เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 1 สิงหาคม 2562 - 22:22

Triumph Rocket III R และ GT ครุยเซอร์รุ่นใหญ่แห่งเมืองผู้ดี พร้อมลุยตลาดสองล้อเต็มตัว

 

          Triumph Rocket III รถมอเตอร์ไซค์ที่เรียกได้ว่ามีขนาดเครื่องยนต์ไซส์บิ๊กบึ้มที่สุดเท่าที่ Triumph เคยผลิตมา แต่ก็ยุติการผลิตไปช่วงนึงในบล็อคเครื่องยนต์ 2,300 ซีซี. เมื่อหลายปีมาแล้ว แต่การกลับมาครั้งนี้ Triumph ได้เปิดตัว Triumph Rocket III R และ Triumph Rocket III GT โดยก่อนหน้าที่ทาง Triumph ได้เปิดตัว Triumph Rocket III TFC ที่เป็นตัว Limited Edition ไปแล้วในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ในครั้งนี้กับการวางจำหน่ายรุ่นย่อยเพื่อให้ผู้ที่สนใจและรอคอยโฉมใหม่ของเจ้า Rocket III ได้สัมผัสแบบไม่ต้องมี Limited Edition 

 

 

          มาในครั้งนี้ Triumph Rocket III R และ Triumph Rocket III GT มาในบล็อคเครื่องยนต์สุดอลังการกับสเปค 3 ลูกสูบ ขนาด 2,500 ซีซี. โดยมีเรดไลน์สูงสุดที่ 7,000 รอบต่อนาที ให้พลังแรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 221 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เรียกได้ว่าให้กำลังมหาศาลในรอบต่ำ

 

Triumph Rocket III R

 

Triumph Rocket III GT

 

          ในส่วนของรูปทรงในตัวของเจ้า Rocket III R จะมาในคอนเซ็ปต์ "Muscle Roadster" ที่เหมาะสำหรับการขี่หล่อๆ เดินทางระยะสั้นๆ แต่ในส่วนของ Rocket III GT จะมาในแนว Touring ที่มาพร้อมพนักพิงสำหรับผู้ซ้อนท้าย และมีชิลด์หน้าสำหรับบังลมได้ในระดับหนึ่ง ไปจนถึงตำแหน่งพักเท้าที่แตกต่างกับรุ่น R โดยในตัว GT พักเท้าจะอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าออกไปอีกเพื่อตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไกล และในตัว R พักเท้าจะอยู่ระนายเดียวกับตัวผู้ขี่เพื่อให้ได้อารมณ์สปอร์ตไปอีกแบบ

 

 

          ในส่วนของจุดเด่นที่ให้มาของทั้ง 2 รุ่นนี้ ที่เรียกได้ว่าเร้าใจสุดๆ เลยก็ว่าได้ กับท่อไอเสียคู่ขนาดใหญ่แบบ Hydroformed ที่มีการออกแบบให้ดูทรงพลังที่สุดเพื่อให้เหมาะกับขุมพลัง 2,500 ซีซี. ต่อด้วยล้อแม็กอลูมิเนียมกับยางล้อหน้าขนาด 150/80R17 ล้อหลังสุดบึ้มด้วยขนาดยางหลัง 240/50R16 เล่นเอางานนี้สาย Cruiser ใจละลายกันได้เลยครับ 

 

 

          ต่อกันที่สมรรถนะช่วงล่างและเทคโนโลยีที่มีมาให้เริ่มที่ชุดปั๊มเบรกหน้า Brembo Stylema ทำงานร่วมกับดิสก์เบรก Semi-Floating ขนาด 320 มม. ชุดระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง Showa สามารถปรับเซ็ทค่าได้อย่างละเอียด และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ Triumph กับระบบ Cornering ABS ที่จะทำงานร่วมกับระบบ IMU พร้อมกับ Traction Control เรียกได้ว่าระบบช่วยเหลือในการขับขี่ทาง Triumph ได้จัดหนักจัดเต็มมาให้เป็นที่เรียบร้อย

 

 

          ส่งท้ายกันที่เทคโนโลยีของทาง Triumph ที่ให้มากับชุดเรือนไมล์ TFT ทรงกลมที่เรียกได้ว่าเป็นพิมพ์นิยมแห่งยุคเลยก็ว่าได้ โดยตัวรถมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 โหมด คือ Rain , Road, Sport, Rider และระบบความปลอดภัยที่ทาง Triumph มีเสริมมาให้อีกนั่นก็คือ ระบบ Heat Grip หรือ แฮนด์อุ่นมือ ตามด้วย Cruise Control ที่จะช่วยล็อคความเร็วในขณะใช้คันเร่งเหมาะแก่การเดินทางไกลๆ และระบบสุดท้ายที่เหมือนจะไม่ค่อยได้ยินและไม่ค่อยมีในรถมอเตอร์ไซค์หลายๆ รุ่นนักกับระบบช่วยสตาร์ทบนทางลาดชัน เหตุที่มีระบบนี้เข้ามาเพราะตัวรถมีขนาดใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างเยอะ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยเครื่องยนต์ดับกลางอากาศขณะขึ้นเนินหรือต้องจอดสตาร์ทบนทางลาดชันการช่วยสตาร์ทเครื่องยนต์จะสามารถพยุงรถและผู้ขี่ไม่ให้ล้มแปะได้

 

 

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับรุ่นใหญ่พี่บิ๊กอย่าง Triumph Rocket III R และ Triumph Rocket III GT กับการกลับมาของตำนานอีกครั้ง คาดว่าไบค์เกอร์ชาวไทยคงจะได้สัมผัสโดยเร็วที่สุดก็คงจะเป็นการเปิดตัวในงาน Motor Expo 2019 สิ้นปีนี้ครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook