เขียนโดย: BEW FASTERLIFE

เมื่อ: 5 พฤศจิกายน 2558 - 13:08

BMW R nine T VS Triumph Bonneville สงครามระหว่าง Retro Bike

 

BMW R nine T VS Triumph Bonneville สงครามระหว่าง Retro Bike

 

BMW R nine T
 

          วันนี้ BoxzaRacing ของเราจะมาพูดถึงการพบเจอกันระหว่างรถมอเตอร์ไซค์ BigBike ในแนว Retro Bike (เรโทรไบค์) ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า มันได้เข้ามามีบทบาทอยู่ในแวดวงชาวสองล้อบ้านเรามาพักหนึ่งแล้ว และมันก็ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่ถูกอก ถูกใจขาโจ๋บ้านเราซะเหลือเกิน รวมไปถึงสมรรถนะต่างๆ ของมันที่มีความล้ำหน้าไม่แพ้รถ Sportbike (สปอร์ตไบค์) แม้แต่น้อย

 

 Triumph Bonneville
 

          สำหรับการเปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ หรือ Battle จาก BoxzaRacing ของเราในวันนี้ ก็จะมาเอาใจชาวสองล้อสายคลาสสิคกันหน่อย ด้วยการนำ BMW R nine T รถมอเตอร์ไซค์จากค่ายใบพัด ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ อันล้ำสมัย และทาง Triumph Bonneville ที่มีจุดเด่นในด้านความเรียบง่าย เรียกได้ว่าเป็นรถคลาสสิคตัวจริงเลยก็ว่าได้ แต่งานนี้ใครจะมีดีในด้านไหนกันบ้าง ตามมาชมกันเลยครับ

          ก่อนอื่นคงต้องบอกว่า คู่นี้อาจมีความแตกต่างกันในหลายๆ ประเด็นทั้งเรื่องพิกัดเครื่องยนต์ หรือแม้แต่เรื่องของราคาค่าตัว แต่สิ่งที่อยากจะนำเสนอก็คือ เรื่องของสไตล์ที่มีความใกล้เคียงกันมากกว่าครับ

 

BMW R nine T
 

          เรามาเริ่มกันที่ค่ายใบพัดจากประเยอรมัน กับ BMW R nine T (บีเอ็มดับเบิ้ลยู อาร์ ไนน์ ที) ด้านการออกแบบของมันนั้น ก็มาพร้อมกับความเป็น RetroBike แบบเต็มตัว พร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ด้วยไฟหน้าแบบกลมที่สุดแสนจะคลาสสิค ทางด้านแฮนด์บาร์ได้รับการออกแบบมาให้ไบค์เกอร์มีท่วงท่าในการขับขี่ที่สบาย

 

BMW R nine T มาพร้อมหน้าปัดดีไซน์โดดเด่น
 

          หน้าปัดเรือนไมล์ของมันก็ได้รับการออกแบบมามีความสวยงามใช่เล่น โดยจะเป็นแบบดิจิตอลที่ผสมผสานกับอนาล็อก ด้านมิติรถของ BMW R nine T มีความยาวอยู่ที่ 2,220 มม. กว้าง 890 มม. และสูง 1,265 มม. และสำหรับในส่วนของความสูงเบาะนั้น ก็ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป 780 มม. ระยะห่างระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง 1,476 มม. น้ำหนักตัวอยู่ที่ 222 กก. ซึ่งก็เรียกได้ว่ามันค่อนข้างใหญ่โตอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่หากเราพิจารณาถึงสไตล์ของรถมอเตอร์ไซค์ในประเภทนี้ ก็จะเห็นได้ว่ามันยังอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป

 

BMW R nine T
 

          ส่วนทางด้านช่วงล่างของ BMW R nine T สุดหล่อคันนี้ มาพร้อมกับโช๊คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิกกลับหัว หรือ Upside Down ทางด้านโช๊คอัพหลังเป็นแบบ Single Side Swing Arm ซึ่งเป็นการผลิตขึ้นโดย BMW Motorrad ทั้งยังสามารถปรับ Preload ได้อีกด้วย

 

BMW R nine T กับระบบเบรคสุดล้ำ ABS
 

          ระบบเบรคของ BMW R nine T มาพร้อมกับระบบเบรคสุดล้ำอย่าง ABS โดยล้อหน้าเป็นจานดิสก์คู่ขนาด 320 มม. ปั๊มเบรค 4 พอร์ท ด้านเบรคหลังใช้เป็นดิสก์เบรคเดี่ยวขนาด 265 มม. ปั๊มเบรคแบบ 2 พอร์ท และล้อใช้เป็นสไตล์คลาสสิค นั่นก็คือ ซี่ลวดทั้งล้อหน้าและหลัง ขนาดยางด้านหน้าอยู่ที่ 120/70 ZR17 และล้อหลังใช้ขนาด 180/55 ZR17

 

สุดหล่อแห่งค่ายใบพัดมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1,170 ซีซี.
 

          มาดูในส่วนของเครื่องยนต์เจ้าสุดหล่อคันนี้กันบ้าง BMW R nine T ใช้เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมากถึง 1,170 ซีซี. 2 สูบ 4 จังหวะ ทางด้านขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 101 x 73 มม. ใช้การระบายความร้อน 2 แบบ คือ ระบายความร้อนด้วยอากาศ และน้ำมัน แบบ Flat Twin หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ เครื่อง Boxer ใช้การจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด 

 

BMW R nine T มาพร้อมแรงม้าถึง 110 ตัว
 

          ด้านแรงม้าของ BMW R nine T คันนี้ เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เพราะมีมาให้ถึง 110 แรงม้า ที่ 7,550 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิด 119 นิวตัน-เมตรที่ 6,000 รอบ/นาที และอัตราส่วนการอัดอยู่ที่ 12.0:1 ขับเคลื่อนผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด แบบใช้เพลา ส่วนทางด้านคลัทช์ของเจ้า R9T คันนี้ เป็นแบบแห้ง ซึ่งถือว่าทาง BMW ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ความคลาสสิคเอาไว้ได้ แม้จะมีการแต่งแต้มเอาเทคโนโลยีต่างๆ ใส่เข้าไปมากมาย

 

BMW R nine T กับค่าตัว 1,090,000 บาท
 

           หลายๆ คนคงคิดว่าสมรรถนะแบบนี้ บวกกับความเป็นแบรนด์ BMW แล้วนั้น เจ้า R nine T ก็อาจจะมีราคาที่สูงลิบลิ่ว ซึ่งก็อาจจะถูกนะครับ เพราะราคาของมันก็ถือว่าสูงอยู่พอสมควร โดยค่าตัวของมันอยู่ที่ 1,090,000 บาท แต่หากคุณเป็นคนที่หลงไหลในความเป็นไบค์เกอร์สายคลาสสิคอย่างเต็มตัว และแถมด้วยเทคโนโลยีที่จัดเต็มมาให้แบบนี้แล้วล่ะก็ เชื่อว่าเจ้า BMW R nine T คันนี้ต้องคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป และคาดว่ามันจะสามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน

 

Triumph Bonneville
 

           ดูค่ายจากประเทศเยอรมันกันมาเยอะแล้ว มาต่อกันที่ประเทศอังกฤษบ้างดีกว่า กับทางด้านของ Triumph (ไทรอัมพ์) ที่ได้ส่งมอเตอร์ไซค์รุ่น Bonneville (บอนเนวิลล์) ลงสู่ตลาดบ้านเรากันมาสักพักใหญ่แล้ว และก็เรียกได้ว่ามันได้รับความนิยมชมชอบจากบรรดาชาวไบค์เกอร์สายเรโทรในบ้านเราอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว ด้วยราคาของมันที่จับต้องได้ และรูปทรงที่เป็นเจ้าของความคลาสสิคตัวจริง ทำให้มันได้กลายเป็นไอคอนของมอเตอร์ไซค์คลาสสิคไปอย่างไม่ต้องสงสัย

 

Triumph Bonneville กับการออกแบบที่ผสมสานความเป็นศิลปะเข้าไป
 

           ในส่วนของการออกแบบ Triumph Bonneville (ไทรอัมพ์ บอนวิลล์) มาพร้อมกับรูปทรงอันมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการผสมผสานความเป็นศิลปะอันเป็นจุดเด่นของค่ายเข้าไป และถึงแม้รูปร่างหน้าตาของมันจะมาในสไตล์คลาสสิคเต็มตัว แต่ทางค่ายในตำนานแห่งเกาะอังกฤษก็ได้นำเทคโนโลยีสุดล้ำต่างๆ เข้ามาเสริมสมรรถนะของ Bonneville กันแบบไม่มียั้ง

 

Triumph Bonneville ที่มีรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์
 

           สำหรับ Triumph Bonneville อย่างที่เรารู้ๆ กันว่ามันมีเอกลักษณ์อยู่ในหลายๆ จุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟหน้าทรงกลม ที่ให้กลิ่นอายแบบรถรุ่นเก๋าตัวจริง แต่ก็ยังได้มีการผสมสานความทันสมัยด้วยการชุบโครเมี่ยม และไฟเลี้ยวทั้งสองข้างก็จะมาพร้อมกับรูปแบบที่พอเหมาะพอเจาะกับรูปทรงของไฟหน้าได้อย่างลงตัว ทางด้านหน้าปัดเรือนไมล์ของเจ้าสุดหล่อคันนี้ ยังคงความเป็นรถคลาสสิคอย่างเต็มตัว ด้วยเรือนไมล์แบบอนาล็อก ซึ่งภายในหน้าปัดก็จะมีตัววัดที่สามารถอำนวยความสะดวกได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นวัดความเร็ว วัดระยะทางตามที่กำหนด นาฬิกา เป็นต้น

 

Triumph Bonneville
 

          เรามาต่อกันที่ช่วงล่างกันบ้าง Triumph Bonneville มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าจากแบรนด์ Kayaba ขนาด 41 มม. และโช๊คอัพด้านหลังเป็นแบบ Chromed Spring Twin Shocks ที่สามารถปรับระยะ Preload ได้จากแบรนด์ Kayaba เช่นเดียวกัน ส่วนระบบเบรคหน้ามาพร้อมกับจานดิสก์เดี่ยวขนาด 310 มม. และเบรคหลังเดี่ยว 255 มม. จาก Nissin ทางด้านยางหน้าอยู่ที่ขนาด 110/70 R17 และยางหลัง 130/80 R17

 

Triumph Bonneville มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 865 ซีซี.
 

           ดูเรื่องระบบต่างๆ กันมามากแล้ว มาต่อที่สมรรถนะทางด้านเครื่องยนต์ของเจ้ามอเตอร์ไซค์สุดเก๋า Triumph Bonneville กันบ้างดีกว่า โดยจิ๊กโก๋หน้าหล่อคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ DOHC ด้านความจุของขนาดเครื่องยนต์อยู่ที่ 865 ซีซี. ใช้การระบายความร้อนด้วยอากาศและ Oil Cooler ที่จะทำให้ไบค์เกอร์หมดห่วงเรื่องการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ไปเลย และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 5 สปีด ซึ่งโดยรวมแล้วมันก็ยังคงให้อารมณ์ในแบบฉบับของมอเตอร์ไซค์คลาสสิคได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน

 

Triumph Bonneville ค่าตัวอยู่ที่ 420,000 บาท
 

          หลายๆ คนคงจะคิดว่าเจ้ามอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย บวกกับรูปร่างหน้าของมันแล้วนั้น อาจจะมีราคาที่สูงเกินเอื้อมใช่มั้ยล่ะครับ แต่สำหรับเจ้า Triumph Bonneville นั้นไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะค่าตัวของมันอยู่ที่เพียงแค่ 420,000 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นราคาที่รอให้ชาวไบค์เกอร์สายคลาสสิคทุกท่านไปจับจองกันได้แบบค่อนข้างสบายกระเป๋าเลยทีเดียว

 

BMW R nine T VS Triumph Bonneville
 
BMW R nine T VS Triumph Bonneville
 
BMW R nine T
สเปครายละเอียดพื้นฐาน Triumph Bonneville
 4 จังหวะ 2 สูบ  เครื่องยนต์   4 จังหวะ 2 สูบ
1,170 ซีซี.  ปริมาตรกระบอกสูบ  865 ซีซี.
 DOHC 4 วาล์ว  ระบบวาล์ว  DOHC 4 วาล์ว
101 x 73 มม.  ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก 90 x 68 mm
110 ตัวที่ 7,550 รอบต่อนาที  แรงม้า  67 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที 
119 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที  แรงบิด  50 นิวตันเมตรที่ 5,800 รอบต่อนาที
12.0:1  อัตราส่วนการอัด  9.2:1
 หัวฉีด  ระบบจ่ายเชื้อเพลิง  หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์
 สตาร์ทไฟฟ้า  ระบบสตาร์ท  สตาร์ทไฟฟ้า
 คลัทช์แบบแห้ง

 ระบบคลัทช์

 คลัทช์แบบเปียก
 120/70 ZR-17  ขนาดยางหน้า  110/70 R17 
180/55 ZR-17  ขนาดยางหลัง 130/80 R17
 แบบเทเลสโคปิค USD  โช๊คอัพหน้า  Kayaba ขนาด 41 มม.
โช๊คอัพเดี่ยวแบบสวิงอาร์ม BMW  โช๊คอัพหลัง  โช้คอัพคู่ Kayaba 
 ดิสก์เดี่ยวคู่ 320 มม.
พร้อมระบบ ABS
 เบรคหน้า  ดิสก์เบรค 310 มม.
 ดิสก์เบรคเดี่ยว 265 มม. 
พร้อมระบบ ABS
 เบรคหลัง ดิสก์เบรค 255 มม.
 2,220 มม. x 890 มม. x 1,265 มม.  ยาว x กว้าง x สูง  2,115 มม. x 790 มม. x 1,130 มม.
 222 กก.  น้ำหนักรถ  225 กก.
18 ลิตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 13 ลิตร
1,090,000 บาท ราคาจำหน่าย 420,000 บาท
 
 
BMW R nine T VS Triumph Bonneville By BoxzaRacing
 

Comment

 

BMW R nine T หลังจากผ่านการคัสตอม
 

            เป็นอย่างไรกันบ้างครับเพื่อนๆ ชาวไบค์เกอร์ที่มีใจรักในมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สไตล์คลาสสิค กับเจ้ารถหน้าตาสุดเก๋าทั้ง 2 รุ่นอย่าง BMW R nine T และ Triumph Bonneville ที่เรานำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ ซึ่งสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกรุ่นไหนมาเป็นสองล้อคู่ใจกันอยู่แล้วล่ะก็ อันดับแรกเลยก็คงจะต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน ถ้าหากคุณอยากจะได้หน้าตาหล่อๆ แบบเรโทรของมัน แต่ทางด้านสมรรถนะอันเหลือล้น เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าหน่อยล่ะก็ แน่นอนว่า BMW R nine T นั้น เป็นต่อในเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด แต่หากใครที่ชอบในความเป็นคลาสสิคไบค์ตัวจริง ไม่ต้องการสมรรถนะอะไรมากมาย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มอเตอร์ไซค์แบบดิบๆ ดั้งเดิมหน่อยแล้วล่ะก็ Triumph Bonneville ถือเป็นตัวเลือกที่ตัดสินใจได้ไม่ยาก บวกกับราคาค่าตัวของมันที่ถูกกว่าอยู่เกือบเท่าตัว ทำให้มันก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลวทีเดียวครับ...ย้ำนะครับ ว่าคู่นี้เราไม่ได้เน้นเรื่องการวัดว่าใครเจ๋งกว่าใคร แต่ต้องการนำเสนอคู่ของมอเตอร์ไซค์ในสไตล์เรโทรเท่านั้น

 

Triumph Bonneville หลังจากผ่านการคัสตอม
 

         สำหรับในครั้งหน้า เราจะมาทำการเปรียบเทียบ หรือ Battle รถมอเตอร์ไซค์ BigBike จากค่ายไหน แบรนด์ใดให้เพื่อนๆ ชาวสองล้อได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันให้ดีเลยนะครับ และในวันนี้เราคงต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าใน BoxzaRacing ที่นี่...ที่เดียว สวัสดีครับ

 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook