เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 5 เมษายน 2561 - 12:38

Honda CB300R รีวิวสองล้อสุดคราฟต์ กับภาพลักษณ์และสมรรถนะที่ใช่ ความเร้าใจที่โดนเต็มๆ

 

           Honda สร้างปรากฏการณ์ที่เรียกว่าช็อควงการสองล้อ หลังจากที่เมื่อปีก่อนได้ปล่อยมอเตอร์ไซค์สุดแหวกแนวที่มาในธีม Neo Sports Café ที่ได้แรงบันดาลใจจากสองล้อในแนว Café Racer อันได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน โดยใส่ความเป็นโมเดิร์นเข้าไปให้ตัวรถดูมีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น พร้อมปรับในเรื่องของสมรรถนะที่มีความโดดเด่น โดยรุ่นแรกที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับสองล้อแนวนี้ นั่นก็คือ Honda CB150R Exmotion นั่นเอง

 

Honda CB300R สองล้อสไตล์ Neo Sports Café

 

สองล้อสุดคราฟต์ กับไบค์เกอร์สุดคูล ของคู่กันอย่างปฏิเสธไม่ได้

 

            นอกจากลุคสุดคราฟต์ในสไตล์ Neo Sports Café ที่ให้ความเท่อย่างลงตัวทุกองค์ประกอบตั้งแต่หัวจรดท้าย ที่ช่วยสะท้อนคาแร็กเตอร์อันโดดเด่นของผู้ครอบครองแล้ว องค์ประกอบที่จัดมาให้ในสองล้อสุดคราฟต์ Neo Sports Café สไตล์อย่าง Honda CB150R Exmotion แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเครื่องเคียงต่างๆ ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มสไตล์บิ๊กไบค์ จนทำให้ผมอดที่จะคิดไม่ได้ว่า อยากให้ Honda ทำรถในสไตล์นี้ออกมาอีกหนึ่งรุ่น โดยมีเงื่อนไขที่ว่า มาพร้อมขุมพลังแบบจัดเต็มยิ่งขึ้น ยังคงให้สไตล์ที่โดดเด่นเช่นเดิม แต่ให้สมรรถนะที่เหนือไปอีกขั้น ซึ่งทันทีที่มีข่าวการเปิดตัวของ Honda CB300R ทำให้ผมอดใจที่จะร้องว้าวไม่ได้เลยจริงๆ เพราะเชื่อได้ว่า รถหน้าตาแบบนี้ องค์ประกอบแบบนี้ พร้อมความเร้าใจประมาณนี้ จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานของผมได้อย่างลงตัวแน่นอน

 

 

           Honda CB300R จัดเต็มด้วยความโดดเด่น ตั้งแต่ในเรื่องของดีไซน์สุดคราฟต์ในแบบฉบับความเป็น Neo Sports Café ประณีตทุกรายละเอียดเฉกเช่นงานแฮนด์เมด โดยเลือกใช้วัสดุอย่างพิถีพิถัน ส่งให้มุมมองโดยรวมของตัวรถดูมีความพรีเมี่ยม ซึ่งเหมาะกับหนุ่มช่างเลือกแบบผมจริง นอกจากนี้ยังมาพร้อมมุมมองสุดคูล แฮนด์อ้วนสไตล์บิ๊กไบค์ วางขนาบข้างเรือนไมล์ LCD พร้อมชิฟต์ไลท์ สามารถบ่งบอกค่าการทำงานต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ถังน้ำมันมาในดีไซน์สุดเพรียว รับกับสรีระผู้ขับขี่พร้อมความจุ 10 ลิตร จับคู่เบาะนั่งแบบ 2 ตอน โครงสร้างตัวรถมาในแบบ Diamond frame ที่เน้นเรื่องความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบา โดยมีน้ำหนักทั้งหมดเพียง 143 กก. เท่านั้น

 

 

           นอกจากดีไซน์สุดคูลตามแบบฉบับความเป็น Neo Sports Café แล้ว สิ่งหนึ่งที่ Honda CB300R มีให้ก็คือ เรื่องของพื้นฐานในส่วนขององค์ประกอบที่เรียกได้ว่าจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของช่วงล่าง ที่มาพร้อมโช้กอัพ Upside Down ขนาด 41 มม. จาก Showa ส่วนด้านหลังมาในแบบโมโนโช้ก ที่สามารถปรับพรีโหลดให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวผู้ขับขี่และผู้ซ้อนได้ถึง 7 ระดับ เช่นเดียวกับระบบเบรกที่จัดเต็มสไตล์บิ๊กไบค์ระดับพรีเมี่ยมด้วยหูยึดแบบ Radial Mouth พร้อมคาลิเปอร์ 4 POT จาก Nissin ส่วนด้านหลังมาพร้อมคาลิเปอร์ 1 POT โดยมีระบบ ABS G-Sensor มาเป็นตัวช่วยเติมความปลอดภัยอีกระดับ Honda CB300R มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สุดเท่ขนาด 17 นิ้ว โอบรัดด้วยยาง 110/70 R17 ในล้อหน้า และ 150/60 R17 ที่ล้อหลัง

 

ดิสค์เบรคหน้าแบบเรเดียลเม้าท์พร้อมคาลิเปอร์ 4 POT

 

ขุมพลังสูบเดี่ยว เปรี้ยวเกินพิกัด 300 ซีซี.

 

ท่อไอเสียสุดเท่ ถ่ายทอด DNA จาก Honda Neo Sports Café Concept

 

           หัวใจหลักแห่งการขับเคลื่อนของ Honda CB300R ยังคงเป็นเครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 286 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักที่ 76 x 63 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10.7:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI เอกสิทธิ์เฉพาะของ Honda ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยความพิเศษที่ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อ Honda CB300R โดยเฉพาะก็คือ ท่อไอเสียที่ถูกถ่ายทอด DNA มาจาก Honda Neo Sports Café Concept ที่ให้ซุ้มเสียงที่เร้าใจทรงพลัง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองด้านอัตราเร่งอีกด้วย

 

 

           การจะเลือกรถคันหนึ่งมาใช้งานนั้น นอกจากเราจะดูเรื่องของสเปค สมรรถนะที่มีความโดดเด่น โดนใจแล้ว สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนคาดไม่ถึง ว่ามีอิทธิพลต่อความสุขในการขับขี่ นั่นก็คือ เรื่องของความถูกชะตา ซึ่งเมื่อได้เห็น Honda CB300R แว๊บแรก ความรู้สึกที่อยากจะครอบครองของผม ก็เกิดขึ้นในทันที นี่เป็นรถหนึ่งในไม่กี่รุ่น ที่ผมเห็นแล้วรู้สึกว่าถูกชะตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะแน่นอนว่าด้วยดีไซน์ที่มาในรูปแบบ Neo Sports Café เช่นนี้ ย่อมช่วยสะท้อนตัวตนของผมออกมาได้อย่างชัดเจนแน่นอน เชื่อเถอะ...มันเหมาะกับคนลุคสุดคราฟต์แบบผมจริงๆ ครับ

 

 

           สัมผัสแรกที่ผมได้คร่อมเจ้า Honda CB300R รู้สึกได้ทันทีถึงความคล่องตัว ด้วยน้ำหนักที่กำลังดี ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป สำหรับผู้ขี่ไซส์มาตรฐานชายไทย 165 -175 ซม. ถือว่าเหมาะอย่างยิ่ง หลังจากที่สตาร์ทเครื่อง กลิ่นอายของพละกำลังที่ซ่อนอยู่ ก็ถูกปล่อยออกมาแบบเต็มๆ ด้วยเครื่องยนต์ที่มาในรูปแบบ 1 สูบ ข้อดีก็คือ เรื่องของแรงบิดที่มาเรียกออกมาใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้การใช้งานในเมืองทำได้อย่างคล่องตัว เร่งง่าย ไต่ความเร็วได้ดี หากเผลอเปิดคันเร่งหนักไปนิด อาจมีอาการล้อหน้าลอยเล็กๆ ท้ายออกเบาๆ ให้ตื่นเต้นก็เป็นได้ แต่ยังไงแล้ว ด้วยความแรงที่กำลังเหมาะมือแบบนี้ ทำให้ Honda CB300R ยังเป็นรถที่สามารถควบคุมได้อย่างเชื่องมืออยู่ดี เรียกว่าการใช้งานในเมืองถือว่าสอบผ่านฉลุยอย่างไม่ต้องสงสัย

 

 

           ด้วยพื้นฐานด้านช่วงล่างและองค์ประกอบที่มีความโดดเด่น ช่วยให้การเดินทางด้วย Honda CB300R ทำได้อย่างมั่นใจ แม้จะขับขี่ด้วยความเร็วสูงที่เครื่องยนต์พาไต่ผ่านย่านความเร็วต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วจากอัตราทดเกียร์ที่ออกแบบมาได้อย่างเหมาะสม แต่ช่วงล่างก็ยังเก็บอาการของตัวรถได้อย่างอยู่หมัด ให้ความรู้สึกหนึบๆ สไตล์สปอร์ต ไม่มีอาการดีดดิ้นแม้ต้องเจอกับสภาพถนนที่ไม่อำนวย ขี่แล้วมั่นใจแม้ย่านความเร็วในระดับ Top Speed ถ้าพูดแบบไม่เกรงใจคือ เหนือกว่าช่วงล่างของบิ๊กไบค์หลายๆ รุ่นที่ผมเคยสัมผัสมาเลยก็ว่าได้ ในส่วนของระบบเบรกก็ถือว่าทำได้อย่างน่าพอใจ ให้สัมผัสที่ดี พร้อมหยุดได้ในระยะที่ปลอดภัย อีกทั้งยังมั่นใจได้ว่าล้อจะไม่เกิดอาการล็อคด้วย ABS ที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาด

 

 

           Honda CB300R ดูจะเป็นทางเลือกที่คู่ควรอย่างปฏิเสธไม่ได้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาสองล้อในงบไม่เกิน “แสนห้า” ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ ทั้งในส่วนของภาพลักษณ์ที่เตะตา สมรรถนะที่มีความโดดเด่นไม่แพ้บิ๊กไบค์ และที่สำคัญด้วยความที่เป็นรถในพิกัด 300 ซีซี. ทำให้คุณสามารถไปออกทริปที่ไหน กับใครก็ได้ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดกลุ่ม หรือตามไม่ทัน เพราะความเร็วเดินทางสำหรับรถในคลาสนี้ ถือว่าทำได้อบบสบายๆ ไม่เกี่ยงรุ่น ไม่เกี่ยงคลาสแน่นอนครับ

 

Honda CB300R ราคาแนะนำที่ 149,800 บาท

 

          Honda CB300R ราคาแนะนำที่ 149,800 บาท และสำหรับรุ่น CB300R H2C Street Fighter Edition ราคาแนะนำ 165,000 บาท (จำนวนจำกัดเพียง 500 คัน เท่านั้น) สัมผัสตัวจริงได้แล้วที่ Honda Wing Center ทั่วประเทศ และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th และ Facebook.com/hondamotorcyclethailand

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook