เขียนโดย: Thanathip

เมื่อ: 28 สิงหาคม 2566 - 16:28

รีวิว Honda CB1300 Super Four เรือธงระดับตำนานจากยุค 90s

     หากพูดถึงรถคลาสสิกตลอดการของ Honda แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น CB400SF หรือที่เรียกกันติดปากว่า Super Four ซึ่งมีดีไซน์แบบสปอร์ตเน็คเก็ต ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 400 ซีซี. โดยโมเดลแรกมีขึ้นในช่วงปี 1992 ซึ่งในยุคนั้น Super Four ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในมอเตอร์ไซค์สไตล์เน็คเก็ตสปอร์ตที่เร็วที่สุด และด้วยเครื่องยนต์ที่ทนทาน ดูแลรักษาง่ายจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 

 

     ตั้งแต่โฉมแรกช่วงยุค 90 จนถึงในปัจจุบันที่มาในรหัสรุ่น Honda CB1300 Super Four จะเห็นว่าตัวยังคงคอนเซ็ปต์ไว้ด้วย ดีเอ็นเอ ความคลาสสิกแบบเน็คเก็ตสปอร์ต ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่เสริมความทันสมัยด้วย ไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่พร้อมระบบ ไฟส่องสว่างแบบ LED รอบคัน รับกับความคลาสสิกด้วยเรือนไมล์ทรงกลมคู่แบบอนาล็อก เสริมความเป็นสมัยใหม่ด้วยการแสดง ตำแหน่งเกียร์ โหมดการขับขี่ ระยทาง และมาตรวัดปริมาณเชื้อเพลิง บนหน้าจอ TFT 

 

     Honda CB1300 Super Four มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1,284 ซีซี. 4 สูบเรียง 4 วาล์ว DOHC หัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังขับด้วยเกียร์ 6 สปีด พละกำลังสูงสุด 113 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 112 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที ไอเสียได้รับการดีไซน์ใหม่ แบบ 4 รวม 1 เพิ่มประสิทธิภาพการระบายไอเสียได้รวดเร็ว

 

     ด้านสมรรถนะช่วงล่าง Honda CB1300 Super Four ระบบกันสะเทือนจากแบรนด์ Showa โดยด้านหน้าเป็นโช้คแบบเทเลสโคปิค ขนาดแกน 43 มม. ด้านหลังโช้คหลังสปริงคู่มีซับแทงค์ ปรับค่า extension ได้ละเอียดถึง 15 ระดับ และปรับ Compression ได้อีก 4 ระดับ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มหลังอลูมิเนียม  ส่วนระบบเบรกด้านหน้า ดิสก์เบรกคู่ ขนาด 310 มม. ปั๊ม Nissin คาลิเปอร์ 4 พอต และด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 256 มม. ปั๊ม Nissin คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ ทำงานร่วมกับระบบ ABS แบบ 2 ชาแนล มาพร้อมกับล้อแม็กสีทองขนาด 17 นิ้ว รัดมาด้วยยางขนาด 120/70ZR17M/C 58W ในล้อหน้า และ 180/55ZR17M/C 73W ในล้อหลัง

 

Test Ride

     สำหรับ  Honda CB1300 Super Four ก่อนอื่นเราต้องขอพูดถึงขนาดมิติตัวรถ 795 x 2,200 x 1,125 (กว้าง x ยาว x สูง (มม.)) และขนาดความสูงจากพื้นถึงเบาะที่ 780 มม. ในสัมผัสแรสแรกเมื่อได้ขึ้นคร่อมแล้วต้องบอกเลย ว่าเบาะนั่งนุ่มสบายมากๆ และไม่สูงเกินไปสำหรับผู้ชับขี่ที่มีส่วนสูงประมาณ 169 ซม. ซึ่งสามารถเหยียดเท้าลงได้เกือบเต็มพื้นทั้งสอง แน่นนอนว่าเมื่อเท้าลงได้ขนาดนี้แล้วทำให้เรามั่นใจในขับขี่ขึ้นมาอีกเป็นกอง

 

     ในส่วนของโพซิชั่นท่านั่งจะเป็นกึ่งๆ หลังตรงบวกกับสปอร์ตนิดๆ เพราะจุดวางเท้าทั้งสองข้างนั้นอยู่ในตำแหน่งขับขี่กระชับแบบสปอร์ตนั่นเอง ด้านการควบคุมตำแหน่งของแฮนด์บาร์ให้การควบคุมที่ง่ายดาย การเลี้ยวในมุมแคบสามารถทำได้ง่ายๆ การขับขี่ในช่วงการจราจรหนาแน่นสามารถไปได้อย่างคล่องตัวจนลืมไปเลยว่านี่มันคือรถพิกัด 1,300 ซีซี. และต้องบอกเลยว่าน้ำหนัก 267 กก. ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Super Four

 

    ด้านสมรรถนะกำลังเครื่องยนต์  1,284 ซีซี. 4 สูบเรียง เรื่องความแรงคงไม่ต้องพูดเยอะเพราะมีให้ใช้แบบเหลือๆ การทำความเร็ว 200 กม./ชม สามารถทำได้อย่างสบายๆ ส่วนอัตราเร่งตัวรถมาพร้อมกับคันเร่งไฟฟ้าตอบสนองแม่นยำมากๆ การขับขี่เกียร์ 6 สปีด ระยะค่อนข้างกว้าง และ Assist Slipper Clutch ที่ให้มาช่วยให้คาแรคเตอร์ของรถมีความนิ่มนวล และเปลี่ยนเกียร์ได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น เมื่อต้องเชนเกียร์ลงในรอบสูงๆ ตัวรถไปได้อย่างสมูท และมีอาการล้อหลังล็อคน้อยมากๆ นอกจากนี้ยังมียังมีระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ช่วยเสริมความมั่นใจและปลอดภัยอีกขั้นเมื่อลองตอกคันเร่งแรงๆ ระบบตัดการทำงานให้ล้อหลังหมุนสัมพันธ์กันกับล้อหน้าได้รวดเร็ว และนุ่มนวล อีกหนึ่งจุดที่ทำให้ประทับใจมากๆ เลยก็คือเสน่ห์ของท่อแบบ 4 ออก 1 ให้คาแรคเตอร์สุ้มเสียงแบบหวานๆ ตามเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาได้อย่างลงตัว ในส่วนของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรวัดของตัวรถผู้ขับขี่ทำได้อยู่ประมาณ 17 กม./ลิตร ในโหมด Sport แต่เชื่อเลยว่าถ้าไม่ใช่คนมือหนัก หรือขับขี่ในโหมด Standard มากกว่า 20 กม./ลิตร ก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน 

 

      ด้านฟังก์ชั่นเทคโนโลยีที่เสริมเข้ามาอย่างโหมดการขับขี่ แบ่งออกเป็น 3 โหมด คือ Sport, Standard และ Rain สามารถปรับเปลี่ยนได้ขณะขับขี่ และแต่ละโหมดจะให้พละกำลังแรงบิดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ส่วนระบบ Cruise Control ต้องถูกใจสายออกทริปอย่างแน่นอนเพราะช่วยลดความเมื่อยล้าขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี สามารถใช้งานได้ที่ปุ่มบนแฮนด์ฝั่งขวามือเมื่อความเร็วมากกว่า 50 กม./ชม. นอกจากนี้ Heated Grip ที่ปรับระดับได้ ซึ่งช่วยได้มากๆ เมื่อต้องกับอากาศเย็น

 

    ส่วนระบบกันสะเทือนยอมรับเลยว่าช่วงล่างนั้นเฟิร์มสุดๆ แม้ว่าเป็นเซ็ตติ้งเดิมจากโรงงาน โช้คอัพหน้าเทเลสโคปิค และด้านหลังโช้คหลังสปริงคู่มีซับแทงค์ จากแบรนด์ Showa ให้ฟีลลิ่งขับขี่ที่ นุ่มนวล มีความหนึบเกาะติดถนนตั้งแต่ความเร็วต่ำ - สูง ด้านระบบเบรกหน้าดิสก์เบรกคู่ปั๊ม Nissin คาลิเปอร์ 4 พอต และด้านหลังดิสก์เดี่ยวปั๊ม Nissin คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ ทำงานร่วมกับระบบเสริมความปลอดภัยอย่าง ABS เพียงพอกับพละกำลังอันล้นเหลือของ CB1300 การชะลอความเร็ว และหยุดรถสามารถทำได้อย่างมั่นคงและอยู่มือ  

 

สรุป

     จากที่ได้สัมผัส Honda CB1300 Super Four ขอบอกตรงนี้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นตัวจบที่คุ้มค่า และน่าใช้มากๆ เมื่อได้ขับขี่จริงคนที่พอมีทักษะการขับขี่รถใหญ่อยู่บ้างสามารถขับขี่ได้อย่างสบายๆ แม้ตัวรถจะดูใหญ่ แต่มีความคล่องตัวเยอะพอสมควร เรียกได้ว่าขับขี่ง่ายมากๆ สำหรับผู้ที่พอมีทักษะขับขี่รถบิ๊กไบค์ ส่วนของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ให้มา ยังเสิรมความปลอดภัยและเพิ่มความสะดวกสบาย การออกทริปเดินทางจึงสามารถทำได้อย่างสบายๆ อีกทั้งดีไซน์ที่ยังคงไว้ด้วยเสน่ห์รถยุค 90 แม้เวลาผ่านเลยไปอีกสัก 20 ปี CB1300 Super Four ไม่เอาท์อย่างแน่นอน!

 

     สำหรับผู้ที่สนใจ  Honda CB1300 Super Four มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 575,000 บาท สามารถดูและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thaihonda.co.th/hondabigbike หรือ ไปชมและทดลองขับขี่ได้ที่ ฮอนด้า บิ๊กวิง ทุกสาขาทั่วประเทศ 

ขอขอบคุณ Syl Container and Service สำหรับสถานที่ในการถ่ายทำ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook