Harley Davidson Fat Boy 114 รถมอเตอร์ไซค์ครูซเซอร์ ตระกูล Softail ที่เป็น Iconic ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ที่มาพร้อมความใหญ่บึกบึน และพละกำลังอันมหาศาล แม้ว่าภายนอกตัวรถจะดูกำยำ และดูขี่ยาก แต่เมื่อได้ขับขี่จริงๆ มันกลับเป็นรถที่ควบคุมง่ายและขี่สนุกผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกอย่างสิ้นเชิง
Harley Davidson Fat Boy 114 เด็กอ้วนกล้ามโต เนี้ยบทุกจุด
ในส่วนของการดีไซน์ 2023 Harley Davidson Fat Boy 114 มีความโดดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ไฟหน้า LED กรอบโครเมียมโคมเดี่ยวที่มีไฟสูงและไฟต่ำในตัว พร้อมแผงชุดโช้คอัพหน้าขนาดใหญ่ที่ทำให้ตัวรถมีความบึกบึน และน่าเกรงขาม เหมือนเด็กอ้วนกล้ามโต ส่วนพาร์ทงานชิ้นส่วนต่างๆ รวมไปถึงงานสีทำออกมาได้อย่างใส่ใจทุกจุดมีความเนี้ยบ และประณีตมากๆ
จำนวนจำกัดทั่วโลกมีเพียง 3,000 คัน
Harley Davidson Fat Boy 114 ที่เราได้นำมาขับขี่ในครั้งนี้เป็นรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 120 ปี ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้เป็นสีพิเศษ Heirloom Red Fade ที่ทั่วโลกผลิตเพียงแค่ 3,000 คันเท่านั้น โดยมาพร้อมกับไอคอนครบรอบ 120 ปี เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ติดตั้งมาให้บน ฝาครอบกรองอากาศ ฝาครอบแคม และ ฝาครอบแคร้ง นอกจากนี้เบาะนั่งยังถูกออกแบบมาเป็นพิเศษด้วยหนังสีดำตัดกับสีแดงเข้มเย็บด้วยด้ายสีทองและแดงที่เป็นสีเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ และด้านข้างของถังน้ำมันได้ติดตั้ง Emblem อินทรีสีทองโดดเด่น และตัดรับเข้ากับสีแดงของรถได้อย่างลงตัว
เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 114 จัดเต็มแรงบิด
Harley Davidson Fatboy 114 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 114 ขนาด 1,868 ซีซี 2 สูบ V-Twin 4 จังหวะ 2 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้แรงบิดสูงสุดที่ 158 Nm ที่ 2,750 รอบ/นาที ให้พละกำลัง 94 แรงม้า ที่ 5,020 รอบ/นาที เกียร์ 6 สปีด ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 18.9 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยสายพาน น้ำหนักตัวพร้อมขี่อยู่ที่ 317 กก.
ถัดมาในส่วนของช่วงล่างโช้คหน้าเทเลสโคปิคมีวาล์วแบบ Dual Bending ขนาด 49 มม. พร้อมแผงคอโช้คอลูมิเนียมแบบ Triple clamp ด้านหลังเป็นโมโนโช้ค Coil-over ระยะยืดหด 43 มม. ปรับพรีโหลดแบบไฮดรอลิกโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ เสริมรูปลักษณ์บึกบึนด้วยล้อ Lakester ที่กว้างสุดเท่าเคยผลิตจากโรงงาน รัดด้วยยางล้อหน้าขนาด 160/60R18,70V,BW และหลังขนาด 240/40R18,79V,BW
ฟังก์ชั่น
ส่วนฟังก์ชั่นใช้งาน Harley Fatboy 114 มาพร้อมกับเรือนไมล์ลูกผสมอนาล็อคดิจิตอล บอกมาตรวัดความเร็วด้วยเข็มอนาล็อค และบอกปริมาตรเชื้อเพลิง, ระยะทาง และตำแหน่งเกียร์แบบดิจิตอล อีกทั้งยังมีช่องเสียบสายชาร์ต USB Type A ที่ตรงด้านล่างฝั่งซ้ายใต้ถังน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีระบบ Cruise Control และ Traction Control มาเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยขณะขับขี่อีกด้วย
Harley Davidson Fatboy 114 ตัวใหญ่ ล้อโต ขี่ง่ายกว่าที่คิด!
สำหรับการขับขี่ Harley Davidson Fatboy 114 ในครั้งนี้เราได้นำมาขับขี่ภายในเมือง แน่นอนว่าสิ่งแรกที่สัมผัสได้เจอคือการควบคุมที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งต่างจากที่คิดไว้ในตอนแรกเพราะขนาดตัวที่เทอะทะ และการขับขี่ในความเร็วต่ำทำเอาลืมไปเลยว่ากำลังขี่เจ้ายักษ์ผ่านช่องทางจราจรอย่างในเมืองกรุง เพราะว่ามันสามารถควบคุมไปตามทิศทางที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ด้วยตำแหน่งแฮนด์บาร์ที่โน้มเข้ามาหาผู้ขับขี่ค่อนข้างเยอะ สอดรับเข้ากับตำแหน่งท่านั่งสไตล์รถอเมริกันครุยเซอร์ ช่วยให้การคอนโทรลรถเป็นไปตามที่ต้องการ แม้ว่าตัวรถจะมีน้ำหนักมากถึง 300 กก. แต่เมื่อขับขี่จริงๆ แล้วรู้สึกได้ว่าตัวรถไม่ได้หนักมากเท่าไหร่
ด้านพละกำลังเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 114 ขนาด 1,868 ซีซี 2 สูบ V-Twin 4 จังหวะ 2 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Harley Davidson Fatboy 114 ก็ว่าได้เพราะมอบพละกำลังและแรงบิดมากถึง158 Nm ที่ 2,750 รอบ/นาที ซึ่งมันเยอะมากๆ ฟีลลิ่งตอนตอกคันเร่งบอกเลยว่าตึงมือสุดๆ ส่วนการตอบสนองผ่านคันเร่งไฟฟ้าทำได้ละเอียดมากๆ การขับขี่ในช่วงความเร็วต่ำทำได้อย่างนุ่มนวล แต่หากต้องการความแรงเพียงแค่ตอกคันเร่งก็พร้อมพุ่งทะยานทันที การส่งกำลังของเกียร์ 6 สปีด ที่ขับเคลื่อนด้วยสายพาน ทำได้อย่างไหลลื่นไม่มีติดขัดจังหว่ะ การเข้าเกียร์ยังให้ความเป็นเอกลักษณ์ของ Harley Davidson อยู่พอสมควร และการทำความเร็ว 0 - 100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียงไม่นานแค่คุณกล้าที่จะเปิดคันเร่ง ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงแรงดึงอันมหาศาลของรถอเมริกันครุยเซอร์
ส่วนการขับขี่ด้วยความเร็วสูงจะสัมผัสได้ถึงแรงลมที่เข้ามาปะทะตัวได้อย่างเต็มๆ หากขับขี่ออกทริปเดินทางอาจจะต้องหาของแต่งเสริมวินด์ชิลด์เสริมเข้ามารับรองได้เลยว่าออกทริปขี่สบายแน่นอน ส่วนที่พักเท้าใช้เป็นแบบฟลอบอร์ดสามารถขยับเลื่อนตำแหน่งได้อย่างอิสระทำให้ขับขี่ได้อย่างสบายมากขึ้น ด้านช่วงล่างทำออกมาได้ดีงามมากๆ เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และช่วงฐานล้อที่กว้างการพลิกเลี้ยวเข้าโค้งจึงไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ต้องใช้แรงในการดึงรถสักเท่าไหร่ ทำให้เราขับได้สนุก และไม่เหนื่อยไปกับการควบคุม
ถัดมาโช้คอัพหน้าเทเลสโคปิค และด้านหลังโมโนโช้ค ซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างอยู่มือ และขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้ง หรือขับขี่ด้วยความเร็วสูง ให้ฟีลลิ่งนิ่งหนึบ เกาะติดถนน ส่วนระบบเบรกด้านหน้าดิสเบรกทำงานร่วมกับปั๊มเบรก 4 ลูกสูบ และดิสเบรกหลังปั๊มเบรก 2 ลูกสูบ เพียงพอกับการหยุดและชะลอรถที่มีพละกำลังสูงได้อย่างมั่นใจหายห่วง
สรุป
Harley-Davidson Fatboy 114 2023 เป็นรถครูซเซอร์ที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะเป็นรถที่ขับขี่ และควบคุมง่ายมากๆ คนที่พอมีสกิลการขับขี่รถใหญ่ก็สามารถขี่ได้อย่างสบายๆ และยังสามารถขี่ได้ทั้งในเมือง และออกทริปเดินทาง แม้ว่าตัวรถจะดูเทอะทะ และมีน้ำหนักมากถึง 317 กก. หากเป็นคนที่ไม่เคยสัมผัสรถฮาร์ลีย์-เดวิดสัน บอกเลยว่าเมื่อได้ขับขี่จริงๆ จะลืมไปเลยว่าคุณกำลังอยู่บนอานของเจ้ายักษ์ 1,868 ซีซี. และด้วยหน้าตาที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมันจึงเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ชวนให้หลงใหล และน่ามองอยู่ไม่น้อย และที่สำคัญถ้าคุณเป็นคนที่ชอบรถทอล์คหนักๆ เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 114 ที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้จะทำให้คุณหลงรักอเมริกันครุยเซอร์คันนี้อย่างแน่นอน
Harley-Davidson Fatboy 114 2023 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,219,000 บาท และคันที่เราได้นำมาขับขี่คือรุ่น 120th Anniversary มีจำนวนจำกัด 3,000 คันทั่วโลก ราคาอยู่ที่ 1,317,000 บาท สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.harley-davidson.com หรือชมคันจริง และทดลองขับขี่ได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Harley-Davidson ทุกสาขาทั่วประเทศ