เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 6 กรกฏาคม 2561 - 16:43

Ducati Scrambler 1100 รีวิวมอเตอร์ไซค์สุดชิค ก้าวใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ทรงพลังยิ่งขึ้น ขี่สนุกไร้ขีดจำกัด

 

          Ducati Scrambler เป็นมอเตอร์ไซค์ที่อยู่คู่ชาวสองล้อมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี โดยรถที่เรียกกันว่า Scrambler จะมาพร้อมคาแร็กเตอร์อันโดดเด่น 4 ประการ นั่นก็คือ การใช้ยางในรูปแบบ Knobby Tyre หรือที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อของ “ยางบั้ง” การใช้เบาะในสไตล์ SCR Seat ไล่ระดับความสูงพร้อมลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ การใช้ถังน้ำมันรูปทรงหยัดน้ำ และประการสุดท้ายก็คือ การใช้แฮนด์บาร์กว้าง เพื่อให้การควบคุมรถทำได้โดยง่าย ขี่สนุก และมีความคล่องตัวสูง

 

 

           Ducati Scrambler เปิดตัวในประเทศไทยในช่วงปี 2015 ก่อนจะเป็นรถที่ได้รับความนิยมในวงกว้างจากไบค์เกอร์ทุกหัวระแหง ด้วยความเป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีภาพลักษณ์โดดเด่น ขุมพลังที่เร้าใจ ให้ความสนุกในการขับขี่อย่างเหนือชั้น ซึ่งล่าสุดทางค่ายมอเตอร์ไซค์อิตาเลี่ยนแบรนด์นี้ ได้ส่งรถในสไตล์ Scrambler รุ่นล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปท์ Ride Bigger ที่พร้อมเติมเต็มอรรถรสการขับขี่ขึ้นอีกระดับ ใหญ่ขึ้น สนุกขึ้น แน่นอนว่ารถที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ คงเป็นอื่นใดไปไม่ได้ นอกเสียจาก Ducati Scrambler 1100 คันนี้นี่เอง

 

 

            โดยสิ่งที่ได้รับการอัพเกรดใน Scrambler รุ่นใหญ่ก็คือ Mature แต่งเติมภาพลักษณ์ให้ดูเต็มไม้เต็มมือมากขึ้นด้วยองค์ประกอบที่ดูกำยำ ทรงพลังตั้งแต่หัวจรดท้าย พร้อมขยับความจุเครื่องยนต์เป็น 1,079 ซีซี., Advance แน่นอนว่า โลกแห่งมอเตอร์ไซค์ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีล้วนแล้วแต่มีบทบาทที่ช่วยส่งให้รถรุ่นนั้นๆ ขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน ควบคุมได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับที่ทาง Ducati Scrambler 1100 เพื่อเติมเต็มให้มอเตอร์ไซค์ผู้นี้ พร้อมสร้างความประทับใจให้กับผู้ขับขี่เพียงแรกสัมผัส, Enjoyable แน่นอนว่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถในสไตล์นี้ นอกจากในเรื่องของภาพลักษณ์แล้ว ความสนุกและอรรถรสในการขับขี่ ถือเป็นสิ่งสำคัญประการแรกๆ และสิ่งสุดท้ายที่ทางค่ายเน้นหนักก็คือ Refined หรือความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ดูทรงคุณค่า พร้อมการประกอบอย่างประณีต โดยวัสดุส่วนใหญ่ที่นำมาประกอบเป็น Ducati Scrambler 1100 ล้วนแล้วแต่เป็นโลหะทั้งสิ้น จะมีเพียง 3 ชิ้นส่วนเท่านั้น ที่ผลิตจากพลาสติก

 

Ducati Scrambler 1100

Ducati Scrambler 1100 Special

 

Ducati Scrambler 1100 Sport

 

