เขียนโดย: Thanathip

เมื่อ: 31 สิงหาคม 2565 - 15:19

Royal Enfield Hunter 350 หล่อ...เท่...สไตล์โรดสเตอร์ !

     เป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ของ Royal Enfield ที่ได้เปิดตัว Royal Enfield Hunter 350 รถโรดสเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด และที่พิเศษไปกว่านั้นคือรถรุ่นนี้ถูกนำมาเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งในครั้งนี้ BoxzaRacing ได้เข้าร่วมการเปิดตัว และทดสอบการขับขี่ Hunter 350 ด้วยเช่นกัน ส่วนสเปครายละเอียดตัวรถ และการขับขี่จะเป็นยังไปชมกันได้เลย

 

หล่อ..เท่…สไตล์โรดสเตอร์

 

 

     Royal Enfield Hunter 350 มาพร้อมกับสไตล์คลาสสิคตามแบบฉบับของ รอยัล เอ็นฟีลด์ โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าทรงกลมที่ถูกขนาบข้างด้วยไฟเลี้ยวทรงกลมเช่นกัน ซึ่งเป็นแบบหลอดไส้ปกติหรือหลอดฮาโลเจนนั่นเอง ส่วนไฟท้ายจะเป็นแบบ LED ส่วนเรือนไมล์ของตัวรถนั้นเป็นแบบแอนาล็อกผสมกับดิจิตอล พร้อมด้วยระบบนำทางแบบ turn-by-turn (เฉพาะรุ่นท็อปเท่านั้น) ด้านมิติตัวรถถูกออกแบบให้มีความคล่องตัวสูง เพื่อการใช้งานในเมือง

 

 

ขุมพลัง 5 สปีด

     ทางด้านขุมพลังของ Hunter 350 จะเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกันกับ Royal Enfield Classic 350 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขนาด 349 cc. แบบ 1 สูบ 4 จังหวะ 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ และน้ำมัน   จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ให้พละกำลังมากถึง 20.2 แรงม้าที่ 6,100 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 27 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์แบบ 5 สปีด ขับเคลื่อนด้วยชุดโซ่ และสเตอร์

 

 

ช่วงล่างดี มาพร้อมระบบ ABS

     ในส่วนของระบบช่วงล่าง Royal Enfield Hunter 350 มาพร้อมกับโช้คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิกขนาดแกน 41 มม. มีระยะยุบที่ 130 มม. ส่วนด้านหลังเป็นโช้คอัพแบบสปริงคู่สามารถปรับพรีโหลดได้ถึง 6 ระดับและมีระยะยุบที่ 102 มม. ทางด้านระบบเบรกจะมาพร้อมดิสก์เดี่ยวด้านหน้าขนาด 300 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 2 สูบ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 270 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 1 สูบ ยกระดับความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS ที่ด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนวงล้อที่ให้มานั้นเป็นล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยางด้านหน้าขนาด 110/70-17 และด้านหลัง 140/70-17

 

 

Test Ride

 

 

     สำหรับการทดสอบการขับขี่ในครั้งนี้เป็นรูปแปปการทดสอบการขับขี่ใช้งานภายในกรุงเทพฯ เป็นระยะทางรวมกว่า 105 กม. และปิดท้ายด้วยการขับขี่ภายในแทร็คสนามโกคาร์ทที่บริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี ที่สำคัญการทดสอบครั้งนี้เพิ่มความท้าทายขึ้นไปอีกขั้นด้วยฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืน เริ่มต้นออกในย่านสาธร ในจุดนี้เมื่อได้ขึ้นไปนั่งอยู่บนอานของ Royal Enfield Hunter 350 บอกเลยว่าความสูงจากพื้นถึงเบาะขนาด 790 มม. ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมกับส่วน 169 ซม. ซึ่งสามารถวางเท้าได้เต็มพื้นทั้งสองข้าง ถัดมาในส่วนเรือนไมล์แบบแอนาล็อกผสมกับดิจิตอล แสดงข้อมูลตัวรถและมาตรวัดเร็วได้อย่างชัดเจน

 

 

     เมื่อเริ่มขับขี่ออกมาจากจุดสตาร์ททำความคุ้นเคยในทันทีบอกเลยว่า Hunter 350 เป็นรถที่เบาะนั่งนุ่มสบายมากๆ ตำแหน่งท่านั่งและแฮนด์บาร์บังคับเลี้ยวอยู่ในจุดที่รับเข้ากันได้อย่างพอดิบพอดี ทำให้สามารถควบคุมรถได้ไปตามที่ต้องได้ดั่งใจ ตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 179 กก. ช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้นเมื่อต้องใช้ความเร็วต่ำในช่วงเวลาที่จราจรติดขัด ส่วนสวิทต์และฟังก์ชั่นบนแฮนด์บังคับเลี้ยวไม่ว่าจะเป็น ไฟเลี้ยว สัญญาณเตือน หรือไฟสูง เพียงแค่ขยับปลายนิ้วมือก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย

 

 

     ในส่วนของขุมพลังต้องบอกเลยว่า Royal Enfield Hunter 350 เป็นรถที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจนคือ นุ่ม สมูท ซึ่งกำลังของเครื่องยนต์จะค่อยๆ ถูกส่งออกมา ทำให้สามารถขับขี่ความเร็วไหลขึ้นไปได้เรื่อยๆ แต่ในจังหวะต้องเร่งเพื่อแซงจะให้อัตราเร่งที่ดีขึ้นไปอีกขั้นคือการขี่รอบกลาง-สูง ซึ่งสามารถสัมผัสถึงพละกำลังที่ส่งออกมาและเพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน 

 

 

     ทางด้านของช่วงล่างและระบบเบรกจากที่เราได้ทดสอบบนถนนและแทร็ค ในจุดนี้บอกเลยว่าทำให้เราประทับใจมากเพราะด้วยตัวรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและน้ำหนักเบา อีกทั้งช่วงล่างที่มีความแน่นหนึบในระดับกลางๆ ไม่แข็งและไม่นุ่มเกินไป ทำให้สามารถพับรถพลิกเลี้ยวได้อย่างมั่นใจไม่มีอาการย้วย ส่วนการซับแรงกระแทกเมื่อต้องเจอกับหลุม ลูกระนาด โช้คอัพหน้า-หลัง ช่วยซับแรงได้อย่างยอดเยี่ยม ทางด้านระบบเบรกระหว่างขับขี่ทดสอบก็มีจังหวะกระทันที่ทำให้ได้ทดสอบไปในตัวบอกเลยว่า ดิสก์เบรกหน้า-หลัง และระบบ ABS ตอบสนองได้อย่างฉับไวช่วยหยุดรถได้อย่างสบายหายห่วง 

 

สรุป

     Royal Enfield Hunter 350 คือรถโรดสเตอร์ที่มีตำแหน่งท่านั่งขับขี่ที่สบาย และถูกออกแบบมาให้มีความคล่องตัวสูง ซึ่งเหมาะมากๆ สำหรับการใช้งานในเมืองและในชีวิตประจำวัน ในด้านขุมพลัง Hunter 350 ด้วยคาแรคเตอร์ที่นุ่มวลและความเร็วที่ไหลขึ้นไปได้เรื่อยๆ ไม่พุ่งปรู๊ดปร๊าด จึงขับขี่ได้ทั้งมือใหม่และมือเก๋า ส่วนดีไซน์ภายนอกบอกเลยว่าหล่อ…เท่สุดๆ 

 

 

     สำหรับราคาค่าตัว Royal Enfield Hunter 350 เปิดราคาค่าตัวไว้ที่ 129,900 บาท ในรุ่นสแตนดาร์ดและ ในรุ่นท็อปจะมาพร้อมกับระบบนำทางแบบ turn-by-turn มีราคาอยู่ที่ 132,900 บาท จากราคาที่เปิดตัวมาบอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับสมรรถนะและออฟชั่นที่ให้มา ส่วนในประเทศไทยตัวรถจะพร้อมวางจำหน่ายและส่งมอบได้ช่วงเดือนพฤศจิกายน      

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook