Ducati Panigale V4 S
Ducati ค่ายมอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาเลียน สร้างความคึกคักให้กับวงการสปอร์ตไบค์เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาด้วยการส่งสปอร์ตรุ่นใหญ่ น้องใหม่ในตระกูล Panigale อย่าง Ducati Panigale V4 (ดูคาติ พานิกาเล่ วีโฟร์) ออกมาเอาใจคนรักความเร็ว โดยความพิเศษของสปอร์ตไบค์ผู้นี้ก็คือ การกลับมาของขุมพลัง V4 จากค่าย Ducati ที่ถอดแบบมาจากตัวแข่ง MotoGP (Ducati Desmosedici GP) ซึ่งถูกนำมาประจำการแทนที่เครื่องยนต์ในแบบ L Twin ที่ทางค่ายใช้มาอย่างยาวนาน
Ducati Panigale V4 S มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตเร้าใจเต็มอารมณ์ตามสไตล์ของสปอร์ตรุ่นใหญ่สายเลือดอิตาเลียน เริ่มจากแชสซีส์ดีไซน์ใหม่ที่ทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ไฟหน้าแบบ LED ที่ฝังอยู่ในแฟริ่งด้านข้างแบบ Double Layer ที่ออกแบบให้มีมิติตัวรถที่แข็งแกร่ง และพลิ้วไหวตามหลักอากาศพลศาสตร์เช่นเดียวกับในส่วนถังน้ำมันที่ออกแบบมาให้โอบกระชับสรีระผู้ขับขี่ เพื่อเติมความมั่นใจในยามโหนเข้าโค้ง พร้อมความจุถัง 16 ลิตร เบาะนั่งทรงสปอร์ตตอนเดียวความสูงจากพื้น 830 มม. บั้นท้ายเรียวแหลมรับกับไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED ได้อย่างลงตัว สำหรับน้ำหนักตัวรถเพียวๆของ Ducati Panigale V4 S อยู่ที่ 174 กก. ซึ่งเมื่อรวมของเหลวทั้งหมดจะอยู่ที่เพียง 195 กก. เท่านั้น หากเทียบเป็นอัตราส่วนแรงม้า (214 แรงม้า) : น้ำหนัก (195 กก.) ก็เท่ากับว่า ในน้ำหนัก 1 กก. มีแรงม้ามาให้ใช้งานถึง 1.10 ตัว เลยทีเดียว
อย่างที่เกริ่นไปในเบื้องต้นว่าขุมพลังของ Ducati Panigale V4 S ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากตัวแข่ง Ducati Desmosedici GP ในเวทีการแข่งขัน MotoGP โดยมาชื่อ Desmosedici Stradale แบบ 4 สูบ V4 เสื้อสูบวางทำมุม 90° กับปริมาตรความจุ 1,103 ซีซี. ขนาดลูกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 81 x 53.5 mm อัตราส่วนกำลังอัด 14.0 : 1 พร้อมปรับเลย์เอาท์การหมุนของข้อเหวี่ยงใหม่ให้เป็นแบบ Rearward Rotating Crankshaft เพื่อสร้างเสถียรภาพในการขับขี่ให้สูงขึ้น ประกอบกับ Desmodromically Valves อันเลื่องชื่อ 4 วาล์ว/สูบ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบแปรผันความยาวอัตโนมัติ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดคู่ ระบายไอเสียด้วยท่อไอเสียเลย์เอาท์ 4-2-1-2 ทั้งหมดทั้งมวลสามารถปลดปล่อยพละกำลังออกมาให้ใช้งาน 214 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 124 นิวตัน-เมตร ที่ 10,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบ Ducati Quick Shift (DQS) EVO ที่สามารถทำงานได้ทั้งเพิ่มและลดเกียร์
โช้กหลัง Ohlins TTX36 พร้อมเทคโนโลยี Öhlins Smart EC 2.0
เบรกคู่หน้า Brembo M4.30 จับคู่จาน 330 มม.
Ducati Panigale V4 S มาพร้อมกับโช้คอัพหน้า Ohlins NIX30 ขนาดแกน 43 มม. ซึ่งเป็นโช้คอัพแบบปรับการทำงานด้วยไฟฟ้า สามารถปรับค่า Compression และ Rebound ได้อย่างละเอียดด้วยเทคโนโลยี Öhlins Smart EC 2.0 เช่นเดียวกับโช้คอัพด้านหลัง Ohlins TTX36 ที่ประกบคู่อยู่กับสวิงอาร์มแบบ Single Side ระบบเบรคด้านหน้าจัดเต็มด้วยชุดเบรคจาก Brembo M4.30 Monobloc แบบ Radail Mount จับคู่จานเบรก Semi Float ขนาด 330 มม. และเบรคหลัง Brembo 2 POT พร้อมจานขนาด 245 มม. โดยระบบเบรกทั้งหน้าและหลังมาพร้อม Conering ABS Evo จาก Bosch ช่วยเติมความปลอดภัยให้อีกขั้น ด้านล้อของ Ducati Panigale V4 S มาในขนาด 17 x 3.5 และ 17 x 6 นิ้ว ตามลำดับ โอบรัดด้วยยาง Pirelli รุ่น Diablo Supercorsa SP หน้า 120/55 และหลัง 200/60 ด้านเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยของ Ducati Panigale V4 S มาพร้อมกับ ระบบ Riding Mode, Power Mode, ระบบ Cornering ABS EVO, ระบบ Ducati Traction Control (DTC), ระบบ Ducati Wheelie Control (DWC) EVO, ระบบ Ducati Slide Control (DSC), ระบบ Engine Brake Control (EBC) EVO, ระบบ Ducati Power Launch (DPL), ระบบ Ducati Quick Shift (DQS) EVO ฯลฯ เรียกได้ว่าปลอดภัย เร้าใจแบบจัดเต็มจริงๆ
คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้สัมผัสสรรพสิ่งที่สุดยอด ในสถานที่ที่เป็นสังเวียนการแข่งขันระดับโลก ซึ่งในทันทีที่ผมได้รับเชิญจาก Ducati Thailand ให้ร่วมทดลองขับขี่ Ducati Panigale V4 S ณ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผมก้ไม่รีรอที่จะตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ในทันที โดยกิจกรรมในครั้งนี้ มาในชื่อ Panigale V4 Asia Press Test & DRE Race Track Asia ซึ่งนอกจาก BoxzaRacing จะได้ทดลองขับขี่ Ducati Panigale V4 S กับบรรดาสื่อมวลชนชั้นนำกว่า 30 ชีวิต จากทั่วเอเชียแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้เพิ่มพูนทักษะและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเรียนการสอนใน Ducati Riding Experience (DRE) จากผู้ฝึกสอน DRE ที่มากด้วยประสบการณ์ทั้งจากอิตาลี สเปน จีน และไทย อีกด้วย
ทีม DRE Instructor
ทันทีที่เดินทางมาถึง คณะสื่อมวลชนก็ได้การต้อนรับจากทางผู้บริหารและทีมผู้ฝึกสอนจากทาง Ducati ที่ให้ข้อมูลสำคัญของตัวรถ ก่อนการขับขี่ในเช้าวันรุ่นขึ้น โดยมีการแบ่งกลุ่มของผู้ขับขี่ออกเป็น 6 กรุ๊ป ตามระดับประสบการณ์ในสนามแข่ง ซึ่งทางผมเองเลือกอยู่ในกรุ๊ประดับ 3 ร่วมกับเพื่อนสื่อชาวไทย เกาหลีใต้ และจีน โดยผู้ฝึกสอน DRE กลุ่มนี้ คือ คุณศักดา พรรณยืนยง Chief DRE Instructor Thailand หรือ อ.เล็ก DRE จากประเทศไทยนั่นเอง
อ.เล็ก ศักดา พรรณยืนยง Chief DRE Instructor Thailand กำลังให้ข้อมูลการขับขี่
การจัดท่าทางให้ถูกต้อง ถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับขี่ที่เร็วและปลอดภัย
ก่อนที่จะลงไปหวดจริงในแทร็ก อ.เล็ก DRE เป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่ในสนามแข่ง เริ่มตั้งแต่การจัดท่าทางการขับขี่ให้เหมาะสม รวมถึงการอ่านไลน์ให้ถูกต้อง โดยยังไม่โฟกัสกับเรื่องของความเร็วมากจนเกินไป เพราะหากท่าทางได้ เข้าไลน์ได้อย่างเหมาะสม ความเร็วจะเป็นสิ่งที่ตามมาเองโดยอัตโนมัติ รอบแรกของการขี่ Ducati Panigale V4 S คือ การทำความคุ้นเคยกับสนามและฟีลลิ่งของตัวรถ สัมผัสแรกที่สตาร์ทเครื่องยนต์รู้สึกได้ทันทีถึงพละกำลังอันมหาศาล สุ้มเสียงจากรถสแตนดาร์ดรุ่นไหนทรงพลังที่สุด ผมคงกล้าพูดอย่างเต็มปากเลยว่า ก็...Ducati Panigale V4 S นี่แหละ ! ซึ่งหากมีโอกาสเลือกสปอร์ตไบค์มาครอบครองหนึ่งคัน โดยมีเงื่อนไขแบบขัดใจสายวิ่งว่า...ห้ามเปลี่ยนท่อเด็ดขาด ! ผมคงบอกกับใครต่อใครได้แบบไม่ต้องคิดมากเลยว่า ก็คงจะเลือกคันนี้นี่แหละ...เดิมๆ นี่เร้าสุดแล้ว !
ประเดิมการขับขี่กันด้วยโหมด Sport บอกได้เลยว่า...มันว้าวมาก ! ขี่ง่าย เลี้ยวง่าย และคล่องอย่างที่ไม่เคยสัมผัสสปอร์ตแบรนด์ไหนที่พลิ้วเท่านี้มาก่อน การจัดท่าทางสามารถทำได้ไม่ยาก ด้วยระยะพักเท้าที่เหมาะสม เช่นเดียวกับในส่วนของถังน้ำมันส่วนบนที่สามารถวางแขนโอบกระชับถังไว้อย่างมั่นใจยามเข้าโค้ง ไม่ว่าจะเป็นโค้งในรูปแบบไหน Ducati Panigale V4 S สามารถเข้าได้อย่างแนบเนียน ไม่ต้องใช้แรงในการโหนเยอะ เนื่องจากการพลิกรถนั้นทำได้ง่ายมากๆ นั่นเองเป็นเหตุผลที่ทำให้การขับขี่สปอร์ตไบค์ผู้นี้ในสนามแข่งระดับโลกอย่าง เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ทำได้อย่างสนุกสนานและมั่นใจเต็มเปี่ยม ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการขับขี่ในแต่ละช่วง อ.เล็ก จะคอยให้คำแนะนำในส่วนที่ควรปรับเพื่อให้การขับขี่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
หลังจากที่ทำความคุ้นเคยกับตัวรถและไลน์สนามกันมาพอสมควรแล้ว ก็ได้เวลาแห่งการเติมอรรถรสในการขับขี่ด้วยการปรับโหมดของ Ducati Panigale V4 S ให้เป็นในรูปแบบ Race เพื่อให้ผมได้สัมผัสความเร้าใจกับพละกำลังในระดับ 214 แรงม้า ได้แบบเต็มๆ ซึ่งนอกจากการตอบสนองจะทำได้อย่างสนุกสนาน เร้าใจสมคำร่ำลือแล้ว ต้องบอกว่าการปลดปล่อยฝูงม้าที่ซุกตัวอยู่ใน Ducati Panigale V4 S แบบล้นคอก สามารถทำได้อย่างนุ่มนวลและต่อเนื่องในทุกย่านกำลัง เสมือนการรวมเอาความโดดเด่นจากขุมพลัง 2 สูบ และ 4 สูบ มาผนึกไว้ในหนึ่งเดียว ยิ่งเมื่อมีตัวช่วยอย่าง Ducati Quick Shift (DQS) EVO ที่ผสานการต่อกำลังได้อย่างแนบเนียน ยิ่งช่วยให้การทะยานสู่ย่านความเร็วกว่า 270 กม./ชม. ทำได้เพียงไม่กี่อึดใจ โดยยังคงความมั่นในในยามต้องพับโค้งแบบลึกๆ ด้วยระบบเบรก Brembo ที่สามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงปิดคันเร่ง ตบรวบเกียร์ลง และเพิ่มน้ำหนักเบรกอย่างเหมาะสม ก็ช่วยให้ผ่านโค้งต่อเนื่อง 1-2 ในสนามเซปังฯ ได้อย่างมั่นใจ ซึ่งต้องยอมรับว่า ระบบเบรกที่ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐาน ทำหน้าที่ได้อย่างสุดยอดไปเลยทีเดียว
ความมั่นคงและระบบความปลอดภัยที่ประจำการมาให้ใน Ducati Panigale V4 S ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจกับรถรุ่นนี้ หากจะให้อธิบายเป็นความรู้สึก ก็คงพูดได้ประมาณว่า Ducati Panigale V4 S เป็นรถที่เร็วมาก แต่เป็นรถที่ขี่แล้วไม่รู้สึกว่าเร็ว (ความเร็ว 180-190 กม./ชม. ถือว่าเบสิคมากๆ สำหรับ Ducati Panigale V4 S) ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องแปลกหากผมจะรู้สึกแบบนี้ อย่างแรก คือ เพราะความเร็วสามารถทะยานขึ้นเหมือนการเปิดวาร์ป บิดแปบเดียว ความเร็วก็แทบทะลุ 200 กม./ชม. เพียงเผลอเดินคันเร่งแรงๆ แม้ในรอบต่ำ ล้อหน้าก็พร้อมที่ลอยขึ้นแบบไม่รีรอแล้ว แต่...ไม่ต้องกลัวเหวอไปครับ ระบบกันยก Ducati Wheelie Control (DWC) จะช่วยดึงหน้ารถของคุณให้แลนด์ดิ้งสู่พื้นได้อย่างแนบเนียน ประการต่อมา คือ รถค่อนข้างจะมีเสถียรภาพที่โดดเด่น ทั้งจากระบบช่วงล่าง Ohlins เบรก Brembo ยาง Pirelli Supercorsa บวกกับระบบอิเล็คทรอนิคส์ต่างๆ ช่วยเติมความมั่นใจทุกครั้งที่ขับขี่ และแน่นอนว่าเมื่อมีความมั่นใจแล้ว ความเร็วและความปลอดภัยจะเป็นสิ่งที่ตามมาโดยอัตโนมัติ
ก่อนจบ...ขอทิ้งทวนอีกประการหนึ่งที่หลายคนกำลังสงสัยและเชื่อว่าทุกคนกำลังรอคอยคำตอบก็คือ มันร้อนไหม ? ว่ากันตามตรงเลยนะครับ สำหรับการขี่บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ต รวมไปถึงรถจำพวกเนคเก็ตไบค์ หรือทัวริ่งในหลายๆ รุ่น ล้วนแล้วแต่สร้างความระคายผิวให้กับผู้ขับขี่ไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับสภาพอากาศบ้านเราก็คงเป็นที่รู้กันดีอยู่ แต่สำหรับ Ducati Panigale V4 S นั้น ได้รับการออกแบบแฟริ่งด้านข้างมาใหม่ ปรับทิศทางในการระบายความร้อนออกสู่ด้านข้าง แทนที่จะปล่อยตรงสู่ผู้ขับขี่ (เหมือนที่เราสัมผัสได้ในสปอร์ตหลายๆ รุ่น) ซึ่งเท่าที่สัมผัสมา แน่นอนครับว่า...มันไม่ทำให้รู้สึกร้อนจนต้องหงุดหงิด และส่วนขาไม่ต้องสัมผัสโดยตรงกับเฟรมของรถเหมือนสปอร์ตบางรุ่น เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความร้อนจากการขับขี่ได้ในระดับที่น่าประทับใจแล้วครับ
แฟริ่่งปรับทิศทางลมใหม่ ช่วงขาไม่สัมผัสเฟรม = ไม่ร้อน...เชื่อเถอะ !
Ducati Panigale V4 S เป็นสปอร์ตอีกหนึ่งรุ่นที่ BoxzaRacing กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า “งานดี...มีเกียรติ” ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของภาพลักษณ์ที่เตะตา ขุมพลังใหม่ที่แรงและสุ้มเสียงดุดันเกินบรรยาย บวกกับเครื่องเคียงระดับพรีเมี่ยมที่เมื่อได้ครอบครองแล้วแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไรเพิ่มเติม (ถ้าไม่นับกิเลสส่วนตัว) กับค่าตัวที่เปิดมาแบบยั่วใจชายเช่นนี้ หากคุณเป็นสายสปอร์ตตัวจริง Ducati Panigale V4 S เป็นอีกหนึ่งคันที่คู่ควรแน่นอนครับ
Ducati Panigale V4 S ราคา 1,069,000 บาท, Ducati Panigale V4 ราคา 969,000 บาท