หากจะบอกว่านี่คือ รถมอเตอร์ไซค์ต้นแบบของความคลาสสิก ที่ถูก Custom และรังสรรค์อย่างวิจิตรเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณก็คงจะไม่เวอร์เกินไป เพราะ "Triumph Bonneville Speedmaster" คือการผสมผสานระหว่างความเก๋าสุดคลาสสิคตามแบบฉบับของตระกูล Bonneville เข้ากับความเท่ด้วยงานคัสตอมสัญชาติอังกฤษขนานแท้ ซึ่งมาพร้อมกับสไตล์การขี่แบบ Cruiser ที่ให้อารมณ์อันดุดันเร้าใจไม่แพ้ Bobbers
Triumph Bonneville Speedmaster
Triumph Bonneville Speedmaster คือ การสร้างสรรค์ และสร้างความแตกต่างให้กับความคลาสสิคของตระกูล Bonneville อย่างชัดเจน ด้วยงานคัสตอมอันเป็นเอกลักษณ์สัญชาติอังกฤษ ผสานความสะดวกสบายในการขับขี่แบบ Cruiser ที่สามารถใช้งานได้ในทุกวัน และสามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบ Touring ได้อย่างสบายๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งความดุดันของกำลังเครื่องยนต์แรงบิดสูงอันลือลั่นของ Bonneville Bobber รวมทั้งเสียงคำรามของเครื่องยนต์แบบ Hot Rod ที่ช่วยเพิ่มความสนุก และเร้าใจในทุกการขับขี่
ไฟหน้าแบบ Nacelle สุดหรู ที่สะท้อน DNA ความคลาสสิคของ Bonneville แฝงความทันสมัยด้วยระบบไฟ LED
แฮนด์ทรงบีชบาร์แบบโน้มมาด้านหลัง ควบคุมได้อย่างใจสั่ง
ที่พักเท้าโน้มไปข้างหน้า พร้อมชุดเกียร์โยง สไตล์รถ Cruiser
โดย Triumph Bonneville Speedmaster มาพร้อมกับดีไซน์ไฟหน้าแบบ Nacelle สุดหรู ที่สะท้อน DNA ความคลาสสิคของ Bonneville ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่แฝงด้วยความล้ำสมัยด้วยหลอดไฟ LED อีกทั้ง Bonneville Speedmaster ยังพร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายอันเหนือระดับ ด้วยการออกแบบที่พักเท้าโน้มไปข้างหน้า และแฮนด์ทรงบีชบาร์แบบโน้มมาด้านหลัง ซึ่งให้ท่าทางการขับขี่ที่สบาย และควบคุมรถได้อย่างใจสั่ง นอกจากนี้ Triumph Bonneville Speedmaster ยังออกแบบเบาะนั่งผู้ขับขี่ที่สูงเพียง 705 มม. ซึ่งเหมาะกับสรีระของคนไทย ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ แม้ตัวรถจะมีน้ำหนักถึง 245.5 กก. ก็ตาม
ถังน้ำมันความจุ 12 ลิตร ประทับตรา Triumph เด่นเป็นสง่า
ออกแบบให้มีเบาะนั่งสำหรับผู้ซ้อนท้าย พร้อมพนักพิง
เรือนไมล์ทรงนาฬิกา มาตรวัดความเร็วแบบเข็ม พร้อมจอแสดงผลแบบดิจิตอล
Triumph Bonneville Speedmaster มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสุด กับระบบ Cruise Control
นอกจากนั้นแล้ว Triumph Bonneville Speedmaster ยังออกแบบให้มีเบาะสำหรับผู้ซ้อนท้าย ซึ่งจัดท่านั่งให้สะดวกสบาย รองรับกับการเดินทางไกลได้อย่างไม่เมื่อยล้า อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ที่มอบความสะดวกสบายอันเหนือระดับ เริ่มจากหน้าปัดเรือนไมล์ทรงนาฬิกา ที่แสดงมาตรวัดความเร็วแบบเข็ม ผสมผสานจอแสดงผลแบบดิจิตอลอย่างลงตัว รวมไปถึงปุ่มฟังก์ชั่นการขับขี่ที่มีให้เลือกทั้งแบบ Road / Rain ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และครั้งแรกกับระบบ Cruise Control (ระบบความคุมความเร็วแบบคงที่) ซึ่งช่วยให้การขับขี่เดินทางไกล เป็นเรื่องที่ง่ายดาย และสนุกมากยิ่งขึ้น
ดิสก์เบรคคู่หน้าขนาด 310 มม. ปั้มเบรค 2 POT ของ Brembo พร้อมระบบ ABS
จานดิสก์เบรคหลังขนาด 255 มม. ทำงานร่วมกับปั้มเบรค Nissin 2 POT พร้อมระบบ ABS
ด้านระบบช่วงล่างของ Triumph Bonneville Speedmaster มาพร้อมกับโช้คอัพหน้าแบบ Telescopic ขนาด 41 มม. จาก KYB และด้านหลังแบบ Mono Shock ของ KYB เช่นเดียวกัน ติดตั้งอยู่บนสวิงอาร์มแบบเคจ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนระบบเบรคด้านหน้าเป็นแบบจานดิสก์คู่ขนาด 310 มม. ทำงานร่วมกับปั้มเบรค Breambo แบบ 2 POT และด้านหลังเป็นแบบดิสก์เบรคเดี่ยวด้านซ้ายขนาด 255 มม. พร้อมปั้มเบรค Nissin แบบ 2 POT ซึ่งมาพร้อมกับระบบ ABS ทั้งหน้า-หลัง โดยสามารถเลือกเปิด-ปิดการใช้งานได้อีกด้วย โดยทั้งหมดติดตั้งอยู่บนล้อซี่ลวดขนาด 16 นิ้ว รัดด้วยยางหน้าขนาด 130/90 R16 และยางหลังขนาด 150/80 R16
เครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 1,200 ซีซี. SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ สมรรถนะ 77 แรงม้า แรงบิด 106 นิวตัน-เมตร
สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์ของ Triumph Bonneville Speedmaster นั้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ ขนาด 1200 ซีซี. SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 97.6 x 80.0 มม. กำลังอัด 10.0:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดไฟฟ้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด พร้อมคลัชท์มือแบบควบคุมแรงบิด ที่ให้ความนุ่มนวล และแม่นยำในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ อีกทั้งยังให้อัตรเร่งที่รวดเร็วทันใจกับระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride by Wire โดย Triumph Bonneville Speedmaster ให้สมรรถนะสูงสุดที่ 77 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงถึง 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องยนต์ตัวนี้ ที่ให้การขับขี่ที่สนุก และแรงบิดอันมหาศาล ผ่านเสียงคำรามอันเร้าใจแบบ Hot Rod
Triumph Bonneville Speedmaster โดดเด่นทุกมุมมองจนไม่อาจละสายตา
เมื่อทำความรู้จักกับเจ้า Triumph Bonneville Speedmaster อย่างครบถ้วนแล้ว ก็ถึงคราวที่จะได้ทดสอบขับขี่จริงกันสักที โดยต้องยอมรับตรงๆ เลยว่า แค่เห็นทรวดทรง และรูปร่าง ก็อยากที่จะขึ้นไปนั่งคร่อมแบบใจจดใจจ่อ เพราะดีไซน์ที่โคตรเท่ สะกดทุกสายตา โดดเด่นทุกมุมมองจนไม่อาจละสายตาไปได้ มิติตัวรถดูมีความกระชับ เพียงแค่บิดกุญแจไฟหน้าแบบ LED ก็ส่องสว่างออกมา พร้อมจอแสดงผลที่มีลูกเล่นอันล้ำสมัยให้ได้สัมผัส และเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ก็ทำให้ต้องร้อง Wow !! เพราะเสียงคำรามแบบ Hot Rod มันเร้าใจ และยากที่จะอดใจไม่ให้ออกไปท่องราตรีนี้ด้วยกัน
ควบคุมได้อย่างมั่นใจ นั่งสบาย ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง
นอกเหนือจากความเท่ และเสน่ห์ของตัวรถที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างโดดเด่นแล้ว Triumph Bonneville Speedmaster ยังให้ท่าทางการขับขี่ที่สะดวกสบาย ควบคุมได้ง่าย เท้าทั้งสองข้างสามารถสัมผัสพื้นได้อย่างเต็มๆ (แม้ผู้ขับขี่จะสูงแค่ 168 ซม. ก็ตาม) ซึ่งถือเป็นรถที่สามารถขับขี่ได้ทั้งมือใหม่ และมือเก๋า แฮนด์ทรงบีชบาร์โน้มเข้าหาตัวผู้ขับ ในขณะที่พักเท้าเยื้องไปด้านหน้า ทำให้การขับขี่สะดวกสบาย ไม่ต้องก้ม หรืองอหลังจนเกินไป แม้แฮนด์จะมีขนาดที่กว้าง แต่ก็ไม่ทำให้รัศมีวงเลี้ยวต้องเผื่อระยะแต่อย่างใด สามารถมุด และซอกแซกในเมืองได้อย่างสบายๆ แต่ถ้าจะให้ดี ขี่ทางไกลน่าจะสนุกกว่า
แรงบิดสะใจ ขี่สนุกเร้าใจด้วยเสียงคำรามแบบ Hot Rod
ในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ ต้องบอกเลยว่า Triumph Bonneville Speedmaster มาพร้อมกับขุมพลังแรงบิดอันมหาศาลอย่างแท้จริง ทำให้การขับขี่มีความสนุก และตื่นเต้นเร้าใจ ยิ่งได้ฟังเสียงเครื่องยนต์แบบ Hot Rod แผดคำรามด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คึกคัก โดยแรงบิดระดับ 106 นิวตัน-เมตร ที่มาในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำเพียง 4,000 รอบ/นาที ทำให้จังหวะเร่งแซง หรือจังหวะทอร์คทำความเร็วมาอย่างใจสั่ง และปลอดภัย ซึ่งผมได้ลองออกตัวแบบกระชาก เพื่อดูอาการสบัดของตัวรถ และลองดูว่าแรงบิดอันมหาศาลของตัวรถจะทำลายล้างได้มากขนาดไหน แต่ปรากฏว่าระบบ Traction Control ได้เข้ามาช่วยเหลืออย่างทันใจ ทำให้แรงบิดอันมหาศาลลงสู่ล้อหลังอย่างเต็มกำลัง ส่งผลให้ตัวรถเร่งแซงไปข้างหน้าอย่างไร้อาการสะบัดแม้แต่น้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าแม้แรงบิดจะเยอะแค่ไหน แต่ความปลอดภัยกลับไม่ได้ลดน้อยหายไปแม้แต่น้อย
Handling ที่นิ่ง และแม่นยำ คือ หัวใจสำคัญของ Triumph Bonneville Speedmaster
เมื่อความแรง และความเร้าใจตอบโจทย์ได้อย่างไร้ที่ติแล้ว เรื่องของการควบคุมก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Triumph Bonneville Speedmaster ทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ หากตัดสินด้วยรูปทรงที่เป็นแบบ Bobbers หลายท่านคงจะคิดว่าการขับขี่ หรือการควบคุมมันจะทำได้ดีจริงหรือ ? หรือแค่ขับเท่ๆ แล้วจอดโชว์ได้อย่างเดียว แต่ทว่าไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะแท้จริงแล้ว Triumph Bonneville Speedmaster กลับให้สมรรถนะการขับขี่ที่ไม่ต่างอะไรจากรถ Cruiser หรือรถ Touring เลยแม้แต่น้อย สิ่งที่สัมผัสได้อย่างเด่นชัดที่สุด คงต้องยกให้เป็นความนิ่ง และความแม่นยำของ Handling ไม่ว่าจะเป็นการเทโค้ง, กลับรถ U-Turn, โค้งกว้างๆ ใช้ความเร็ว Bonneville Speedmaster ก็ไปได้อย่างใจสั่ง ขี่สนุก และปลอดภัยทุกเส้นทาง
Triumph Bonneville Speedmaster เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีสไตล์ และเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน ในราคาจำหน่ายที่ 632,000 บาท
สำหรับ Triumph Bonneville Speedmaster ถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีสไตล์ และเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งจะสะท้อนบุคลิคความเป็นตัวตนของคุณได้อย่างเด่นชัด ดีไซน์เท่บาดใจ การควบคุมง่าย และคล่องตัว เครื่องยนต์จัดจ้าน แรงบิดสะใจ ขี่สนุก และปลอดภัยทุกเส้นทาง ซึ่งเจ้า Triumph Bonneville Speedmaster สามารถเป็นรถคู่ใจที่สามารถขับขี่ได้ในทุกวัน และทุกโอกาส โดย Triumph Bonneville Speedmaster มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีดำ Jet Black, สีแดง Cranberry Red และ สีขาว-ดำ Fusion White and Phantom Black With Hand Painted Cochline โดยมีราคาจำหน่ายที่ 632,000 บาท
