BMW Motorrad นับเป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ระดับพรีเมี่ยมอีกหนึ่งค่ายที่มักจะมีอะไรมาสร้างเซอร์ไพรซ์ให้กับชาวไบค์เกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดในงาน Motor Show 2019 ทางค่ายได้ส่งสองล้อในตระกูลแอดเวนเจอร์รุ่นล่าสุดออกมาเพื่อเอาใจสายลุยที่ชื่นชอบการผจญภัยแบบเต็มขั้น พร้อมเข้าถึงและฟันฝ่าอุปสรรคได้ในทุกสถานการณ์ กับมอเตอร์ไซค์ในอนุกรม GS Adventure ซึ่งแน่นอนว่า รถที่เรากำลังจะพูดถึงในครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นมอเตอร์ไซค์ที่มาในชื่อ BMW F850 GS Adventure (บีเอ็มดับบลิว เอฟ 850 จีเอส แอดเวนเจอร์) นั่นเอง
BMW F850 GS Adventure
BMW F850 GS Adventure เป็นมอเตอร์ไซค์สไตล์ Enduro ที่ได้รับการต่อยอดมาจากเพื่อนร่วมสายรหัสอย่าง BMW F850 GS ที่เปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2018 ซึ่งการพัฒนามาเป็นรถในตระกูล GS Adventure นั้น สิ่งแรกที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเลยก็คือ เรื่องของภาพลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่ง บึกบึนยิ่งขึ้น ด้วยการอัพขนาดถังน้ำมันให้มีความจุขึ้นมาถึง 23 ลิตร เพื่อให้สามารถเดินทางได้อย่างยาวนาน มันส์กับการผจญภัยได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ยังเติมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับการเดินทางในรูปแบบที่มีความสมบุกสมบันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแครชบาร์และการ์ดแคร้งเครื่องยนต์ พร้อมเติมแร็คท้ายสำหรับการติดตั้งปี๊บและกล่องสำหรับเก็บสัมภาระในยามเดินทาง รวมไปถึงการอัพเกรดยางหน้า-หลัง ที่มาในรูปแบบออฟโร๊ด เพื่อช่วยให้การฟันฝ่าทุกอุปสรรคเป็นไปอย่างสนุกสนาน เร้าใจมากยิ่งขึ้น สิ่งหนึ่งที่ BoxzaRacing สัมผัสได้จากการทดลองขี่ในครั้งนี้ก็คือ นอกจากตัวรถจะดูมีลุคที่แข็งแกร่ง ดุดัน ดูเต็มไม้เต็มมือมากยิ่งขึ้น ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของตัวผู้ขับขี่ให้ดูสง่างามยิ่งขึ้นอีกด้วย หรือว่าง่ายๆ คือ ขี่แล้วดูหล่อกว่า BMW F850 GS รุ่นปกตินั่นเอง
สิ่งหนึ่งที่อาจดูเป็นข้อเสียสำหรับรถในตระกูล GSA ก็คือ เรื่องความสูงของเบาะ ซึ่ง BMW F850 GS Adventure มีความสูงจากพื้นถึง 860 มม. เมื่อเทียบกับผู้ขับขี่ที่มีความสูงเพียง 168 ซม. ช่วงขา 77 ซม. อาจจะดูขาดความเหมาะสมไปบ้าง ขาทั้ง 2 ข้าง ทำได้เพียงวางที่พื้นได้แบบแตะๆ เท่านั้น ส่งผลให้ในช่วงแรกๆ การใช้งานในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างแออัด อาจดูติดขัดไปบ้างเล็กน้อย แต่หากทำความคุ้นเคยในระยะหนึ่งแล้ว การสไลด์ก้นช่วยแล้ววางขาข้างใดข้างหนึ่งลงบนพื้นแบบเต็มๆ ทำให้สามารถขับขี่ได้สะดวกและมีความมั่นคงกว่า โดยสิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมในความเป็น BMW ก็คือ แม้ว่าตัวรถ BMW F850 GS Adventure จะมีน้ำหนักที่มากถึง 244 กก. (รวมของเหลวและน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถัง) แต่กลับสร้างบาลานซ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้สามารถทรงตัวได้ง่ายขึ้นทั้งในยามขับขี่ หรือแม้แต่ตอนเข็นรถก็ตาม หากคุณเป็นผู้ที่มีทักษะการขับขี่มอเตอร์ไซค์ในระดับหนึ่งแล้ว เชื่อว่าสามารถปรับตัวได้แบบไม่ยากแน่นอน
Gear Shift Assistant Pro เติมนิด...ชีวิตสนุกขึ้นอีกขั้น
นับเป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นทีเดียว สำหรับเครื่องยนต์กลไกอันเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนของ BMW F850 GS Adventure ที่ได้รับการพัฒนามาจากตระกูล F ในเจนเนอเรชั่นก่อน จากที่เคยใช้เครื่องยนต์ที่วางเลย์เอาที่ลูกสูบขึ้นลงพร้อมกันและกำหนดความต่างในการจุดระเบิดไว้ที่ 360 องศา ซึ่งก็มีข้อเสียอย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีในเรื่องของอาการสั่นในรอบ 4-5,000 รอบ/นาที ซึ่งเป็นย่านรอบหลักๆ ที่เหมาะสมกับการเดินทาง แต่การกลับมาในครั้งนี้ ทางค่าย BMW เลือกใช้เลย์เอาท์เครื่องยนต์จุดระเบิด 270 องศา ตามสมัยนิยม ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของแรงบิดที่ส่งออกมาได้อย่างต่อเนื่องกว่าแล้ว ยังได้เรื่องของสุ้มเสียงที่ดูทรงพลังไม่แพ้เครื่องยนต์รุ่นใหญ่ตระกูล 1,000 Up และด้วยการทำ Counter Balance มาใหม่ ช่วยให้การหมุนของเครื่องยนต์ทำได้อย่างสมูทยิ่งขึ้น ขจัดอาการสั่นได้อย่างน่าประทับใจ โดยขุมพลัง 2 สูบ DOHC 8 วาล์ว พิกัด 853 ซีซี. ขนาดลูกสูบ x ช่วงชัก 84 มม. x 77 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 12.7 : 1 ระบายความร้อนด้วยน้ำ ของ BMW F850 GS Adventure สามารถทำแรงม้าได้ถึง 95 ตัว ที่รอบเครื่องยนต์ 8,250 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 6,250 รอบ/นาที ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นแรงบิดที่สูงมากเมื่อเทียบกับความจุ ซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนาไปในแนวทางที่ดี นอกจากนี้ยังมี Riding Modes Pro ให้เลือกอย่างจุใจถึง 5 โหมด ไม่ว่าจะเป็น Rain, Road, Dynamic, Enduro และ Enduro Pro ซึ่งช่วยจัดสรรกำลังให้เหมาะกับสถานการณ์ต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น โดยส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Gear Shift Assistant Pro และ Slipper Clutch
Dynamic ESA ของดีที่สาวก BMW หลงรัก
ล้อซี่ลวดทูปเลส...ของชอบเลย
กันสะบัดไฟฟ้า อุ่นใจได้อีกขั้น
ด้านระบบช่วงล่างของ BMW F850 GS Adventure เรียกได้ว่าจัดมาให้แบบเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นชุดโช้กอัพหน้าแบบ Upside Down ขนาด 43 มม. ระยะยุบ 230 มม. ผสานการทำงานกับชุดโช้กอัพด้านหลังแบบ Dynamic ESA พร้อมปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ด้วยระบบไฮดรอลิค ซึ่งสามารถปรับการทำงานได้อย่างเหมาะสมด้วยปุ่มควบคุมบนประกับแฮนด์ ช่วยให้สามารถเซ็ตฟีลลิ่งการขับขี่ต่างๆ ได้โดยง่าย แม้คอนดิชั่นในการเดินทางจะต่างไป ไม่ว่าจะมีคนซ้อน, มีน้ำหนักสัมภาระ, ขับขี่ในโหมดที่แตกต่างกันออกไป ก็สามารถปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับแต่ละรูปแบบได้ตามต้องการ โดยสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษสำหรับการกลับมาในเจนเนอเรชั่นนี้ ก็คือ การติดตั้งล้อซี่ลวดในรูปแบบ Tubeless มาให้ (รวมไปถึงตัว BMW F850 GS ด้วย) เนื่องจากโดยส่วนตัวแล้ว มองว่าเหมาะสมและง่ายต่อการใช้งานมากกว่า อีกทั้งยังมีภาพลักษณ์ที่ดูพรีเมี่ยมกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยล้อของ BMW F850 GS Adventure มาในขนาด 2.15 x 21 นิ้ว ในด้านหน้า และ 4.25 x 17 นิ้ว ในด้านหลัง โอบรัดด้วยยาง 90/90 R21 และ 150/70 R17 ตามลำดับ ด้านระบบเบรกมาพร้อมดิสค์เบรกคู่หน้า Brembo แบบ 4 POT จับคู่จาน 305 มม. ส่วนในด้านหลังมาในแบบ 1 POT พร้อมจาน 265 มม. จากแบรนด์เดียวกัน โดยเติมประสิทธิภาพการทำงานให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นด้วย ABS Pro
Keyless Ride ใช้งานสะดวกมากๆ
อยากได้ฟีลลิ่งแบบไหน...เซ็ตได้ตามต้องการ
ไฮไลท์ที่ถือว่าเป็นหมัดเด็ดมัดใจสาวกใบพัดฟ้าขาว คงหนีไม่พ้นเรื่องของออฟชั่น รวมถึงลูกเล่นล้ำสมัยต่างๆ ที่เรียกได้ว่าทางค่ายจัดมาให้แบบเต็มๆ สมฐานะความเป็นสองล้อในระดับพรีเมี่ยม โดย BMW F850 GS Adventure มาพร้อมกุญแจในรูปแบบ Keyless Ride ที่ช่วยเติมความสะดวกในทุกการเดินทาง ระบบไฟส่องสว่างมาในรูปแบบ LED ตั้งแต่หัวจรดท้าย โดยไฟหน้าสามารถเลือกเปิด หรือเปิด – ปิดอัตโนมัติ ได้ตามต้องการ เรือนไมล์มาในรูปแบบที่ผสานระหว่างความเป็นอนาล็อกกับหน้าจอดิจิตัลที่สามารถบ่งบอกข้อมูลต่างๆ ได้แบบครบถ้วน ชัดเจน พร้อมฐานยึดระบบนำทาง GPS ที่สามารถครบคุมได้ผ่านแฮนด์ ดูล้ำและใช้งานได้จริง ตามแบบฉบับความเป็นเยอรมันพันธุ์แท้เลยล่ะครับ
ถังน้ำมันความจุ 23 ลิตร ขี่จนลืม !
สัมผัสแรกของการขับขี่ หลังเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 เต็มถัง ลองเซ็ต 0 ตั้งค่าต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย เหลือบไปเห็นตัวเลข Count Down ระยะทางที่วิ่งได้ คือ กว่า 4xx กม. ถึงกับคิดในใจเลยว่า “ขี่กันจนลืมเติมเลยทีเดียว” ซึ่งมันก็นานจริงๆ แหละครับ กว่าจะได้เติมอีกครั้ง ด้วยความจุถังน้ำมันที่มากถึง 23 ลิตร สตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรก รู้สึกได้เลยทันทีถึงพละกำลังที่ซ่อนอยู่ ลองเบิ้ลคันเร่งเบาๆ พบว่าคันเร่งไฟฟ้าให้สัมผัสที่นุ่มมือ (เช่นเดียวกับก้านคลัทช์) สวนทางกับสุ้มเสียงที่มาแนวดุดัน ลองเลือกโหมด Road ในการขับขี่เพื่อทำความเข้าใจกันก่อน การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นค่อนข้างนุ่มนวล แต่ทรงพลัง คือ คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองอย่างเป็นมิตร ไม่ดุดันจนรู้สึกคุมยาก แต่ก็ให้พละกำลังออกมาใช้แบบเหลือๆ ในขณะที่เติมคันเร่งเพื่อเรียกอัตราเร่ง สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือ เรื่องของแรงบิดที่มีมาให้ใช้ในช่วงกว้าง ทำให้ไม่ต้องลากรอบเครื่องยนต์ให้สูง ช่วง 4-5,000 รอบ/นาที ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้น โดยที่กำลังเครื่องยนต์ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไป ข้อดีก็คือ ยิ่งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น แต่ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำลง ส่งผลโดยตรงในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองทำได้อย่างน่าพอใจ โดยหลังจากที่ลองคำนวณแล้ว วิ่งใช้งานด้วยความเร็ว 100-140 กม./ชม. (วิ่ง 100 กม./ชม. ที่เกียร์ 6 ใช้รอบเครื่องยนต์ประมาณ 3,7xx รอบ/นาที และความเร็ว 120 กม./ชม. ประมาณ 4,2xx รอบ/นาที) สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้มากกว่า 23.x ต่อลิตร ซึ่งต้องยอมรับในเรื่องความประหยัด อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพของช่วงล่างที่ให้การตอบสนองอย่างนุ่มนวล ให้ความสบายในการขับขี่สูงสุด แม้ว่าจะเจอเส้นทางที่ขรุขระ แต่ก็สามารถขี่ผ่านไปได้อย่างมั่นใจ ลดอาการเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ไปได้ในระดับที่น่าพอใจ
ฟังค์ชั่นต่างๆ ของ BMW F850 GS Adventure ถือว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะโหมดการขับขี่ที่สามารถเลือกได้อย่างหลากหลาย ซึ่งนอกจากจะให้การตอบสนองและพละกำลังที่แตกต่างกันออกไปแล้ว ยังรวมไปถึงฟีลลิ่งการขับขี่ที่ช่วยเติมความมั่นอกมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้มากขึ้นอีกด้วย โดยหลังจากที่ทำความคุ้นเคยกับตัวรถมาพอสมควร ผู้ขับขี่ได้ลองปรับโหมดเป็น Dynamic ซึ่งการตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นสร้างความตื่นเต้นได้มากกว่า รวมไปถึงช่วงล่างแบบ Dynamic ESA ที่เฟิร์มขึ้นอย่างรู้สึกได้ ช่วยให้การทรงตัวในย่านความเร็วสูงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยชิลด์หน้าแบบปรับระดับได้ เมื่อปรับให้มาอยู่ในตำแหน่งสูง จะช่วยลดลมปะทะตัวผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี หรือบางช่วงที่ต้องขับขี่ในขณะที่ฝนตก ถนนลื่น ผู้เขียนลองปรับเป็นโหมด Rain การตอบสนองและการทำงานของระบบ Dynamic Traction Control นั้นทำได้อย่างสมูท ไม่รู้สึกถึงรอยต่อระหว่างการทำงาน สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษก็คือ เรื่องของบาลานซ์ของตัวรถ ที่ช่วยให้ BMW F850 GS Adventure เป็นรถที่สามารถขับขี่และทรงตัวได้ง่าย ช่วยให้การพลิกรถเข้าโค้ง ยูเทิร์น หรือเลี้ยวแคบๆ ทำได้อย่างคล่องตัวจนน่าประหลาดใจ แม้จะมีฐานล้อที่ยาวถึง 1,593 มม. ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา ซึ่งความได้เปรียบที่มาจากการใช้ฐานล้อที่ยาวก็คือ ความมั่นคงในการขับขี่นั่นเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น BMW F850 GS Adventure มาพร้อมจุดสังเกตอยู่ 2-3 ข้อ ที่อาจจะต้องทำความเร้าใจกันสักเล็กน้อย อย่างแรกเลยก็คือ ระบบ Gear Shift Assistant Pro ที่ช่วยเติมความเร้าใจในยามขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น สามารถเตะผ่านสู่เกียร์สูงได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องกำคลัทช์ แต่การจะเตะผ่านโดยไม่ใช้คลัทช์ควรใช้รอบในการเตะที่เหมาะสมเพื่อความสมูทและประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน ประการที่ 2 ก็คือ ด้วยยางที่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ในรูปแบบ Enduro ดังนั้นการนำมาวิ่งบนถนน อาจก่อให้เกิดเสียงบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและทำความเข้าใจได้ ประการสุดท้ายคือ เรื่องของไอร้อนที่ถูกพัดพามาจากหม้อน้ำอาจสร้างความระคายเคืองให้กับน่องด้านซ้ายของผู้ขับขี่อยู่บ้าง ดังนั้นควรเลือกเครื่องแต่งกายให้รัดกุมและเหมาะสมกับการขับขี่ ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางทำได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้นอย่างรู้สึกได้ครับ
BMW F850 GS Adventure อาจไม่ใช่รถที่เจ๋งที่สุดในสามโลก แต่ก็ถือได้ว่าเป็นมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งรุ่นที่ขี่แล้วช่วยเสริมภาพลักษณ์ของตัวผู้ขับขี่ได้อย่างน่าประทับใจ หากพูดง่ายๆ เลยก็คือ ขี่แล้วดูโปรฯ นั่นแหละ นอกจากนี้...คุณงามความดีๆ อื่นๆ ก็ตามที่สาธยายมาตั้งแต่เริ่ม ซึ่งเทียบกับค่าตัว 675,000 บาท ก็ยังอยู่ในจุดที่คนที่หลงใหลบิ๊กไบค์สายลุยพอที่จะเข้าถึงได้ และเมื่อรวมกับบริการ BMW Motorrad Service Inclusive ระยะเวลา 3 พร้อมโปรแกรม BMW Motorrad Warranty ที่รับประกันเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง นับเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจ ที่สายลุยพันธุ์แท้ไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ !
