตอร์, มาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบอนาล็อก, การจับเวลาต่อรอบ, ตัวบ่งชี้ตำแหน่งเกียร์, ไฟเปลี่ยนเกียร์แบบโปรแกรมได้, นาฬิกา, ระบบ TPMS (ระบบเตือนลมยางอ่อน) และสามารถสั่งเปิด-ปิด ABS ได้

 

โช้คอัพหลัง Monoshock ของ KYB พร้อมกระปุกน้ำมันแยก

 

          สำหรับระบบช่วงล่างของ Triumph Street Triple 675 RX มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ Upside Down ของ KYB ขนาด 41 มม. ที่สามารถปรับความแข็งได้ ปรับความหน่วงของการยุบตัวและการคืนตัวของโช๊คได้ ระยะยุบตัว 115 มม. ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Monoshock ของ KYB พร้อมกระปุกน้ำมันแยก ที่สามารถปรับความหน่วงของการคืนตัวของโช้คได้ ระยะยุบตัว 135 มม. ที่งานร่วมกับกระเดืองโช้คอัพหลังบนสวิงอาร์ม

 

จานดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มม. คาลิเปอร์ Nissin 4 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS ที่สามารถเปิด-ปิดได้

 

          ส่วนระบบเบรกด้านหน้าของ Triumph Street Triple 675 RX มาพร้อมกับจานดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มม. คาลิเปอร์ Nissin 4 ลูกสูบ แบบเรเดียล พร้อมระบบ ABS ที่สามารถเปิด-ปิดได้ ส่วนด้านหลังมาพร้อมดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ Brembo ลูกสูบเดี่ยว พร้อมระบบ ABS ที่สามารถเปิด-ปิดได้เช่นกัน

 

Quick Shifter ของ TransLogic ติดตั้งมาให้เสร็จสรรพจากโรงงาน

 

          สำหรับขุมพลังของ Triumph Street Triple 675 RX มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง DOHC 12 วาล์ว ขนาด 675 ซีซี. กระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 74 x 52.3 มม. ที่ให้กำลังสูงถึง 106 แรงม้า ที่ 11,850 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุด 68 นิวตัน-เมตร ที่ 9,750 รอบ/นาที โดยมีการปรับปรุงลิ้นปีกผีเสื้อใหม่ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้นถึง 30% และยังปรับเปลี่ยนอัตราทดเกียร์แรกให้สูงขึ้น เพื่อรองรับการขับขี่ในช่วงความเร็วต่ำได้ดีขึ้น ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด แบบ Closed Ratio และพิเศษสำหรับ Triumph Street Triple 675 RX ที่มาพร้อมกับ Quick Shifter ของ TransLogic ติดตั้งมาให้เสร็จสรรพจากโรงงาน ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้ครัทช์

 

Triumph Street Triple 675 RX กับราคาค่าตัวที่ 480,000 บาท

 

เปรียบเทียบกันชอตต่อชอต

 

เปรียบเทียบทุกซอกทุกมุม

 

          สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า Triumph Street Triple 675 RX ถูกตั้งไว้ที่ 480,000 บาท ซึ่งดูจากอุปกรณ์ที่ให้มา รวมไปถึงสมรรถนะของขุมพลัง พูดได้คำเดียวว่า นี้คือ King of Middle Class อย่างแท้จริง

 

 ตารางเปรียบเทียบข้อมูลของ KTM 690 Duke R กับ Triumph Street Triple 675 RX

KTM 690 Duke R

รายละเอียดพื้นฐาน

Triumph Street Triple 675 RX

1 สูบ 4 จังหวะ

เครื่องยนต์

3 สูบเรียง 4 จังหวะ

692.70 ซีซี.

ปริมาตรกระบอกสูบ

675 ซีซี.

4 วาล์ว/สูบ

ระบบวาล์ว

DOHC 4 วาล์ว/สูบ

105 mm. x 80 mm.

ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก

  74 mm. x 52.3 mm.

75 HP @8,000 Rpm

แรงม้า

 106 HP @ 11,850 Rpm

74 นิวตัน-เมตร

แรงบิด

 68 Nm @9,750 Rpm

-

อัตราส่วนการอัด

-

Manual 6 Speed

ระบบเกียร์

Manual 6 Speed

Keihin Fuel electronic

ระบบจ่ายน้ำมันเชื่อเพลิง

Fuel electronic

สตาร์ทไฟฟ้า(มือ)

ระบบสตาร์ท

สตาร์ทไฟฟ้า(มือ)

APTC(TM) slipper clutch

ระบบคลัทช์

คลัทช์มือแบบเปียก

Multiplate พร้อม Quick Shifter ของ TransLogic

120/70 R17

ขนาดยางหน้า

120/70 R17

160/60 R17

ขนาดยางหลัง

180/55 R17

Upside Down ของ WP ขนาด 43 มม.

โช้คอัพหน้า

Upside Down ของ KYB ขนาด 41 มม.

Monoshock ของ WP ร่วมกับสวิงอาร์มแบบ Pro-Lever Linkage

โช้คอัพหลัง

Monoshock ของ KYB พร้อมกระปุกน้ำมันแยก

ดิสก์เบรกขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ Brembo 4 POT พร้อมระบบ ABS

เบรกหน้า

ดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มม. คาลิเปอร์ Nissin 4 ลูกสูบ แบบเรเดียล พร้อมระบบ ABS

ดิสก์เบรกขนาด 240 มม. คาลิเปอร์ Brembo ลูกสูบเดี่ยว

เบรกหลัง

ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ Brembo ลูกสูบเดี่ยว พร้อมระบบ ABS

-

ยาวxกว้างxสูง

-

865 mm.

ความสูงเบาะ

820 mm.

151.5 kg.

น้ำหนักรถ

168 kg. (ไม่รวมของเหลว)

14 ลิตร

ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง

17.4 ลิตร

679,000 บาท

ราคาจำหน่าย

 480,000 บาท

 

Comment

          สำหรับใครที่สนใจ และหมายปองรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ในสไตล์ Naked Bike ใน 2 รุ่น ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น KTM 690 Duke R และ Triumph Street Triple 675 RX ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีข้อดี และข้อได้เปรียบกันไปในคนละด้าน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และสไตล์การขับขี่ของแต่ละท่าน หากใครที่ชื่นชอบรถ Naked Bike ที่รูปทรงเพรียวบาง สามารถขับขี่ได้อย่างคล่องตัว และให้สมรรถนะการขับขี่ที่สนุก คงต้องยกให้เป็นหน้าที่ของ KTM 690 Duke R ในการตอบสนองความต้องการในครั้งนี้ แต่หากใครที่ชื่นชอบความคุ้มค่า ความเป็นมาตรฐาน รวมไปถึงสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ครบถ้วน คงต้องยกให้เป็น Triumph Street Triple 675 RX ในการตอบสนองความต้องการในครั้งนี้

          สำหรับการ Battle กันในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าบังลังก์อย่าง Triumph Street Triple 675 RX ก็ยังคงรักษาตำแหน่ง King of Middle Class ไว้ได้ตามเคย ด้วยสมรรถนะของกำลังเครื่องยนต์ เทคโนโลยี Quick Shifter และที่สำคัญ คือ ราคาค่าตัวที่เร้าใจกว่า แต่ KTM 690 Duke R ก็ยังคงเป็นคู่ปรับที่น่ากลัว หากใครที่ชื่นชอบรูปแบบการขับขี่ในสไตล์ Circuit แล้วล่ะก็ สมรรถนะโดยรวมของเจ้า KTM 690 Duke R หาคู่ต่อกรได้ยากยิ่งอย่างแน่นอน ตามสโลแกนของ KTM ที่ว่า "Ready To Race" นั่นเอง

          และนี่คือ การเปรียบเทียบจากข้อมูลบางส่วน เพื่อประกอบการตัดสินใจของไบค์เกอร์ทุกท่าน และในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike สุดเร้าใจคันไหนมาทำการ Battle ให้ชาวสองล้อขาซิ่งทั้งหลายได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันในรอบต่อไปที่ BoxzaRacing ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook