เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 9 สิงหาคม 2562 - 13:50

Royal Enfield เปิดตัว Bullet Trials Works Replica ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากตัวแข่งระดับตำนาน

 

          Royal Enfield Bullet คือ ตำนานที่ยังมีชีวิต การเดินทางของ Bullet เริ่มต้นในปี 1932 กินระยะเวลายาวนานกว่า 87 ปี ซึ่งทำให้ Royal Enfield ถูกขนานนามว่าเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่ดำเนินสายการผลิตมายาวนานที่สุดในโลก ส่งผลให้ Bullet เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่โลดแล่นอยู่บนท้องถนนมายาวนานที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน เส้นทางความเป็นมาของ Bullet เปรียบดั่งตำนานและเป็นไอคอนของยุคสมัย อาจกล่าวได้ว่าเรื่องราวที่มีความสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Bullet คือความสำเร็จของ Royal Enfield Bullet ในการแข่งขัน ไทรอัลส์ แชมเปี้ยนชิพส์ (Trials Championships) และด้วยแรงบันดาลใจจากตำนานการแข่งขันของ Royal Enfield ในรายการ International Six Days Trials (ISDT) และเพื่อสรรเสริญต่อจอห์นนี บริทเทน (Johnny Brittain) พ่อมดแห่งการแข่งขัน Trials Royal Enfield จึงเปิดตัว บุลเล็ต ไทรอัลส์ เวิร์คส์ เรพริกา 2019 (Bullet Trials Works Replica 2019)

 

 

          Bullet Trials มาพร้อมเครื่องยนต์ 500 ซีซี จำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 210 คันในประเทศไทย มีดีไซน์ที่โดดเด่นและฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานที่สะท้อนยุคที่รุ่งเรืองของการแข่ง Trials สุดคลาสสิกระหว่างทศวรรษ 1940 และ 1950 ซึ่ง รถ Bullet Trials รุ่นใหม่ใช้ยางที่มีลายดอกยางทรงเหลี่ยมเพื่อเพิ่มการยึดเกาะบนทางออฟโรดและแฮนด์เดิลบาร์เสริมแกร่งด้วยคานขวางหรือ Crossbar รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ยังมาพร้อมท่อไอเสียที่เฉียงสูงขึ้นเพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจเมื่อต้องลุยน้ำ และยังติดตั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) แบบดูอัลแชนแนล (Dual Channel) Bullet Trials ถูกติดตั้งบังโคลนล้อดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งเดี่ยว และแรคบรรทุกสัมภาระ นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ตกแต่ง 5 รายการที่ได้รับการออกแบบสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้โดยเฉพาะ ได้แก่ การ์ดป้องกันเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ตะแกรงครอบไฟหน้า บอร์ดประทับหมายเลขแข่ง การ์ดกันแคร้งใต้เครื่องอลูมิเนียม และปลอกสวมครอสบาร์ โดย Bullet Trials 500 มีราคาจำหน่ายรวมอุปกรณ์ตกแต่ง 5 รายการที่ 191,500 บาท

 

 

          มร.มาร์ค เวลส์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการออกแบบอุตสาหกรรม รอยัล เอนฟิลด์ โกลบอล กล่าวภายในงานเปิดตัว Bullet Trials ว่า “Royal Enfield มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่น่าภาคภูมิใจในการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นอมตะและมีความทนทาน ซึ่ง Bullet คือรถมอเตอร์ไซค์ที่ทนทานและมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานที่สุด ภาพของรถมอเตอร์ไซค์ Bullet Trials ที่ขี่โดย จอห์นนี บริทเทน นั้นเป็นสิ่งที่เราไม่เคยลืม ภาพเหล่านั้นทำให้เรารำลึกถึงสมรรถนะอันล้นเหลือของรถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่เหนือเส้นทางอันท้าทายและความสำเร็จในการแข่งขันไทรอัลส์

          โดยรถมอเตอร์ไซค์ Bullet Trials ปี 2019 ได้แรงบันดาลใจจากรถไทรอัลส์ของ จอห์นนี บริทเทน ที่คว้าแชมป์มากกว่า 50 ครั้งระหว่างปี 1948 ถึง 1965 และยังเป็นการอุทิศให้แก่รากฐานของการออกแบบและความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบจนเกิดเป็นช่วงล่างแบบสวิงอาร์มครั้งแรกในรถ Bullet ในปี 1949 และในปีนี้ เราร่วมรำลึกครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะในรายการ ISDT ของ Bullet Trials ที่นับเป็นการนำเสนอช่วงล่างแบบสวิงอาร์มเป็นครั้งแรกในปี 1949 ผมมั่นใจว่ารถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้จะได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ที่มีความหลงใหลต่อแบรนด์ Royal Enfield ในประเทศไทย”

 

 

          ประวัติศาสตร์ของการแข่งขันไทรอัลส์สามารถย้อนกลับไปได้ถึงต้นยุคทศวรรษ 1920 เมื่อผู้ผลิตรถจักรยานยนต์มักให้รถของตนเข้าร่วมการแข่งขันรถที่เรียกว่า Trials โดยให้คำนิยามการแข่งขันว่า “ไทรอัลส์ที่ไว้ใจได้” (Reliability Trials) เนื่องจากเป็นการโชว์สมรรถนะและศักยภาพในการยึดเกาะถนน ความสามารถในการควบคุมทิศทาง และความทนทานโดยรวมที่ไว้ใจได้ โดยร่วมการแข่งขันในสหราชอาณาจักรและทั่วทั้งภูมิภาคยุโรป อย่างไรก็ตามเมื่อพื้นผิวถนนถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 20 การแข่งขันแบบไทรอัลส์ได้เปลี่ยนสนามไปสู่การแข่งขันบน “เส้นทางออฟโรด” ที่จัดขึ้นเป็นโดยเฉพาะ ซึ่งพื้นผิวเส้นทางที่ท้าทายคือบททดสอบอันหนักหน่วงสำหรับทั้งคนและตัวรถ

          Royal Enfield Bullet เปิดตัวครั้งแรกในปี 1932  พร้อมกับการได้ชื่อว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ “สมบูรณ์แบบสำหรับการขับขี่แบบทัวริ่งหรือแข่งขัน Trials ” หลังจากเปิดตัวไม่นาน Bullet สามารถสร้างความสำเร็จจากการแข่งขันรายการ International Six Days Trial (ISDT) ในปี 1935 โดยที่ทีม Royal Enfield เป็นรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษหนึ่งเดียวที่ไม่ถูกตัดแต้มแม้แต่คะแนนเดียว จากนั้นในปี 1937 นักขี่เอนฟิลด์ สร้างสถิติคว้าถ้วยรางวัลถึง 37 ใบและเหรียญทองอีก 6 เหรียญในการแข่งขัน ISDT จากนักขี่ในตำนานอย่างชาร์ลี โรเจอร์ส (Charlie Rogers) จอร์จ โฮลด์เวิร์ธ (George Holdworth) และแจ็ค บุ๊คเกอร์ (Jack Booker) ซึ่งขี่ Bullet 250 ซีซี และ 350 ซีซี รวมถึงเวอร์ชั่นคัสตอมพิเศษสำหรับการแข่งขันขนาด 500 ซีซี สู่ชัยชนะ

          แต่ความสำเร็จที่แท้จริงเกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลก Royal Enfield กลายเป็นบริษัทแถวหน้าในการแข่งขันไทรอัลส์อย่างแท้จริง ด้วยบุลเล็ตขนาด 350 ซีซี รุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งออกแบบโดยเท็ด พาร์โด (Ted Pardoe) และโทนี่ วิลสัน โจนส์ (Tony Wilson-Jones) ซึ่งปฏิวัติวงการด้วยการผสมผสานช่วงล่างแบบสวิงอาร์มเข้ากับโช้คอัพน้ำมันเป็นครั้งแรกในรถจักรยานยนต์รุ่นผลิตจำหน่ายเชิงพานิชย์ การพัฒนาดังกล่าวพลิกโฉมการออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ไปตลอดกาล

          โดยบุลเล็ตที่มาพร้อมช่วงล่างแบบสวิงอาร์มของ Royal Enfield ได้ฉีกขนบดั้งเดิมของการเปิดตัวรถด้วยการเผยโฉมที่การแข่งขันไทรอัลส์ด้วยรถต้นแบบ 3 คันในการแข่งขัน Colmore Cup ปี 1948 หลังจากนั้น รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ได้รับการคัดเลือกให้ร่วมทีม British Trophy ในการแข่งขัน ISDT ปี 1949 จัดขึ้นในเมืองซานเรโม ประเทศอิตาลี ความสำเร็จตามมาพร้อมกับนักขี่บุลเล็ตทั้งสองคน ชาร์ลี โรเจอร์ส (Charlie Rogers) และวิค บริทเทน (Vic Brittain) คว้าเหรียญทองได้สำเร็จและส่งให้ทีมจากอังกฤษคว้าชัยชนะอันดับหนึ่ง Bullet Trials มาพร้อมช่วงล่างสวิงอาร์มจึงกลายหัวใจสำคัญของรถรุ่นนี้ต่อมาอีกถึง 14 ปี

 

 

          มร.วิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวภายในงานเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ว่า “ Royal Enfield Bullet มีฐานลูกค้าที่มีความภักดีและหลงใหลอย่างยิ่งอยู่ทุกมุมโลกมาตลอด 8 ทศวรรษที่ผ่านมา บุลเล็ต ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ระดับไอคอนและมีชื่อเสียงในด้านความทรหดทนทานและใช้งานได้ยาวนาน อีกทั้งมีประเพณีการส่งต่อรถมอเตอร์ไซค์จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อสานต่อตำนานแห่ง Trials ของ Bullet ในปี 2019 เรามีความยินดีที่จะประกาศการจัดจำหน่าย Bullet Trials ในประเทศไทย”

 

 

          การบอกเล่าเรื่องราวการครองความเป็นเจ้าสนามแข่ง ISDT ของ Bullet Trials ไม่อาจสมบูรณ์แบบได้ถ้าไม่มี จอห์นนี บริทเทน ผู้ซึ่งกวาดชัยชนะการแข่งขันไทรอัลส์กับรถ Bullet Trials 350 มานาน 15 ปี จอห์นนีเป็นลูกชายของตำนานนักขี่รายการ Trials อย่าง วิค บริเทน (Vic Brittain) จอห์นนี ร่วมทีม Royal Enfield ตอนอายุ 18 ปี และคว้าเหรียญทองแรกจากการแข่งขัน ISDT ในปี 1950 ด้วยรถ Trials Bullet 350 ซีซีอันโด่งดัง ประทับหมายเลข HNP 331 โดยจอห์นนีคว้าชัยชนะ Scottish Six Days Trial ซึ่งเป็นการแข่งขันระยะทาง 900 ไมล์ภายในระยะเวลา 6 วันเต็ม อย่างยิ่งใหญ่ถึงสองครั้ง (ปี 1952 และ 1957) ชนะการแข่งขัน Scott Trial สุดท้าทายอีกสองครั้ง (ปี 1955 และ 1956) และ British Experts Trial ที่มีความหฤโหดอีกสองครั้ง ซึ่งเขาเป็นผู้ชนะเลิศที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา (ปี 1952 และ 1953) อีกทั้งยังคว้าแชมป์รายใหญ่อีกกว่า 50 รายการและคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันโอเพ่น Trials อีกมากมายในช่วงเวลากว่า 15 ปี

 

 

          รถมอเตอร์ไซค์ Bullet Trials ปี 2019 คือการอุทิศให้แก่รถ Bullet Trials ปี 1949 ซึ่ง จอห์นนี บริทเทน ควบทะยานในการแข่งขัน Trials หลายรายการ รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ถ่ายทอดรูปลักษณ์และความรู้สึกของรถในช่วงต้นยุค 1950 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมติดตั้งฟีเจอร์ยุคใหม่อย่างระบบดิสก์เบรกคู่พร้อมเอบีเอส และระบบหัวฉีดอิเลคโทรนิค EFI Bullet Trials 500 จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ UCE ขนาด 498 ซีซีและ Bullet Trials 350 จะใช้เครื่องยนต์ UCE ขนาด 348 ซีซี เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่รถไทรอัลส์ของรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ Bullet Trials มีอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จาก Royal Enfield มากกว่า 30 รายการให้เลือกสรร ทั้งนี้ Royal Enfield ได้ออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์สุดพิเศษสำหรับ Bullet Trials โดยเฉพาะจำนวน 5 รายการ ได้แก่ การ์ดป้องกันเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ตะแกรงครอบไฟหน้า บอร์ดประทับหมายเลขแข่ง การ์ดกันแคร้งใต้เครื่องอลูมิเนียม และปลอกสวมครอสบาร์

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook