บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด หรือ รอยัล เอนฟิลด์ ทองหล่อ ได้จัดอบรมหลักสูตร Royal Enfield Riding Academy ณ สนาม Motor Sport Park สุวรรณภูมิ เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะในการขับขี่รถจักรยานยนต์ Royal Enfield และเป็นการรณรงค์เรื่องการขับขี่ปลอดภัยบนท้องถนน โดยหลักสูตรดังกล่าว จะมีทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ซึ่งสามารถนำไปใช้กับสถานการณ์การใช้รถจักรยานยนต์ในชีวิตประจำวัน โดยทางทีมงาน BoxzaRacing ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมอบรม พร้อมทดสอบสมรรถนะของรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ไปพร้อมกัน
หลักสูตรการเรียน Royal Enfield Riding Academy
สำหรับผู้ที่ใช้งานรถจักรยานยนต์ในขั้นพื้นฐานได้ หรือมีการใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่เป็นประจำ แต่ต้องการเพิ่มพูนทักษะการควบคุมรถจักรยานยนต์ที่สูงขึ้นเพื่อให้ขับขี่ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ที่ลงหลักสูตรดังกล่าวจะได้รับความรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติในรูปแบบต่างๆ ที่มีการใช้ทักษะที่แตกต่างกันออกไป ทั้งการเตรียมพร้อม สำหรับการขับขี่, ท่าทางในการขับขี่, การเบรก, การควบคุมรถในทางโค้ง รวมถึงการขับขี่เป็นกลุ่ม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการออกทริป
การอบรมภาคทฤษฎี
โดยในขั้นตอนแรกของการอบรม Royal Enfield Riding Academy จะเป็นการอบรมในภาคทฤษฎี ซึ่งได้รับเกียรติจาก Instructor ประจำศูนย์ฝึก Royal Enfield เป็นผู้บรรยาย โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 5 หัวข้อหลักๆ ได้แก่
1. การเตรียมตัวก่อนการขับขี่
โดยการเตรียมตัวก่อนการขับขี่ จะแบ่งเป็น 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ผู้ขับขี่, รถมอเตอร์ไซค์ และสิ่งแวดล้อม โดยในส่วนของการเตรียมตัวก่อนการขับขี่ของผู้ขับขี่ คือ ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ, ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ และไม่ทานยาที่มีผลข้างเคียงต่อสติ สำหรับในส่วนรถมอเตอร์ไซค์ ต้องมีการตรวจสภาพของรถมอเตอร์ไซค์ก่อนการขับขี่, เช็คลมยาง, และทำความเข้าใจรถตามคู่มือประจำรถ ส่วนด้านสิ่งแวดล้อม คือต้องวางแผนเส้นทางก่อนออกเดินทาง
2. ท่าทางที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่
โดยสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการขับขี่นั่นคือ สายตา เพราะฉะนั้นการมอง ควรมองให้ไกล และมองไปข้างหน้า เพื่อที่จะวิเคราะห์ และประเมิณสถานการณ์ได้ทัน แขน และหัวไหล่ ควรอยู่ในตำแหน่งที่มีความยืดหยุ่น ไม่ตึง และหย่อนจนเกินไป ส่วนปลายเท้าควรตั้งตรงไปด้านหน้า ไม่บิดเข้า หรือบิดออก ช่วงหัวเข่าใช้หนีบถังน้ำมัน
บรรยายโดย Instructor ผู้เชี่ยวชาญจาก Royal Enfield
3. การเบรค
สำหรับการเบรคนั้น แบ่งได้ 2 ประเภท คือ เบรคเพื่อหยุดรถ และเบรคเพื่อชะลอรถ โดยวิธีการที่ถูกต้อง คือ จะต้องเบรคหลังก่อน แล้วจึงค่อยเบรคหน้า หรือเบรคทั้ง 2 ล้อ พร้อมกัน เพราะการเบรคหน้าก่อนอาจจะทำให้ล้อหลังไม่เกาะถนน และสูญเสียกำลังในการเบรกหลังได้ หรืออาจจะทำให้การทรงตัวเป็นไปได้ยากกว่า และที่สำคัญ คือ ต้องใช้ Engine Brake เข้าช่วย (ไม่ต้องบีบคลัชท์)
4. การเข้าโค้ง
สำหรับการเข้าโค้งนั้น สิ่งสำคัญ คือ สายตาต้องมองไกลไปยังกลางโค้ง หรือปลายโค้ง ไม่มองแต่ข้างหน้า (ใช้สายตานำทาง) พร้อมทั้งทำความเข้าใจการไลน์โค้ง ซึ่งหลักการที่ถูกต้อง คือ การเข้าโค้งแบบ Out-In-Out เช่น จะเลี้ยวโค้งขวา ต้องให้รถชิดฝั่งซ้ายก่อนเข้าโค้ง แล้วเทรถเข้าไปยังมุมในของโค้ง และค่อยแบนออกนอกโค้ง เป็นต้น
ผู้เข้าอบรมรับฟังการบรรยายภาคทฤษฎีกันอย่างตั้งใจ
5. การขับขี่แบบกลุ่ม หรือออกทริป
โดยการขับขี่แบบเป็นกลุ่ม หรือการออกทริป หลักการสำคัญ และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงประการแรก คือ ความปลอดภัยของตัวเรา และความปลอดภัยของผู้ร่วมทาง ซึ่งควรใช้รูปแบบการขับขี่แบบคาราวาน แถวตอนเรียงหนึ่ง แต่ถ้าหากมีจำนวนรถเยอะ ควรใช้รูปแบบการขับขี่แบบสลับฟันปลา (อยู่ในช่องทางเดินรถเพียงช่องทางเดียวกัน)
ลงสนามสู่ภาคปฏิบัติ
เริ่มจากการหา Balance ของตัวรถ และการทำความคุ้นเคยกับตัวรถก่อน
เมื่อได้รับฟังบรรยายภาคทฤษฎีกันไปแล้ว ก็ถึงคราวลงมือปฏิบัติ โดยทีมงาน Instructor จะทำการสาธิตให้ดูก่อนอย่างละเอียด เริ่มจากการหา Balance ของตัวรถ และการทำความคุ้นเคยกับตัวรถก่อน หลังจากนั้นจะแบ่งการปฏิบัติเป็น 3 สถานี ได้แก่
ทีมงาน BoxzaRacing ควบเจ้า Royal Enfield Continental GT เข้าร่วมอบรมสถานีการเบรค
อบรมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง
1. สถานีการเบรค
ซึ่งทีมงาน BoxzaRacing ได้ควบเจ้า Royal Enfield Continental GT เข้าร่วมอบรมในสถานีนี้เป็นอันดับแรก โดยทางทีมงาน Instructor จะตั้งไพลอนไว้เพื่อกำหนดจุดเบรค และใช้วิธีการเบรคตามทฤษฎีที่ได้เรียนกันไปเบื้องต้นมาทดลองปฏิบัติจริง ซึ่ง Royal Enfield Continental GT ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ซึ่งเป็นผลพวงจากดิสก์เบรค Brembo แบบ Floating Disk ขนาด 300 มม. พร้อมปั้มเบรคของ Brembo และจานดิสก์เบรคหลังขนาด 240 มม. ของ Brembo เต็มระบบ ผสานกับหลักการเบรคที่ถูกวิธีที่ทางทีมงาน Instructor ได้อบรม ทำให้เบรคได้อย่างมั่นใจ เอาอยู่ในทุกสถานการณ์ ซึ่ง Royal Enfield Continental GT มีระยะเบรคที่สั้น และทรงตัวได้อย่างปลอดภัย
บททดสอบสถานีสลาลอม
เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ กับ Royal Enfield Classic
2. สถานีสลาลอม (Slalom)
โดยในสถานีนี้ จะเป็นการทดสอบการเข้าโค้งทั้งซ้าย และขวา ทั้งในระยะแคบ และในระยะกว้าง ซึ่งในสถานีนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ได้เปลี่ยนมาใช้รถ Royal Enfield รุ่น Classic ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดขนาด 500 ซีซี. ภายใต้ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์สไตล์รถยุคหลังสงครามโลก ที่มาพร้อมสมรรถนะการทรงตัวที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้งซ้าย หรือโค้งขวา ก็สามารถควบคุมได้อย่างคล่องตัว ไม่มีอาการขืนของตัวรถแต่อย่างใด ซึ่งในสถานีนี้ จะต้องใช้ทักษะในการมอง และทรงตัวเป็นสำคัญ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการขับขี่ในชีวิตประจำวันเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้จริง
สถานีการทรงตัว
ผู้ทดสอบปฏิบัติตามหลักการขับขี่ที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัด
3. สถานีการทรงตัว
ซึ่งสถานีนี้ เป็นการจำลองเหตุการณ์ และสถานการณ์ว่าอยู่ในพื้นที่แคบ (เพียงช่วงรถ) โดยการตั้งไพลอนบังคับ เสมือนว่าอยู่ในเส้นทางที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยไพลอนที่ตั้งเป็นเหมือนสันเขา หากเฉี่ยวชน หรือออกนอกเส้นทางก็อาจจะประสบอุบัติเหตุได้ ซึ่งต้องใช้ทักษะ และความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเน้นไปที่การทรงตัวในความเร็วต่ำ ใช้ส่วนเอว และหัวเข่าช่วยในการเปลี่ยนทิศทางของรถ พร้อมทั้งใช้สายตามองนำไปยังจุดหมายที่ต้องการจะไปอย่างมีสมาธิ ซึ่งถือเป็นการทดสอบที่มีประโยชน์ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง
เริ่มการขับขี่แบบ Free Run เพื่อเป็นการทบทวนบทเรียน และนำมาประยุกต์ใช้ในการขับขี่
ได้รับทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
และเมื่อทำการทดสอบครบทุกสถานีแล้ว ก็จะเป็นการขับขี่ในสนามแบบ Free Run โดยการนำเอาบทเรียนจากภาคทฤษฎี และการทดสอบในภาคปฏิบัติมาประยุกต์ใช้กับการขับขี่ในสนามแบบเป็นกลุ่ม โดยจะมีทีมงาน Instructor ขับนำ และคอยดูแลความปลอดภัยรอบสนาม ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมอบรมในโครงการ Royal Enfield Riding Academy รวมถึงทีมงาน BoxzaRacing ต่างก็มีทักษะการขับขี่ที่ดี และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางทีมงาน BoxzaRacing ต้องขอขอบคุณ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ที่ได้กิจกรรมอบรมทักษะการขับขี่ที่ปลอดภัยในครั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Royal Enfield Society Thailand หรือทาง facebook.com/RoyalEnfieldThailand
รายละเอียดค่าสมัครกิจกรรม
