เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 26 สิงหาคม 2563 - 15:55

ยางบิ๊กไบค์ หน้าแคบและหน้ากว้าง ฟีลลิ่งการขี่ต่างกันอย่างไร เลือกใช้แบบไหนให้เหมาะสม

 

          ว่าด้วยเรื่องของรถบิ๊กไบค์ สิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักในการขับขี่ นั่นก็คือ ยาง ซึ่งวันนี้ BoxzaRacing ในคอลัมน์ ความรู้เรื่องรถ จะมาพูดถึงในเรื่องของขนาดหน้ายาง โดยแยกออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ยางหน้ากว้าง กับยางหน้าแคบ ว่ามีฟิลลิ่งการขับขี่ที่แตกต่างกันอย่างไ รและควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะสมกับสถานการณ์การใช้งาน เดี๋ยวเราไปทำความเข้าใจกันเลยครับ

 

 

          มาเริ่มกันที่ยางแบบหน้าแคบกันก่อนเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเป็นยางสำหรับทางเรียบมักจะอยู่ในรถพิกัด 300-400 ซีซี. ที่ขนาดความกว้างไม่เกิน 150 มม. โดยประมาณ และถ้าเป็นยางสำหรับทางฝุ่นแนว Adventure ส่วนใหญ่แล้วไซส์จะความกว้างจะอยู่ที่ประมาณ 150-160 มม. ในพิกัดตั้งแต่ 300 ซีซี. จนถึง 1200 ซีซี. ที่ถือว่าเป็นไซส์ขนาดความกว้างสากล สำหรับสาย Adventure ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่เลยก็ว่าได้

 

 

          และฟิลลิ่งภาพรวมของยางหน้าแคบ ที่ดูจากภาพด้านบนของสาย Adventure แล้วนั้น สิ่งแรกที่สัมผัสได้เลยคือ ความคล่องตัวเนื่องจากยางหน้าแคบ จะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาควบคุมได้ง่าย และทำความเร็วในรอบต้นได้เป็นอย่างดี แถมยังสามารถพลิกรถได้ง่ายโดยที่ผู้ขี่ไม่ต้องโหนตัวแรงเพื่อช่วยดึงน้ำหนัก แต่ข้อเสียคือ ยางหน้าแคบจะมีพื้นที่สัมผัสกับพื้นถนนไม่มากนัก ซึ่งถ้าเนื้อยางไม่ดีจะออกอาการได้อย่างชัดเจนเมื่อเจอพื้นถนนที่ไม่เอื้ออำนวย ฉะนั้นการที่คุณมีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ใช้ยางหน้าแคบควรที่จะตรวจเช็คสภาพของยางอย่างละเอียดหรือถ้าเลือกซื้อควรใช้ยางที่มีคุณภาพ ไม่งั้นอาจทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันได้ครับ

 

 

          มาถึงยางแบบหน้ากว้าง ที่เรามักจะเห็นติดตั้งอยู่กับรถมอเตอร์ไซค์พิกัด 600 ซีซี. ขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นรถ Naked Bike, Sport Bike, Touring Bike และ Cruiser ที่มีขนาดตั้งแต่ 160 มม. จนถึง 240 มม. เลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วยางแบบหน้ากว้างจะเหมาะกับการใช้งานบนทางเรียบเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะยางแบบหน้ากว้างจะมีคุณสมบัติในด้านของการซับแรงกระแทกและสร้างเสถียรภาพการควบคุมได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ยางหน้ากว้างจึงเหมาะสมกับการติดตั้งเข้ากับรถบิ๊กไบค์ที่มีสมรรถนะในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงการขีับขี่ในย่านความเร็วที่สูงกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปนั่นเองครับ 

 

 

          อีกทั้งในด้านของการยึดเกาะพื้นถนนที่เรียกได้ว่ายางแบบหน้ากว้าง มีหน้าสัมผัสพื้นผิวถนนที่มากกว่ายางหน้าแคบ ผู้ขับขี่จึงสามารถเข้าโค้งในองศาที่พับลงได้มากกว่ายางหน้าแคบ โดยที่รถแทบไม่ออกอาการดิ้นหรือสะบัดให้เห็นชัดเท่ายางหน้าแคบ ซึ่งเราสามารถเห็นได้จากการขับขี่ Sport Bike จากนักแข่งรถหรือผู้ที่ขับขี่แบบมีประสบการณ์ แต่ในด้านของข้อเสีย คือ น้ำหนักของยางที่หนักจนสัมผัสได้จึงไม่เหมาะสำหรับการนำไปใช้ในสถานการณ์ Adventure ที่ถนนมีพื้นผิวขรุขระและต้องใช้ยางเป็นตัวตะเกียกตะกายช่วย รวมถึงอีกหนึ่งข้อเสีย คือ ยิ่งยางหน้ากว้างเท่าไหร่ ก็จะยิ่งพลิกรถได้ยากมากขึ้นไปด้วย ทำให้อาจจะขาดความคล่องตัว และต้องออกแรงในการโหนรถเข้าช่วย ไม่ง่ายสำหรับนักขี่หน้าใหม่ ซึ่งในด้านของการควบคุม ถ้าผู้ที่ชินมือมีวิชาพร้อมประสบการณ์ที่แน่นมือแล้วน่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับผู้ที่เริ่มหัดขี่รถบิ๊กไบค์ที่มีพิกัดสูงและมียางที่ใหญ่และหน้ากว้าง ถ้าให้ดีผู้ขับขี่ควรเข้าคอร์สฝึกฝนเบื้องต้นเพื่อเสริมทักษะในการขับขี่รถบิ๊กไบค์ ที่จะมีสอนตั้งแต่เรื่องของการจูงรถยกรถไปจนถึงการควบคุมและการใช้เบรก เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในภายหลังนะครับ

 

 

          และนี่คือ เรื่องราวเกี่ยวกับยางหน้าแคบและยางหน้ากว้าง กับฟิลลิ่งที่แตกต่างแต่ก็ยังมีความใกล้เคียงกันอยู่เล็กน้อย ซึ่งสำหรับใครที่ใช้ยางทั้ง 2 รูปแบบนี้อยู่ อยากให้หมั่นตรวจสอบเช็คสภาพเนื้อยางและลมยางด้วยนะครับ เพื่อการใช้งานที่สบายใจหายห่วงและปลอดภัยในทุกๆ เส้นทางครับ ในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำความรู้เรื่องรถเรื่องไหนมาฝากกันอีก สามารถติดตามได้เลยครับที่ www.BoxzaRacing.com สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน...สวัสดีครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook