หลังจากที่ผ่านการแข่งขันในประเทศไทยกันไปแบบสดๆ ร้อนๆ MotoGP 2019 เตรียมระเบิดศึกประลองความเร็วกันอย่างต่อเนื่องในรายการ Grand Prix of Japan ที่สนาม Twin Ring Motegi ประเทศญี่ปุ่น อันเป็นสนามที่ 16 ในปีนี้ โดยก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น เรามี 10 เรื่องราว ที่น่าสนใจของค่าย Ducati มาให้ทุกท่านได้ทราบกัน
- ครั้งแรกที่ค่าย Ducati ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน MotoGP เกิดขึ้นในปี 2003 ซึ่งในปีนั้น Loris Capirossi คว้าอันดับที่ 3 ได้ในการแข่งขันที่ Suzuka Circuit
- 3 ใน 8 ครั้ง ของการชนะที่ Loris Capirossi ได้รับกับสังกัด Ducati เกิดขึ้นที่ Twin Ring Motegi ซึ่งเป็นชัยชนะอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2005 - 2007
Andrea Dovizioso เมื่อครั้งยังแข่งในพิกัด 125 ซีซี. ในปี 2004
- Andrea Dovizioso ไม่เพียงแค่ชนะที่นี่ในการแข่งขัน MotoGP แต่เขายังเคยชนะตั้งแต่ในปี 2004 ด้วยการออกสตาร์ทจากตำแหน่ง Pole Position ซึ่งในเวลานั้น เขาลงแข่งในรุ่น 125 ซีซี.
Dovizioso กับ Marquez ขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นที่ Motegi 2017 ก่อน Dovi จะคว้าชัยในโค้งสุดท้าย
- การแข่งขัน MotoGP 2019 ที่ยังเหลืออีก 4 ครั้ง ซึ่งมีคะแนนสะสมสูงสุดรวม 100 คะแนน หาก Andrea Dovizioso เก็บได้อีก 46 แต้ม เขาจะทำคะแนนเหนือสถิติของตัวเอง (261 คะแนน) ที่เคยทำไว้ในปี 2017 (แต่อย่าลืมว่า ในปี 2018 และ 2019 มีสนามให้ลงทำการแข่งขันถึง 19 สนาม ในขณะที่ปี 2017 มีเพียง 18 สนาม/ฤดูกาล)
Casey Stoner ตำนานแชมป์โลกจากค่าย Ducati
- ในปี 2007 ซึ่งเป็นปีที่ Casey Stoner ได้ครองตำแหน่งแชมป์โลกในสนามนี้ หลังจากจบอันดับที่ 6 ซึ่งในการแข่งขันครั้งนั้น ทีมเมทอย่าง Loris Capirossi เป็นผู้คว้าชัย
- Twin Ring Motegi เป็นแทร็กเดียวใน MotoGP ที่ Dovizioso สามารถออกสตาร์ทในตำแหน่งโพล โพสิชั่น ได้ถึง 3 ฤดูกาล คือ ในปี 2010, 2014 และ 2018
- โพเดี้ยมครั้งเดียวในสนามแห่งนี้ของ Danilo Petrucci ใน MotoGP คือ อันดับที่ 3 เกิดขึ้นในฤดูกาล 2017 ซึ่งในเวลานั้น Petrucci ยังอยู่ภายใต้สังกัด Pramac Racing ที่ใช้ตัวแข่ง Desmosedici GP จาก Ducati
- สังเวียน Twin Ring Motegi เริ่มใช้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกมาตั้งแต่ปี 1999 และได้รับความไว้วางใจให้จัดการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 ปี ซึ่งก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น Grand Prix of Japan ในช่วงปี 2000 - 2003 เคยใช้ชื่อ Grand Prix of the Pacific มาก่อน
- สาเหตุที่สนาม Motegi ได้รับการขนานนามว่าเป็น Twin Ring ก็เพราะ สนามแห่งนี้ มีการรวม Circuit 2 สนาม คือ สนามแข่งในรูปแบบทั่วๆ ไป และสนามรูปแบบ Oval เข้าไว้ด้วยกัน
- บ่อยครั้งที่สนาม Twin Ring Motegi ถูกเรียกว่าเป็นสนาม Stop and Go Track นั่นก็เพราะว่า สนามแข่งนี้แม้จะเป็นสนามที่สามารถใช้ความเร็วได้สูง แต่ก็ต้องลดความเร็วมาอยู่ในจุดต่ำสุด หรือในเกียร์ 1 ก่อนที่จะเข้าโค้งเช่นกัน ซึ่งมีถึง 3 โค้ง ที่ต้องเบรกและรวบเกียร์แบบมหาโหดขนาดนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Morebike