เขียนโดย: Thanathip

เมื่อ: 8 พฤษภาคม 2566 - 18:01

รีวิว New Honda CL500 & CL300 ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์! โดนใจสายคัสตอม!

     เมื่อไม่นานนี้ ไทยฮอนด้า เซอร์ไพรส์และสร้างกระแสในโซเชียได้อย่างติดเทรนด์ ไปเมื่อไม่นานนี้กับการปลุกรถในระดับตำนานให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในสไตล์ Scrambler ในรุ่นของ Honda CL500 กับ CL300 ที่มาพร้อมคอนเซปต์ A Reflection of You ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนแอคทีฟ ที่รักการท่องเที่ยว ชื่นชอบการผจญภัย และล่าสุด BoxzaRacing ได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบการขับขี่อย่างเป็นทางการที่ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ซึ่งเราก็ได้หาคำตอบมาแล้วว่า Honda CL500 และ CL300 เหมาะกับการใช้งานรูปแบบไหนบ้าง แล้วการใช้งานจะตอบโจทย์สิ่งที่คุณกำลังเลือกหรือไม่ ไปชมกันได้เลย

 

ทำความรู้จักกับ sCrambLer

    เริ่มต้นมาทำความรู้กับรหัสรุ่น CL กันก่อน แน่นอนว่าหลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมรถสแครมเบลอร์ ของค่ายปีกนกถึงใช้ รหัสรุ่น CL โดยที่มาที่ไปของรหัสรุ่นนี้มาจากคำว่า sCrambLer นั่นเอง ซึ่งเป็นรหัสรุ่นในตำนานของฮอนด้าอีกหนึ่งรุ่นที่มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ 1967 และมีให้เลือกหลายหลายรุ่นตั้งแต่เครื่องยนต์ 125 cc. ไปจนถึง 450 cc.

 

จุดที่เหมือนและต่างกัน 

      เมื่อได้เห็นครั้งแรกสิ่งที่รถสองรุ่นนี้มีความเหมือนกันคือดีไซน์ซึ่งชัดเจนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า LED แบบ 4 ดวง ในโคมไฟรูปทรงกลม ขนาบข้างด้วยไฟเลี้ยว LED และ ไฟท้าย LED ทรงวงรี มองเห็นชัดทุกการขับขี่  และแฮนเดิลบาร์ยกสูง เบาะนั่งสไตล์ Scrambler กับถังน้ำมันดีไซน์เป็นเอกลักษณ์สไตล์ CL ขนาด 12 ลิตร พร้อม Rubber Pad ให้ความกระชับขณะขับขี่

 

เครื่องยนต์ Honda CL500 ขนาด 471 cc. สองสูบ

 

      ถัดมาในส่วนของเครื่องยนต์ Honda CL500 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 471 cc. สองสูบ 4 วาล์ว 6 สปีด ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุด 45.9 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 43.4 Nm ที่ 6,250 รอบ/นาที ส่วน Honda CL300 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 286 cc. สูบเดี่ยว 4 วาล์ว 6 สปีด  ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุด 25.7 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 25.5 Nm ที่ 6,000 รอบ/นาที ซึ่งทั้งสองแบบมาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ และแอสซิส สลิปเปอร์คลัตช์ ตอบสนองทุกการขับขี่อย่างนุ่มนวล ท่อไอเสียยกสูง โช้คอัพหน้าขนาดใหญ่ 41 มม. และยางหุ้มโช้คอัพสเน่ห์ของสไตล์คลาสสิค มาพร้อมระยะยุบ 150 มม. ช่วยซับแรงกระแทก มั่นใจทุกเส้นทางด้วยล้อหน้าขนาดใหญ่ 19 นิ้ว ล้อหลัง 17 นิ้ว และยางแบบ Dual Purpose ที่เหมาะกับการเดินทางทั้งบนทางดำ และทางฝุ่น

 

Honda CL300

 

First Ride

     สำหรับการขับขี่ในครั้งนี้เราได้มาทดสอบกันที่ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ในสัมผัสแรกของ Honda CL300 และ CL500 เมื่อได้ขึ้นนั่งอยู่บนหลังแล้วให้ตำแหน่งท่านั่งมีความกระชับ Rubber Pad ที่ติดมากับตัวรถช่วยให้ Grip ขาเข้ากับตัวถังรถได้สบายๆ ฟีลลิ่งการขับขี่และการควบคุมบอกได้เลยว่าเป็นมิตรกับผู้ขับขี่มากๆ ด้วยแฮนเดิลบาร์ยกสูงให้การควบคุมที่ง่ายและดีมาก รับเข้ากับตำแหน่งท่านั่งที่สบาย ความสูงจากพื้นถึงเบาะทั้งสองรุ่นอยู่ที่ 790 มม. กับรูปทรงที่เพรียวบางช่วยให้ผู้ขับขี่ยันเท้าถึงพื้นเพื่อประคองรถในความเร็วต่ำได้ง่ายและคล่องตัว ส่วนน้ำหนักตัวรถ CL300 ที่ 170 กก. และ CL500 ที่ 190 กก. เมื่อต้องพลิกเลี้ยว ในมุมแคบไปจนถึงมุมกว้าง ทำได้น่าประทับใจทั้งสองรุ่น ซึ่งถ้าหากเทียบเรื่องความคล่องตัวแล้วจัดว่าไม่ต่างกันมากนักในด้านความคล่องตัว 

 

    ในด้านพละกำลังของ Honda CL300 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 286 cc. สูบเดี่ยว ให้สมรรถนะที่เหมาะสมกับขับขี่ในชีวิตประจำวันมากๆ ตัวรถไม่พุ่งจนหน้าเหวอ แต่ด้วยการขับขี่ภายในศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าความเร็วที่ใช้จึงไม่ได้มากนัก แต่ก็เพียงพอที่จะให้ได้สัมผัสถึงพละกำลังของเครื่องยนต์ซึ่งบอกได้เลยว่าเพียงกับการใช้งานอย่างแน่นอน ส่วนการขับขี่ในทางฝุ่นแรงบิด และพละกำลังที่ขับออกมาจากเครื่องยนต์บล็อก มือใหม่และมือเก๋าสามารถขับขี่ในเส้นทางสายลุยได้แบบไม่มีเบื่อ

 

    ส่วนของ Honda CL500 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 471 cc. สองสูบ ให้สมรรถนะสูงและอัตราเร่งที่ดี พละกำลังมีให้ใช้แบบเหลือๆ สามารถใช้ขับขี่ได้ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการขับขี่ออกทริปเดินทางไกล แต่การขับขี่ในเส้นทางสายลุยอาจจะต้องระวังคันเร่งนสักนิดถ้าเปิดเยอะหรือแรงเกินไปก็เกิดอาการสไลด์ได้ไม่ยาก

 

    ถัดมาในส่วนของสมรรถนะช่วงล่างทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับโช้คอัพหน้าขนาดใหญ่ 41 มม และหลังสวิงอาร์มแบบสปริงคู่ ซับแรงกระแทกได้ดี และสามารถขับขี่ในเส้นสายลุยได้ระดับนึง แต่ถ้าอยากลุยถึงขั้น Hard Enduro แนะนำว่าต้องโมดิฟายจัดทรงกันสักหน่อยหรือไม่ก็จัดรถสาย Adventure ไปเลย ส่วนระบบเบรคจะมาพร้อมกับระบบ ABS แบบ Dual Channel ทำงานร่วมกับดิสก์เบรคเดี่ยวด้านหน้า กับคาลิปเปอร์ Nissin แบบ 2 พอต และดิสก์เบรคเดี่ยวด้านหลัง กับคาลิปเปอร์ Nissin แบบ 1 พอต ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานอย่างแน่นอนสำหรับรถสไตล์สแครมเบลอร์ 

 

 

5 ฟังก์ชั่นการใช้งาน

  • เรือนไมล์ LCD ทรงกลมคลาสสิค แสดงทุกฟังก์ชั่นใช้งานไม่ว่าจะเป็น ความเร็ว, ตำแหน่งเกียร์, ปริมาณเชื้อเพลิง, เวลา, ระยะทาง, Trip A,B 
  • เบาะนั่งแบบยาวตอนเดียว พร้อมมือจับกันตก
  • ท่อไอเสียยกสูงสไตล์สแครมเบลอร์ พร้อมการ์ดกันความร้อนที่ปกป้องผู้ขับขี่และผู้ซ้อน
  • ระบบ Assist / Slipper Clutch ที่ช่วยเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวล
  • Emergency Light brake ไฟฉุกเฉินจะติดอัตโนมัติเมื่อเบรกหนักๆ ที่ความเร็วสูง และปิดเองเมื่อเข้าสู่สภาวะปกติ (สำหรับ Honda CL500)

 

เลือกคันไหน?

     ถ้าหากให้เลือกระหว่าง CL500 และ CL300 บอกเลยว่าทั้งสองรุ่น มีบางสิ่งที่เหมือนกัน และก็มีบางสิ่งที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางไกลหรือต้องการความแรง แนะนำให้เลือก CL500 แต่ถ้าไม่ได้ซิ่งมาก เน้นขี่หล่อๆ CL300 ก็น่าสนใจอยู่เช่นกัน ส่วนการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ต้องการความคล่องตัวทำได้ดีไม่แพ้กันทั้งคู่ แต่ถ้าเป็นคนที่ชื่นชอบการตกแต่งคัสตอม ทั้งสองรุ่นสามารถนำไปโมดิฟายได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้อย่างไม่มีผิดหวัง

 

 3 สไตล์คัสตอมจาก 3 สำนักแต่งชั้นนำ

 

     สำหรับผู้ที่สนใจ New Honda CL300 มีทั้งหมด 3 สี คือ สีส้ม (Candy Energy Orange) สีเทา (Pearl Cadet Gray) และสีขาว (Pearl Himalayas White) ราคาแนะนำที่ 149,900 บาท ส่วน New Honda CL500 มีทั้งหมด 3 สี คือ สีเขียว (Mat Laurel Green) สีดำ (Mat Gunpowder Black Metallic) และสีส้ม (Candy Energy Orange) ราคาแนะนำที่ 226,800 บาท 

 

     สุดท้ายนี้ หลายๆ คนอาจจะมองว่า CL Series คือ Honda Rebel ยกสูง แต่ด้วยการนำ Rebel Series มาใช้เป็นพื้นฐานในการออกแบบ จึงไม่แปลกที่จะมีบางส่วนที่เหมือนกับ Rebel แต่ด้วยสมรรถนะ และการใช้งานจริง สัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่า CL Series ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นทางดำหรือทางฝุ่น ซึ่งแตกต่างจาก Rebel Series ที่เน้นการเดินทางในทางดำเป็นหลัก...

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook