Aprilia จัดว่าเป็นสุดยอดแห่ง Super Bike ที่ใครๆ ก็หลงใหล ด้วยภาพลักษณ์ชวนสะกดทุกสายตา ที่ซุกซ่อนความเร้าใจด้วยขุมพลัง V4 อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ อันเป็นปัจจัยให้แบรนด์ซูเปอร์ไบค์จากอิตาเลี่ยนผู้นี้ ดูน่าค้นหาก็คือ ความขลังของแบรนด์ ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณแชมป์โลกที่สั่งสมมาถึง 54 รายการ เลยทีเดียว
หากพูดถึงแบรนด์ Aprillia แล้ว สองล้อรุ่นหนึ่งที่ถือได้ว่าสร้างชื่อระดับตำนาน คงหนีไม่พ้นสปอร์ตไบค์ในตระกูล RSV4 ที่ล่าสุดทาง บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัว Aprilia ตระกูล RSV4 รุ่นปี 2017 ซึ่งประกอบไปด้วย 2 รุ่นย่อย นั่นก็คือ Aprilia RSV4 RF และ Aprilia RSV4 RR ที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นมาอีกขั้น เพื่อให้ตัวรถมีสมรรถนะที่โดดเด่นไร้ขีดจำกัด โดยสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงหลักๆ เลยก็คือ ระบบอิเลคทรินิคส์ ระบบช่วงล่าง รวมไปถึงระบบเบรก ซึ่งทางค่ายเคลมว่า ด้วยการอัพเกรดนี้เอง ส่งผลให้ Aprilia RSV4 RF และ Aprilia RSV4 RR รุ่นปี 2017 สามารถทำเวลาเฉลี่ยต่อรอบในสนามได้ดีกว่าโมเดลก่อนถึง 1 วินาที เลยทีเดียว
Aprilia RSV4 RF 2017
Aprilia RSV4 RF และ Aprilia RSV4 RR มาพร้อมความโดดเด่นด้วยขุมพลัง V4 ที่มีขนาดกะทัดรัด และแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยกำลังสูงสุดถึง 201 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิด 115 นิวตัน-เมตร ที่ 10,500 รอบ/นาที ด้วยเลย์เอาท์ของตัวเครื่องที่มาในรูปแบบ V4 ทำให้ตัวรถไม่กว้างเกินจำเป็น ช่วยให้การบังคับควบคุมทำได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ระบบส่งกำลังได้รับการอัพเกรดด้วย Quick Shifter ที่สามารถทำงานได้ทั้งการเพิ่ม – ลดเกียร์ ชุดเบรกคู่หน้า Brembo M50 ได้รับการอัพเกรดจุดจานเบรกเป็นขนาด 330 มม. ด้านระบบอิเลคทรอนิคส์ สิ่งที่เปลี่ยนไปแบบชัดเจนที่สุดก็เห็นจะเป็นหน้าจอสีแบบ TFT พร้อมเพิ่มระบบ APRC (Aprilia Performance Ride Control) ที่ช่วยปรับโหมดให้เหมาะกับรูปแบบการขับขี่ ทั้ง Sport, Race และ Track (สามารถปรับละเอียดได้อีกตามต้องการ) ซึ่งประกอบไปด้วย แทร็กชั่นคอนโทรล, ระบบป้องกันการยกของล้อ, ระบบช่วยออกตัว Launch Control, Cornering ABS, โหมดจำกัดความเร็วใน Pit Lane รวมถึง Cruise Control นอกจากนี้ยังมีมัลติมีเดียแพลทฟอร์มที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อเซ็ตค่าต่างๆ ของตัวรถทั้ง 2 รุ่น อีกด้วย โดยความแตกต่างระหว่าง Aprilia RSV4 RF และ Aprilia RSV4 RR ก็คือในส่วนของช่วงล่าง ซึ่ง Aprilia RSV4 RF มาพร้อมโช้กอัพ Ohlins NIX ขนาด 43 มม. ในด้านหน้า และโช้ก Ohlins TTX ระยะยุบ 120 มม. ในด้านหลัง พร้อมด้วยกันสะบัดจากแบรนด์เดียวกัน รวมถึงล้อที่ใช้สำหรับตัว RF จะเป็นอะลูมิเนียมผสมแบบ 5 ก้าน ที่ให้น้ำหนักที่เบากว่า
คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด และ Mr.Fausto Ricci (ขวาสุด) ผู้แนะนำเทคนิคในการขับขี่
BoxzaRacing ได้รับโอกาสดีอีกครั้งจากทาง บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญเข้าร่วมทดลองขี่ Aprilia RSV4 RF และ Aprilia RSV4 RR ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทันที่ที่ได้รับสารนี้ มือไม้ผมงี้สั่นด้วยความตื่นเต้นกับการได้สัมผัสแบรนด์ระดับโลก ตัวละครลับแห่งวงการซูเปอร์ไบค์ที่น่าค้นหาที่สุดในสามโลก ในสนามแข่งระดับโลก ซึ่งก่อนที่จะร่วมทดลองขับขี่ คณะสื่อมวลชนก็ได้การต้อนรับจากผู้บริหาร คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต้อนรับ รวมถึง Mr.Fausto Ricci เป็นผู้แนะนำเทคนิคในการขับขี่
แม้ว่าในวันที่ทำการทดลองขี่ สภาพอากาศจะไม่ค่อยเป็นใจ โดยมีพายุฝนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางคืน ลากยาวถึงช่วงครึ่งวันเช้า แต่ในความโชคร้าย ก็ยังถือว่ามีสิ่งที่น่าประทับใจอยู่ไม่น้อย ด้วยการเตรียมพร้อมของทางทีมงาน Aprilia ที่จัดเซ็ตยาง Pirelli Diablo Rain สำหรับการขับขี่ในสภาพสนามเปียก อันเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้สัมผัสรถที่มีสมรรถนะเร้าใจขนาดนี้ ในสภาพพื้นผิวที่แตกต่างออกไป โดยรุ่นที่ BoxzaRacing ได้ทดลองขับในช่วงสภาพพื้นแทร็กเปียกก็คือ Aprilia RSV4 RR ด้วยความที่เป็นครั้งแรกกับแบรนด์นี้ ในสภาพสนามที่ไม่ปกติ ผมจึงค่อยๆ ขี่อย่างไม่ประมาท เข้าโค้งแบบเซฟๆ ไม่เทเยอะ เพราะถ้าพลาดมา...คงตลกไม่ออกเป็นแน่ ซึ่งสิ่งที่สัมผัสได้ทันทีที่คร่อมรถก็คือ ท่านั่งสไตล์สปอร์ตจ๋า ก้มตัวพองาม พักเท้าสูงช่วยให้การจัดท่าทางเข้าโค้งทำได้เหมาะสมยิ่งขึ้น ความรู้สึกในทันทีที่บิดคันเร่ง คือ การตอบสนองที่ทำได้อย่างรวดเร็ว อารมณ์ดุดัน ดีดดิ้นของตัวรถที่แสดงออกมาได้อย่างเกรี้ยวกราด จนทำให้อดคิดในใจไม่ได้ว่า ในสภาพพื้นแทร็กแบบนี้ ถ้าเผลอเดินคันเร่งแรงไป อาจได้ลงไปนอนเล่นในบ่อกรวดก็เป็นได้ แต่ด้วยระบบอิเลคทรอนิคส์ที่ให้มา ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถคุมรถได้ง่ายขึ้น
สำหรับในช่วงบ่าย แม้จะยังมีฝนลงเม็ดอยู่เล็กน้อย แต่ด้วยสภาพแทร็กที่ค่อนข้างแห้ง ทำให้ทีมงาน Aprilia ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนยาง Pirelli Diablo Supercorsa ให้สื่อมวลชนได้ยัดโค้งกันแบบจัดเต็ม ซึ่งในคราวนี้ ผมเปลี่ยนมาทดลองขี่ Aprilia RSV4 RF ที่ทวีเทพขึ้นอีกขั้น ซึ่งความรู้สึกที่ได้สัมผัสจากการขี่ในสนามช้างฯ ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ คาแร็กเตอร์ของตัวรถ ยังคงรุนแรง ดุดันเช่นเคย ฟีลลิ่งของเครื่องยนต์คล้ายส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเครื่องยนต์ 2 สูบ ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ผสานอารมณ์ดึงแบบยาวๆ ความเร็วขึ้นต่อเนื่องในสไตล์ 4 สูบ ซึ่งเป็นคาแร็กเตอร์เฉพาะของขุมพลังในรูปแบบ V4 เพียงไม่กี่อึดใจในช่วงปลายเกียร์ 3 ความเร็วก็ทะลุ 200 กม./ชม. แบบไม่ยากเย็น ซึ่งหากต้องการเรียกพละกำลังออกมาใช้อย่างเต็มที่ การคลอๆ คันเร่งเลี้ยงรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับ 6,000 รอบ/นาที ขึ้นไป จะช่วยให้ผู้ขับขี่สนุกกับ Aprilia RSV4 ได้อย่างเต็มที่ ด้านฟีลลิ่งการควบคุม ด้วยตัวรถที่ค่อนข้างสั้น และมีน้ำหนักเบา ทำให้การเข้าโค้ง พลิกซ้าย-ขวา ทำได้โดยง่าย แม้ผู้ขับขี่จะมีรูปร่างที่ค่อนข้างเล็ก แต่ก็สามารถควบคุมรถได้อย่างไร้ปัญหา เช่นเดียวกับระบบเบรกที่สามารถกำหนดน้ำหนักการเบรกได้ตามต้องการ โดยมีกราฟการออกแรงเบรกแสดงบนหน้าจอและเก็บเป็นข้อมูลสำหรับวิเคราะห์การขี่ได้อีกด้วย ระบบไฟฟ้าทำงานได้แบบเนียนๆ แอบช่วยตามความเหมาะสมกับระดับที่ตั้งไว้ ซึ่งไม่ทำให้รู้สึกว่าขาดอรรถรสและความสนุกในการขับขี่ อีกสิ่งหนึ่งที่อดชื่นชมไม่ได้เลยก็คือ ความสมูทในการทำงานของระบบ Quick Shifter ที่ก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกมาตลอดว่าชิฟเตอร์ของสปอร์ตฉายาฉลามทำได้เนียนชนิดที่ว่าหาตัวจับยาก แต่พอได้มาลอง Aprilia RSV4 RF และ Aprilia RSV4 RR ความคิดของผมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
Aprilia RSV4 RF และ Aprilia RSV4 RR ยังคงเป็นซูเปอร์พรีเมี่ยมสปอร์ตไบค์ระดับขึ้นหิ้งที่ใครๆ ต่างหมายปอง ด้วยสมรรถนะที่มีความโดดเด่น สะท้อนคาแร็กเตอร์ของตัวเองออกมาแบบยากที่จะหาใครเหมือน ซึ่งเมื่อบวกกับความเป็นตัวละครลับแห่งวงการซูเปอร์ไบค์ที่น่าค้นหาที่สุดในสามโลกแล้ว ผมว่าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความพร้อม และอยากได้อะไรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ Aprilia RSV4 RF และ Aprilia RSV4 RR เป็นรถที่ตอบโจทย์ของสายหล่อ สายซิ่ง สายสนามได้อย่างแท้จริงเลยล่ะครับ
Aprilia RSV4 RF ราคา 1,255,000 บาท, Aprilia RSV4 RR ราคา 1,075,000 บาท
