สงครามระหว่าง Naked Middle Size พิกัดไม่เกิน 700 ซีซี.
กลับมาพบกันอีกครั้ง สำหรับการเปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ที่เรียกได้ว่า เจาะลึกทุกซอกทุกมุมอย่างแท้จริง เพื่อเฟ้นหาจุดเด่น และจุดแตกต่างระหว่างรุ่นที่นำมาทำการเปรียบเทียบอย่างละเอียด สำหรับครั้งนี้ทาง BoxzaRacing ขอนำเอารถมอเตอร์ไซค์ BigBike ในสไตล์ Sport Naked Bike ในคลาส Middle Size ที่มีขนาดพิกัดไม่เกิน 700 ซีซี. ที่กำลังได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในสังคมชาวไบค์เกอร์ มาสาธยายให้เห็นกันไปเลยว่า รุ่นใดจะโดนใจที่สุดในการเปรียบเทียบในครั้งนี้
แน่นอนว่ารถมอเตอร์ไซค์ BigBike ในสไตล์ Sport Naked Bike ในคลาส Middle Size ที่มีขนาดพิกัดไม่เกิน 700 ซีซี. ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากของชาวไบค์เกอร์ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในวันนี้ จะเป็นรุ่นใดไปไม่ได้ ทางหากไม่ใช่เจ้าแห่ง Sport Naked Bike อย่าง 4 รุ่นนี้ เริ่มจากค่ายปีกนกที่ส่ง Honda CB650F มาลงสู้ศึก ตามมาด้วยค่ายตั๊กแตนเขียวที่ขอส่ง Kawasaki ER6N และค่ายซ้อมเสียงที่ขอส่ง Yamaha MT-07 ปิดท้ายด้วยค่ายน้องใหม่จากอิตาลีอย่าง Benelli ที่ขอส่งเจ้า TNT600 เข้าร่วมในสงคราม Sport Naked Bike ในคลาส Middle Size ที่มีขนาดพิกัดไม่เกิน 700 ซีซี. ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ตามมาชมกันเลยดีกว่า
Honda CB650F
เรามาเริ่มกันที่ค่ายปีกนกกันก่อนเลยดีกว่า สำหรับ Honda CB650F ที่เพิ่งส่งสีใหม่มาเสริมทัพความนิยมไปในงาน Motor Show 2016 ซึ่งมาพร้อมกับสีตัวถังใหม่แบบดำ-ขาว คาดด้วยสติ๊กเกอร์สีเขียว และมาพร้อมล้อแม็กด้านหลังสีขาวขนาดใหญ่ รวมไปถึงสีดำ-แดง ส่วนการออกแบบตัวแฟริ่ง เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ทาง Honda ต้องการสื่อความเป็นเน็กเก็ตไบค์ ที่มีกลิ่นอายของความเป็นสปอร์ตผสมอยู่ ด้วยการเปลือยแฟริ่งด้านล่าง บวกกับการยกแฮนด์บาร์ให้มีความสูงขึ้น ทำให้โดยรวมแล้ว มันดูมีความหนักแน่น และดุดันเอาการ
มาดูที่ช่วงล่างของ Honda CB650F กันบ้าง เจ้าเนกเก็ตไบค์ยอดฮิตคันนี้ มาพร้อมกับโช๊คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิค ขนาด 41 มม. และด้านหลังเป็นโช๊คอัพแบบ Monoshock ขนาด 43.5 มม. ซึ่งมันยังสามารถปรับ Preload หรือระยะยุบตัวได้อีกด้วย และแน่นอนว่าเบรคของมันพ่วงมาด้วยระบบ ABS โดยข้างหน้าจะใช้ดิสก์เบรคขนาด 320 มม. และด้านหลังมีขนาด 240 มม.
ส่วนเรื่องของสมรรถนะ Honda CB650F มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ที่ถือเป็นจุดขายเลยก็ว่าได้ เพราะเครื่องยนต์มีขนาด 649 ซีซี. 16 วาล์ว ที่มีแรงม้าถึง 84 ตัว ที่ 11,000 รอบ/นาที ด้านแรงบิดอยู่ที่ 63 นิวตัน-เมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที ซึ่งแน่นอนว่าจากสเปคดังกล่าวนี้ ช่วงกลางไปจนถึงปลาย มันคงจะมีแรงฮึดที่น่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย บวกกับเสียงหวานๆ จากเครื่องยนต์ 4 สูบ จึงทำให้ชาวไบค์เกอร์ไม่ลังเลที่จะหามาไว้ในครอบครองกัน
สำหรับราคาของ Honda CB650F ก็ถือว่าไม่ได้สูงเกินไปนัก โดยมันมีราคาอยู่ที่ 285,000 บาท (ในรุ่นสีธรรมดา) ส่วนในรุ่นสีใหม่ถูกตั้งราคาเพิ่มขึ้นเพียง 3,000 บาท เป็น 288,000 บาท ซึ่งหากเรานำราคามาเทียบกับสมรรถนะของตัวเครื่องยนต์ และระบบการทำงานต่างๆ แล้วล่ะก็ ชาวไบค์เกอร์ทั้งหลายคงจะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอนครับ
Yamaha MT-07
มาต่อกันที่อีกหนึ่งคู่ปรับตลอดกาลจากค่ายส้อมเสียง ที่การ Battle ในสงครามนี้ ได้ส่ง Yamaha MT-07 มาประชัน ซึ่งถือเป็นโมเดลที่สืบทอด DNA มาจาก Naked Bike รุ่นพี่อย่าง MT-09 อยู่ในหลายๆ จุด แต่จุดเด่นที่สามารถสังเกตุได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ ตัวโคมไฟหน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมกับตัวไฟส่องสว่างที่เป็นแบบ 7 เหลี่ยม และสำหรับแฮนด์บาร์ ก็ถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่กำลังดี ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป ติดกับตัวแฮนด์บาร์ก็จะเป็นหน้าปัดเรือนไมล์ดีไซน์เรียบหรู มีกลิ่นอายความเป็น Sport Bike นิดๆ สำหรับมาตรวัดเป็นแบบดิจิตอล ที่มีบอกแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ระดับเชื้อเพลิงที่อยู่ในถัง ตัวเลขบอกเกียร์ รอบเครื่องยนต์ ตัวเลขบอกความเร็วขณะขับขี่ และอื่นๆ ที่จำเป็นอีกมากมาย และ Yamaha MT-07 สุดหล่อคันนี้ มาพร้อมกับไฟท้ายแบบ LED รูปทรงทันสมัย และที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ การออกแบบรูปทรงแฟริ่งทั้งหมด ที่จะมีการผสมผสานกันระหว่าง Naked Bike และความเป็นขาลุย หรือ Adventure เข้าไปอยู่นิดหน่อย ทำให้โดยรวมแล้ว ออกมาหน้าตาหล่อเหลาไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว
สำหรับช่วงล่างของ Yamaha MT-07 มาพร้อมระบบกันสั่นสะเทือน หรือโช๊คอัพด้านหน้าจาก KYB ขนาด 41 มม. ส่วนโช๊คอัพด้านหลังเป็นแบบเดี่ยวที่สามารถปรับได้ถึง 9 ระดับ ล้อหน้าและล้อหลังมาพร้อมขนาด 17 นิ้ว โดยยางหน้าใช้ขนาด 120/70ZR-17 และยางหลังขนาด 180/70ZR-17 ส่วนระบบเบรคหน้าใช้คาลิปเปอร์แบบ 4 ลูกสูบ มาพร้อมจานดิสก์ขนาด 282 มม. และคาลิปเปอร์หลังแบบ 1 ลูกสูบ ที่มาพร้อมกับจานดิสก์ขนาด 245 มม. พร้อมระบบเบรก ABS สำหรับรุ่นที่ขายในบ้านเรา
มาดูในส่วนของตัวเครื่องยนต์กันบ้าง Yamaha MT-07 มาพร้อมกับเครื่องยนต์สุดร้อนแรงจากสนามแข่งระดับโลกอย่าง Crossplane Crankshaft แต่สำหรับ MT-07 จะเป็นแบบ CP2 ที่มีจำนวน 2 สูบ กับเครื่องยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 689 ซีซี. DOHC 8 วาล์ว ใช้การระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด EFI พ่วงมาด้วยแรงม้าถึง 74 ตัว ที่ 9,000 รอบ/นาที และมีแรงบิด 68 นิวตัน-เมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ครัทช์มือแบบเปียก ซึ่งคาดว่าในเรื่องของความเร็วช่วงปลายของ Yamaha MT-07 คันนี้ ถึงจะไม่ไหลตามมือมากนัก แต่ในเรื่องของความมันส์และความคล่องตัวในการขับขี่ ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน
ด้านราคาค่าตัวของ Yamaha MT-07 อยู่ที่ 299,000 บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นราคาที่ไม่สูงจนเกินไปนัก เมื่อเรานำเทียบกับความสนุกจากการขับขี่ที่เราจะได้รับจากมัน บวกกับระบบเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทางค่ายส้อมเสียง Yamaha ได้พัฒนาให้มีความทันสมัยอยู่อย่างต่อเนื่อง
Kawasaki ER6N
อีกหนึ่งรุ่นที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอนสำหรับรถ Sport Naked Bike ในคลาส Middle Size ที่มีขนาดพิกัดไม่เกิน 700 ซีซี. นั่นก็คือ Kawasaki ER6N ที่เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่เปิดตลาดให้กับวงการ Naked Bike ในบ้านเราเลยทีเดียว โดยเจ้า ER6N มาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็น Naked Bike แบบเต็มตัว เห็นได้ชัดจากการเปลือยชุดแฟริ่งให้ดูปราดเปรียว มาพร้อมกับถังน้ำมันขนาดใหญ่ ชุดโคมไฟหน้าสไตล์ใหม่ เป็นแบบดูออลออกแบบมาได้อย่างสวยงาม ดุดัน รับกับไฟเลี้ยวด้านข้างแบบก้านยื่นออกมา แฮนร์บาร์ขนาดพอเหมาะที่ให้ท่วงท่าการขับขี่ที่คล่องตัว เบาะนั่งแบบ 2 ตอน แยกอิสระอย่างชัดเจน ปิดท้ายด้วยไฟท้าย LED ที่ออกแบบมาคล้ายกับรูปหัวใจ และบังโคลนท้ายแบบสั้น ส่วนในเรื่องของมิติตัวรถ Kawasaki ER6N คันนี้ มีความยาว 2,110 มม. ความกว้าง 770 มม. และความสูงอยู่ที่ 1,110 มม. โดยมีระยะฐานล้อ อยู่ที่ 1,410 มม.ความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 130 มม. ความสูงเบาะ 805 มม. ทั้งหมดทั้งมวลเจ้า Kawasaki ER6N มีน้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 206 กก. พร้อมความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 16 ลิตร เลยทีเดียว
สำหรับระบบช่วงล่างของ Kawasaki ER6N มาพร้อมกับโช๊คอัพคู่หน้าแบบเทเลสโคปิคขนาด 41 มม. โช๊คอัพหลังเป็นแบบเดี่ยวแนวนอนขนานกับตัวเฟรมรถ รองรับแรงกระเทือนต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งในเรื่องของการทรงตัวต่างๆ ก็หายห่วง เท่านั้นยังไม่พอทางค่ายยักษ์เขียวยังได้จัดความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ด้วยชุดดิสก์เบรกคู่หน้าขนาด 300 มม. พร้อมระบบ ABS และเบรคหลังเป็นแบบดิสก์เบรคเดี่ยวขนาด 220 มม. มาพร้อมระบบ ABS เช่นเดียวกัน ส่วนขนาดยางหน้ามาในไซส์ 120/70ZR17M/C (58W) และขนาดยางหลังมาในไซส์ 160/60ZR17M/C (69W) ซึ่งถึงว่าช่วยในการยึดเกาะท้องถนนได้เป็นอย่างดี
สำหรับเจ้า Kawasaki ER6N ใช้บล็อคเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 2 สูบ ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ ในเรื่องของความร้อนเครื่องยนต์จึงไม่ต้องห่วง ความจุของปริมาตรกระบอกสูบนั้นอยู่ที่ 649 ซีซี. และยังเติมเต็มความโหดด้วยระบบวาล์วแบบ DOHC 8 วาล์ว พร้อมโชว์ซึ่งพละกำลังแบบเหลือๆ สำหรับในเรื่องของอัตราส่วนการอัดจะอยู่ที่ 10.8 :1 มีกำลังอยู่ที่ 75 แรงม้า แรงบิด 64 นิวตัน-เมตร
สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า Kawasaki ER6N ถูกตั้งไว้ที่ 278,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าเอามากๆ เมื่อเทียบกับสมรรถนะที่ได้รับ ในสไตล์แบบ Sport Naked Bike แบบเต็มสูบ
Benelli TNT600
ปิดท้ายกันด้วยค่ายรถน้องใหม่จากประเทศอิตาลี กับค่าย Benelli ที่ส่งเจ้า TNT600 เข้าประชันในสงครามคราวนี้ด้วย โดยเจ้า Benelli TNT600 มาพร้อมกับดีไซน์ด้วยรูปทรงในแบบฉบับของเน็กเก็ตไบค์แบบดั้งเดิม ซึ่งมีแฟริ่งเฉพาะด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นแบบเปลือยโชว์ มาพร้อมเฟรมรถแบบโครงถัก ที่ให้อารมณ์ดิบตามแบบฉบับของรถในรูปทรง Sport Naked Bike ด้านไฟหน้าถือว่าออกแบบมาได้อย่างสวยสดงดงาม ด้วยโคมไฟขนาดกลาง ที่มีดีไซน์แบบดุดัน ทางด้านการจัดวางรายละเอียดบนหน้าปัดทาง Benelli ได้ผสมผสานระหว่างความเป็นสปอร์ต และความคลาสสิคให้มารวมกันอยู่ที่เรือนไมล์อันนี้ ซึ่งมันก็จะสามารถตรวจวัดได้อย่างครอบคลุม ทั้งมาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ ตัวบอกความเร็ว พร้อมตัวบอกระยะทาง ตัววัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง เรียกได้ว่าครบครันเลยจริงๆ
สำหรับระบบช่วงล่างของ Benelli TNT600 มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิคหัวกลับ และโช้คอัพด้านหลังแบบโช๊คอัพเดี่ยวพร้อมคอยล์สปริง ที่สามารถปรับตั้งค่าได้ทั้งความแข็งและอ่อนของตัวสปริงเอง ตัวโช้คอัพหลังจะทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม และถูกจับยึดให้เยื้องจากศูนย์กลางของตัวรถขยับมาอยู่ในตำแหน่งด้านขวาของตัวรถ ส่วนระบบเบรคที่ให้มาพร้อมกับความมั่นใจกับจานเบรกคู่หน้าขนาด 320 มม. คาลิเปอร์เบรค 4 ลูกสูบ แบบ Monoblock สีสันสวยงาม ส่วนด้านหลังใช้จานเบรคเดี่ยวขนาด 240 มม. คาลิเปอร์เบรค 1 ลูกสูบ
มาดูในส่วนของเครื่องยนต์กันบ้าง สำหรับเจ้า Benelli TNT600 ใช้เครื่องยนต์พิกัด 600 ซีซี. 4 วาล์ว/สูบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ 6 สปีด ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ออกทริปไกลๆ นั่นเอง ส่วนด้านแรงม้าของเจ้า Benelli TNT600 มีมากถึง 82 ตัว ที่ 11,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 55 นิวตัน-เมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที เท่านั้นยังไม่พอ เพราะระบบสั่งจ่ายน้ำมันของเจ้านี่ ใช้เป็นแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิค EFI อีกด้วย
ด้านราคาของเจ้า Benelli TNT600 อยู่ที่ 289,000 บาท โดยจะมีให้เลือกสองเฉดสี คือ สีขาว กับ สีดำ กับการออกแบบในสไตล์อิตาลี ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับชาวไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะท่อไอเสียคู่ที่ยกสูงของ Benelli TNT600 ลำนี้
เปรียบเทียบกับชอตต่อชอต
เจาะลึกให้เห็นทุกซอกทุกมุม
รายละเอียดพื้นฐาน Honda CB650F, Yamaha MT-07, Kawasaki ER6N, Benelli TNT600
รายละเอียดพื้นฐาน | Honda CB650F | Yamaha MT-07 | Kawasaki ER6N | Benelli TNT600 |
เครื่องยนต์ | 4 สูบเรียง | 2 สูบ CP2 | 4 จังหวะ 2 สูบ | 4 สูบเรียง |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 649 cc. | 689 cc. | 649 cc. | 600 cc. |
ระบบวาล์ว | DOHC 16 วาล์ว | DOHC 8 วาล์ว | DOHC 8 วาล์ว | DOHC 16 วาล์ว |
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 67 x 46 mm. | 80.0 x 68.2 mm. | - | 65 × 45.2 mm. |
แรงม้า | 86 แรงม้าที่ 8,000 รอบ/นาที | 74 แรงม้าที่ 9,000 รอบ/นาที | 75 แรงม้า | 82 แรงม้าที่ 11,000 รอบ/นาที |
แรงบิด | 63 นิวตัน-เมตรที่ 8,000 รอบ/นาที | 68 นิวตัน-เมตรที่ 6,500 รอบ/นาที | 64 นิวตัน-เมตร | 55 นิวตัน-เมตรที่ 8,000 รอบ/นาที |
อัตราส่วนการอัด | 11.4 : 1 | 12.0 : 1 | 10.8 :1 | 12.0 : 1 |
ระบบเกียร์ | เกียร์ธรรมดา 6 สปีด | เกียร์ธรรมดา 6 สปีด | เกียร์ธรรมดา 6 สปีด | เกียร์ธรรมดา 6 สปีด |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีด PGM-FI | หัวฉีดอิเล็กทรอนิค EFI | - | หัวฉีดอิเล็กทรอนิค EFI |
ระบบสตาร์ท | สตาร์ทมือ | สตาร์ทมือ | สตาร์ทมือ | สตาร์ทมือ |
ระบบครัทช์ |
คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate |
คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate | คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate | คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate |
ขนาดยางหน้า | - | 120/70ZR-17 | 120/70ZR17M/C (58W) | - |
ขนาดยางหลัง | - | 180/70ZR-17 | 160/60ZR17M/C (69W) | - |
โช๊คอัพหน้า | โช๊คอัพเทเลสโคปิค | โช๊คเทเลสโคปิค KYB | เทเลสโคปิคขนาด 41 มม. | โช๊คเทเลสโคปิคหัวกลับ |
โช๊คอัพหลัง | Monoamm Preload | แบบเดี่ยว ปรับได้ 9 ระดับ(ติดกับสวิงอาร์ม) | โช๊คอัพหลังเดี่ยวแนวนอน | คอยล์สปริง ปรับระดับได้ (ติดกับสวิงอาร์ม) |
เบรกหน้า | ดิสก์เบรคคู่ ABS | ดิสก์เบรคคู่ ABS | ดิสก์เบรกคู่ 300 มม. ABS | ดิสก์เบรคคู่ 320 มม. |
เบรกหลัง | ดิสก์เบรค ABS | ดิสก์เบรค ABS | ดิสก์เบรค220 มม. ABS | ดิสก์เบรค 240 มม. |
ยาวxกว้างxสูง | 2,110 x 775 x 1,120 มม. | 2,055 x 745 x 1,090 มม. | 2,110 x 770 x 1,110 มม. | 2155 x 765 x 1100 มม. |
ความสูงเบาะ | 810 มม. | 805 มม. | 805 มม. | 800 มม. |
น้ำหนักรถ | 211 กก. | 182 กก. | 206 กก. | 190 กก. |
ความจุถังน้ำมัน | 17.3 ลิตร | 14 ลิตร | 16 ลิตร | 18 ลิตร |
ราคา | 285,000, 288,000 บาท | 299,000 บาท | 278,000 บาท | 289,000 บาท |
Comment
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับข้อมูลของรถมอเตอร์ไซค์ BigBike ในสไตล์ Sport Naked Bike ในคลาส Middle Size ที่มีขนาดพิกัดไม่เกิน 700 ซีซี. ที่เรานำมาเปรียบเทียบกันในวันนี้ ซึ่งเจ้าสปอร์ตเนกเก็ตไบค์จากทั้ง 4 ค่าย ต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยหากจะพูดถึงเรื่องความคุ้มค่าที่ได้รับ ดูเหมือนว่า Honda CB650F จะได้เปรียบในด้านนี้อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นรถ Sport Naked Bike ในแบบ 4 สูบ ที่มีราคาค่าตัวที่สามารถจับต้องได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ส่วนใครที่ต้องการความเป็น Sport Naked Bike ที่ขับขี่สนุก จัดจ้าน คล่องตัว ผสานกับจำนวนซีซี. ที่ได้เปรียบกว่าใครเพื่อน แถมยังเป็นรถที่ถูกผลิตและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น คงต้องยกให้เป็นหน้าที่ของ Yamaha MT-07 ในการตอบโจทย์ครั้งนี้
Battle ครั้งนี้ ใครจะอยู่ ใครจะไป คุณเท่านั้นที่จะตัดสิน
แต่หากใครที่ชื่นชอบรถ Sport Naked Bike ที่มีความแข็งแกร่ง บึกบึน ผสานกับสมรรถนะที่อยู่ในระดับกลางๆ ไม่หวือหวามากนัก อีกทั้งราคาค่าตัวยังโดนใจที่สุดในคลาสนี้ คงต้องยกให้เป็น Kawasaki EN6N ผู้ทำหน้าที่ตอบสนองกับความต้องการครั้งนี้ ส่วนใครที่ชื่นชอบรถ Sport Naked Bike ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์ในสไตล์อิตาลี ก็คงจะปฏิเสธ Benelli TNT600 ไม่ได้อย่างแน่นอน โดยทั้งหมดทั้งมวลที่กลั่นออกมา ต่างก็มีจุดเด่น และข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบ และสไตล์การขับขี่ของแต่ละท่าน แต่สำหรับการ Battle กันในครั้งนี้ ผมมองว่า Yamaha MT-07 ค่อนข้างที่จะเด่นชัดกว่าใครเพื่อน ทั้งในเรื่องดีไซน์ที่ฉีกกรอบ การประกอบที่เรียบร้อยและเฉียบคม สมรรถนะเครื่องยนต์แบบ CP2 ที่มีความจุ 689 ซีซี. ที่ให้การขับขี่ที่สนุกเร้าใจตามแบบฉบับรถในสไตล์ Sport Naked Bike ที่ตอบโจทย์ในครั้งนี้ได้อย่างแท้จริง
สำหรับครั้งหน้า BoxzaRacing ของเราจะนำรถมอเตอร์ไซค์คันไหนมาทำการ Battle ให้เพื่อนๆ ชาวสองล้อได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันให้ดีเลยนะครับ เพราะไม่แน่ว่าในครั้งหน้านั้น เราอาจจะนำรถที่เพื่อนๆ กำลังมองหาอยู่มาทำการเปรียบเทียบก็เป็นได้...สำหรับวันนี้ผมคงต้องลาไปก่อน พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