            สำหรับ Ducati Scrambler 1100 ที่มีจำหน่ายอยู่ด้วยกัน 3 รุ่นย่อย เริ่มตั้งแต่ Scrambler 1100 ที่มีมาให้เลือกด้วยกัน 2 สี คือ สีดำ และสีเหลือง,  Ducati Scrambler 1100 Special ที่มาในอารมณ์ของรถในสไตล์คัสตอม ใช้ล้อซี่ลวด พร้อมสวิงอาร์มสีอลูมิเนียมบรัช ส่วนรุ่นย่อยสุดท้ายก็คือ Ducati Scrambler 1100 Sport ที่ได้รับการถ่ายทอดอารมณ์มาจาก American Muscle Bike คาดลายตัวรถด้วยแถบสีส้ม แฮนด์บาร์ต่ำกว่า 2 รุ่นแรก พร้อมเติมสมรรถนะการขับขี่ด้วยโช้กหน้า-หลังจาก Ohlins

 

 

           ขุมพลังที่ทางค่าย Ducati จัดมาประจำการใน Ducati Scrambler 1100 เป็นเครื่องยนต์พิกัด 1,079 ซีซี. 2 สูบ L Twin พร้อมวาล์ว Desmodromic อันเลื่องชื่อ ระบายความร้อนด้วยอากาศพร้อม Oil Cooler กำลังสูงสุดที่ทำได้คือ 86 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 88 นิวตัน-เมตร ที่สามารถเรียกมาใช้งานได้แบบง่ายๆ ในรอบต่ำเพียง 4,750 รอบ/นาที  ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด ด้านช่วงล่างสำหรับ Ducati Scrambler 1100 และ 1100 Special จะมาพร้อมโช้กหน้า UpsideDown จาก Marzocchi แกน 45 มม. ที่สามารถปรับได้อย่างละเอียด ทั้ง Preload, Compression และ Rebound ส่วนด้านหลังเป็นของ KYB โดยในรุ่น Scrambler 1100 Sport จะมาพร้อมความพิเศษขึ้นอีกขั้นด้วยโช้กหน้า Ohlins แกน 48 มม. และโช้กหลังจาก Ohlins เช่นเดียวกัน ระบบเบรกมาพร้อม Brembo M4.32 พร้อมจาน 320 มม. ในคู่หน้า ส่วนเบรกหลังเป็น Brembo 1 POT พร้อมจาน 245 มม. โดยมีตัวช่วยอย่าง Cornering ABS จาก Bosch เป็นหัวใจหลักในการสร้างความปลอดภัย ด้านยางที่ใช้มาในสไตล์ Knobby Tyre จากแบรนด์ Pirelli รุ่น MT 60 RS ขนาด 120/70 ZR18 ในด้านหน้า ส่วนด้านหลังมาในขนาด 180/55 ZR17

 

การเลือกปรับโหมดการขับขี่ สามารถทำได้โดยง่าย เพียงกดปุ่มที่ประกับแฮนด์ด้านซ้าย

 

              Advance หนึ่งปัจจัยหลักในการอัพเกรดเทคโนโลยีให้ Ducati Scrambler 1100 เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีอรรถรสการขับขี่ให้เหนือชั้น ขี่สนุก ปลอดภัยขึ้นอีกขั้น เริ่มตั้งแต่หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตัล ที่สามารถบ่งบอกข้อมูลการขับขี่ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว รอบเครื่องยนต์ ระดับเชื้อเพลิง ระดับการทำงานของระบบ Ducati Traction Control รวมถึงโหมดการขับขี่ที่สามารถเลือกได้ถึง 3 เลเวล ไม่ว่าจะเป็น City ที่ออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ขับขี่ สามารถควบคุมรถได้ง่าย คันเร่งแบบ Ride by Wire มีความสมูทที่สุด และลดทอนแรงม้าเหลือเพียง 74 ตัว, ซึ่งถ้าหากต้องการความเร้าใจที่มากขึ้น มีแรงม้าให้ใช้แบบเต็มๆ 86 ตัว ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดขยับมาเป็น Journey ที่สวิตช์ควบคุมบนประกับแฮนด์ด้านซ้าย ส่วนถ้าหากคุณต้องการความสนุกแบบไม่มีกั๊ก สามารถจัดเต็มได้จากโหมด Active ที่จะทอนการทำงานของระบบ Ducati Traction Control ให้ต่ำลง และให้การตอบสนองของคันเร่งอย่างฉับไวยิ่งขึ้น

 

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด กล่าวต้อนรับพร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ

 

คุณแอนนี่ ปริศนา ปัญญาศิรินุกูล ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลการขับขี่ Ducati Scrambler 1100

 

คุณศักดา พรรณยืนยง Chief DRE Instructor Thailand ให้ข้อมูลเส้นทางในการขับขี่

 

           ในครั้งนี้ ทาง Ducati Thailand ให้เกียรติเชิญทาง BoxzaRacing ร่วมทดลองขับขี่อีกครั้ง สำหรับเส้นทางที่ใช้ครั้งนี้ เป็นการเดินทางแบบชิลล์ๆ ในรูปแบบ Night Trip รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งแม้ระยะทางจะไม่ได้ไกลพอที่จะสัมผัสฟีลลิ่งของ Ducati Scrambler 1100 ได้แบบเต็มๆ แต่ก็พอได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาแชร์ให้กับผู้อ่านเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ โดยก่อนที่จะได้ทดลองขี่ เราได้รับเกียรติจากทางผู้บริหาร ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือ ดูคาติไทยแลนด์ กล่าวต้อนรับพร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ โดยมีคุณแอนนี่ ปริศนา ปัญญาศิรินุกูล มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการขับขี่ Ducati Scrambler 1100 รวมถึงคุณศักดา พรรณยืนยง Chief DRE Instructor Thailand เป็นผู้ให้ข้อมูลเส้นทางในการขับขี่

 

 

            ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลก หรือฟ้าฝนกลั่นแกล้งอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะทันทีที่ชาวคณะจะได้ออกไปขี่ Ducati Scrambler 1100 ชมเมืองกัน สายฝนก็โปรยปรายลงมาอย่างไม่ยั้ง แต่หากมองในแง่ดีซะ ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลองสัมผัสฟีลลิ่งอะไรใหม่ๆ รวมถึงระบบความปลอดภัยที่มีมาให้ใน Ducati Scrambler 1100 แบบถึงน้ำถึงเนื้อ ทันทีที่ฝนหาย ชาวคณะก็เริ่มออกเดินทางในสภาพพื้นที่เปียกลื่น เพื่อความไม่ประมาท ผมเลือกโหมด City เพื่อชิมลางก่อน สิ่งที่ประทับใจในทันทีที่สตาร์ทเครื่องยนต์ คือ เรื่องของสุ้มเสียงที่ทรงพลังในสไตล์ 2 สูบ ความจุระดับตัวพัน เบิ้ลคันเร่งเพียงเบาๆ เสียออกกระแทกเป็นลูกดูสะใจ กระตุ้นไฟในทรวงยิ่งนัก ออกตัวแบบนิ่มๆ เครื่องยนต์ให้การตอบสนองอย่างราบรื่น แรงบิดเพียงพอ และไม่รู้สึกถึงความกระชากมากมายนัก (สมูทกว่าตัว 800 ซีซี. ที่ผมเคยได้สัมผัสมาก่อนหน้านี้) หากไม่เผลอกระแทกคันเร่งเข้าไปแบบบ้าบิ่น (แต่หากทำเช่นนั้น ระบบ Ducati Traction Control ก็ลดทอนกำลังขับเครื่องยนต์ได้อย่างแนบเนียนจนแทบรู้สึก หากไม่สังเกต Indicator ที่กระพริบบอกว่า Traction Control กำลังทำงานอยู่)

 

 

            ท่านั่งของ Ducati Scrambler 1100 เซ็ตมาในแบบสบายๆ ตามสไตล์ของตัวรถ หลังตั้งตรง ช่วยลดอาการเมื่อยล้าแม้ต้องขี่ไกลๆ ด้วยแฮนด์ที่กว้างทำให้รู้สึกว่าการควบคุมรถทำได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งการเซ็ตองค์ประกอบของตัวรถนั้น ออกแบบมาให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้รู้สึกว่า Ducati Scrambler 1100 เป็นรถที่มีน้ำหนักเบา และคล่องตัวมากๆ จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่า แท้ที่จริงแล้ว รถคันนี้มีน้ำหนักอยู่ที่เท่าไหร่ ในใจคิดว่ารวมของเหลวทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ไม่น่าจะเกิน 190 กก. (แต่มารู้ทีหลังว่า Ducati Scrambler 1100 และ Ducati Scrambler 1100 Sport มีน้ำหนักที่ 206 กก. และ 211 กก. สำหรับรุ่น Special ที่เป็นล้อซี่ลวด) ซึ่งถือว่าเป็นรถที่มีน้ำหนักปกติสำหรับคลาสนี้ แต่ให้ความรู้สึกที่เบาในการขับขี่ พลิกรถ เข็นรถ อย่างเหลือเชื่อ

 

รถติดในเมือง ร้อนบ้าง...แต่ยังยิ้มได้

 

           อ่อ...ไม่พูดคงไม่ได้ เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นประเด็นที่หลายๆ คนสนใจ “ร้อนไหม ?” น่าจะเป็นคำถามที่ไบค์เกอร์หลายคนใคร่รู้มากที่สุด ซึ่งเหมือนกับโชคเข้าข้างมากๆ ในวันที่ได้ทดลองขับขี่ ขนาดเป็นช่วงเวลาค่ำคืน แต่...ชาวคณะ Ducati Scrambler 1100 ติดกันทุกไฟแดงครับ 30 วิ. 50 วิ. หรือแม้แต่ 150 วิ. เราเจอกันมาแล้วถ้วนหน้า ถามว่าร้อนไหม ? คงต้องเรียนตามตรงเลยครับว่า...มีบ้างพอระคายผิว ! ด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยอากาศ แถมเลย์เอาของท่อไอเสียสูบหน้ายังพาดขึ้นมาด้านบนเล็กน้อย จึงไม่แปลกหากจะรู้สึกว่าร้อนไปบ้าง แนะนำว่าหากต้องจอดหรือติดไฟแดงนานๆ การดับเครื่องยนต์อาจจะเป็นทางออกที่เหมาะสมกว่า แต่หากรถเครื่อนที่ไปแล้ว แม้ในความเร็วช้าๆ ด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์แบบ Air Cooled (อีกเช่นเคย) ที่เปิดโล่ง ไร้แฟริ่งหรือชิ้นส่วนมาบดบัง ทำให้ความร้อนถูกสลายไปกับสายลมอย่างรวดเร็ว ไม่รู้สึกว่าร้อน หรือมีปัญหาอะไรให้คาใจเลยแต่อย่างใด

 

 

           หลังจากทำความคุ้นเคยแบบพอหอมปากหอมคอ และสภาพถนนเริ่มแห้ง ผมลองสลับโหดเติมโหดขึ้นอีกขั้นสลับกันระหว่าง Journey และ Active ซึ่งสิ่งที่ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยก็คือ “แรงบิด” เป็นจุดขายที่คุณไม่ควรพลาดใน Ducati Scrambler 1100 คันนี้ ด้วยความที่เป็นเครื่องที่มีความจุค่อนข้างสูง (ระดับกว่า “พัน ซีซี. คงต้องเรียกว่าสูงแล้วแหละ) ทำให้สามารถเรียกแรงบิดสูงสุดออกมาให้ใช้ได้แบบไม่ยากเย็น ไม่ต้องเค้นหรือลากรอบเครื่องอะไรให้มากความ การเร่งความเร็วทำได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วตามไตล์ของเครื่อง L Twin แม้จะไม่มีโอกาสได้ลองใช้ความเร็วสูงมากนัก แต่เชื่อเถอะครับว่า...ผมสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้ ที่มันไปได้อีกเยอะจริงๆ หากมีโอกาสได้ลองสัมผัสอีกครั้งแบบเต็มๆ จะเอามาเล่าให้ฟังอีกแน่นอน

 

 

           ปิดทริปการรีวิว Ducati Scrambler 1100 ไว้เพียงเท่านี้ เชื่อว่านี่เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่ถือว่าตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการภาพลักษณ์ที่โดดเด่น ทรงพลัง คล่องตัว ใช้งานได้ทุกวัน ในค่าตัวที่เปิดมาแบบว้าวๆ กับ Ducati เครื่องพัน + เริ่มต้นเพียง “ห้าแสนกลางๆ” ต้องบอกว่า...มันน่าโดนมากๆ ครับ ยังไงซะ ความเท่ในสไตล์ Ducati ก็ยังเป็นอะไรที่ดูขลังเสมอมา

 

 

-Ducati Scrambler 1100 ราคา 559,900 บาท

 -Ducati Scrambler 1100 Special ราคา 599,900 บาท 

-Ducati Scrambler 1100 Sport ราคา 609,900 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook