เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2563 - 12:18

ล้างรถ ในขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อน พังจริง เจ็บจริง ไม่อิงนิยาย ยังไง...ไปดู

 

          การล้างรถนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม และเป็นโมเมนต์ที่เรียกได้ว่าฟินสุดๆ สำหรับไบค์เกอร์เลยก็ว่าได้ เพราะคุณจะได้อยู่ใกล้ชิดกับรถคู่ใจ ได้ขัด ได้เช็ด ได้ถู หลังจากที่ไปลุยด้วยกันมา แต่หารู้ไม่ว่า การล้างรถนั้น มีข้อต้องระวังมากกว่าที่คุณคิด เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียอย่างรุนแรงในภายหลังได้ และวันนี้ BoxzaRacing ในคอลัมน์ความรู้เรื่องรถ เราจะมาพูดถึงเหตุผลที่ทำไมเราต้องจอดรถให้อุณหภูมิเครื่องยนต์เย็นตัวลง ก่อนที่จะทำการฉีดน้ำล้างทำความสะอาด และจะเกิดผลเสียอย่างไรหากเราไม่รอให้เครื่องเย็น เดี๋ยวไปทำความเข้าใจไปด้วยกันเลยครับ

 

 

          ทุกครั้งที่เราจะเริ่มล้างรถ หลังจากที่ออกไปซิ่งข้างนอกมา บ่อยครั้งที่หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำตักเตือนมาก่อนทันทีว่า "รอรถให้เครื่องเย็นก่อนนะ ค่อยล้าง เดี๋ยวเครื่องพัง" บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดทำไมถึงโดนท้วงแบบนี้ แล้วเครื่องมันจะพังได้อย่างไรก็แค่ฉีดน้ำใส่ ? เราจะมาเริ่มอธิบายกันเลยครับ คงจะพอทราบกันดีว่าเมื่อเครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว สิ่งที่เราสามารถสัมผัสได้เลยคือ ความร้อนของเครื่องยนต์ ที่แผ่ซ่านมายังขาของเรา หรือสามารถดูได้ที่เกจวัดความร้อนที่เรือนไมล์ ซึ่งก็แสดงว่าภายในเครื่องยนต์นั้น มีการจุดระเบิดและสันดาปจนทำให้เกิดความร้อนอย่างรุนแรง และในบางครั้งหากเราใช้งานรอบสูงๆ มา วัสดุบางชิ้นภายในเครื่องยนต์จะมีอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

          และทำไมถึงไม่ควรฉีดน้ำล้างรถทันที ในขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ ? ถ้าคุณไม่ทราบในเรื่องที่ว่าเมื่อโลหะร้อนๆ ต้องเจอกับน้ำเย็นๆ มันจะเกิดอะไรขึ้น นั่นก็คือ เมื่อโลหะที่มีอุณหภูมิสูงมาเจอกับน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นกว่ามาก โลหะที่มีการขยายตัวจากความร้อน และถูกทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว จนอาจส่งผลให้เกิดการผิดรูปร่าง โดยอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในครั้งเดียว แต่หากมีการถุกกระทำอย่างต่อเนื่อง โลหะอาจบิดตัวทีละเล็กทีละน้อยจนเสียรูป หรืออาจจะแตกหักในบางวัสดุ เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ฝาสูบโก่ง ท่อไอเสียปริแตก จานเบรกคดงอ เป็นต้น

 

 

          ซึ่งถ้าคุณมีพฤติกรรมการล้างรถที่ขี่มาจอดปุ๊บ จับสายยางฉีดทันที แรกๆ อาจจะยังไม่มีอาการใดๆให้เห็น ถ้าคุณทราบถึงข้อเสียของพฤติกรรมแบบนี้อย่างทันท่วงที และหยุดการล้างรถแบบผิดๆ แบบนี้ คุณก็อาจจะพอป้องกันได้ แต่ถ้าคุณยังรีบร้อนฉีดน้ำล้างทุกครั้ง ทั้งๆ ที่อุณภูมิเครื่องยนต์ยังร้อนถึงขีดสุดโดยที่ไม่รอให้เย็น พอเวลาเริ่มนานผ่านไปหลังจากที่คุณยังคงล้างรถทั้งๆ ที่เครื่องยนต์ยังร้อนๆอยู่ ภายในเครื่องยนต์หรือองค์ประกอบอื่นๆ ที่มีความร้อนสะสมจากการใช้งาน ก็จะเริ่มมีอาการให้เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากวัสดุภายในเริ่มสึกหรอและจากการบิดตัวทีละเล็กทีละน้อยของวัสดุจนเสียรูป หรือบางชิ้นอาจมีการร้าวหรือแตกหัก ซึ่งสาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิจากร้อนไปหาเย็นอย่างเฉียบพลันรวมไปถึงการสะสมบ่อยครั้งของปฏิกิริยานี้ จนทำให้เริ่มมีอาการไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์ที่ดังหลวมๆจนผิดหูกว่าเมื่อก่อน หรือความร้อนของเครื่องยนต์ที่ร้อนเร็วกว่าปกติ ไปจนถึง Overheat ทำให้ของเหลวภายใน เริ่มมีความดันสูงจนทะลักออกมาตามระบบหล่อเย็น และสุดท้ายระบบภายในเครื่องยนต์ก็อาจล่มทั้งระบบ หากไม่รีบแก้ไขปัญหาโดยเร็วครับ

 

 

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับผลเสียที่ตามมาภายหลังของพฤติกรรมการล้างรถแบบใจร้อน โดยที่ไม่รอให้อุณหภูมิเครื่องยนต์เย็นตัวลงก่อน เรียกได้ว่าผลที่จะตามมานั้น รุนแรงกว่าที่คิดเลยใช่ไหมล่ะครับ ฉะนั้นเมื่อไบค์เกอร์ท่านใดอยากล้างรถ แต่ก็อยากให้เครื่องยนต์อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ก็สามารถหาพัดลมที่มีพลังเป่าแรงๆ หน่อย มาเป่าเครื่องยนต์ทิ้งไว้สักระยะ พร้อมนั่งดื่มน้ำใจเย็นๆ จนกว่าอุณหภูมิเครื่องยนต์จะเย็นตัวลง ซึ่งสามารถเช็คได้จากเกจวัดอุณหภูมิที่เรือนไมล์ได้เลยครับ เพราะว่าบางครั้งหากเรานำมือไปแตะดูเฉยๆ อาจไม่แม่นยำเท่าการวัดจากตัวรถโดยตรงครับ และในครั้งนี้ BoxzaRacing ก็หวังว่าเกร็ดความรู้ในวันนี้ จะทำให้ไบค์เกอร์ทุกท่านล้างรถคู่ใจได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยนะครับ 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook