BMW R Nine T vs Triumph Thruxton R ศึกแห่งศักดิ์ศรี Café Racer สัญชาติยุโรป
หลังจากที่เราได้ทำการ Battle รถมอเตอร์ไซค์ BigBike กันไปหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Sport Bike หรือ Naked Bike วันนี้ทางทีมงาน BoxzaRacing ขอเปลี่ยนอารมณ์พาเหล่าไบค์เกอร์ทั้งหลาย มาพบกับการปะทะกันในสไตล์ Café Racer ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า มันได้เข้ามามีบทบาทอยู่ในแวดวงชาวสองล้อบ้านเรามาพักหนึ่งแล้ว และมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่คงความคลาสสิคอันเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ที่ครอบครอง รวมไปถึงสมรรถนะต่างๆ ของมันที่มีความล้ำหน้าไม่แพ้รถ Sport Bike หรือ Naked Bike เลยแม้แต่น้อย
สำหรับการเปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ หรือ Battle จาก BoxzaRacing ของเราในวันนี้ เป็นการโคจรมาพบกันของรถในสไตล์ Café Racer แบบ Modern Classic สัญชาติผู้ดี ในพิกัด 1,200 ซีซี ระหว่าง BMW R nine T รถมอเตอร์ไซค์ Modern Classic จากค่ายใบพัดสีฟ้า ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย Battle กับ Triumph Thruxton R รถมอเตอร์ไซค์ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานของ Café Racer แห่งประเทศอังกฤษ ที่มีจุดเด่นในเรื่องการออกแบบที่เรียบง่ายอันเป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าเป็นรถคลาสสิคตัวจริงเลยก็ว่าได้ แต่ก็ได้รับการอัพเกรดสมรรถนะด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยไม่แพ้กัน งานนี้ใครจะมีดีในด้านไหนกันบ้าง ไปชมกันเลยครับ
เรามาเริ่มกันที่ค่ายใบพัดสีฟ้าจากประเทศเยอรมนีกันก่อนเลย กับ BMW R nine T (บีเอ็มดับเบิ้ลยู อาร์ ไนน์ ที) ที่ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic Bike แบบเต็มตัว แต่ก็แฝงไปด้วยความเป็น Café Racer ไว้เช่นเดียวกัน โดยสิ่งที่เห็นชัดและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถสไตล์นี้ก็คือ ไฟหน้าทรงกลมที่สุดแสนจะคลาสสิค ผสมผสานความทันสมัยด้วยแฮนด์บาร์ที่ได้รับการออกแบบมาให้ไบค์เกอร์มีท่วงท่าในการขับขี่ที่สบายมากยิ่งขึ้น ส่วนด้านท้ายออกแบบมาในทรงตูดมด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของรถในสไตล์ Café Racer
หน้าปัดเรือนไมล์ของ BMW R nine T ก็ได้รับการออกแบบผสมผสานระหว่างความ Modern และ Classic ไว้ด้วยกัน โดยแสดงข้อมูลทั้งแบบดิจิตอลและอนาล็อกในเวลาเดียวกัน ด้านมิติของตัวรถ BMW R nine T มีความยาวอยู่ที่ 2,220 มม. กว้าง 890 มม. และสูง 1,265 มม. และในส่วนของความสูงเบาะนั้น ก็มีระดับที่ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป อยู่ที่ระดับ 780 มม. ระยะห่างระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง 1,476 มม. น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 222 กก. ซึ่งก็เรียกได้ว่ามันค่อนข้างใหญ่โตอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่หากเราพิจารณาถึงสไตล์ของรถมอเตอร์ไซค์ในประเภทนี้ ก็จะเห็นได้ว่ามันยังอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ที่ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป
ส่วนทางด้านช่วงล่างของ BMW R Nine T สุดหล่อคันนี้ มาพร้อมกับโช๊คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิกกลับหัว หรือ Upside Down ทางด้านโช๊คอัพหลังเป็นแบบ Single Side Swing Arm ซึ่งเป็นการผลิตขึ้นโดย BMW Motorrad ทั้งยังสามารถปรับ Preload ได้อีกด้วย ส่วนระบบเบรคของ BMW R nine T มาพร้อมกับระบบ ABS โดยล้อหน้าเป็นจานดิสก์คู่ขนาด 320 มม. ปั๊มเบรค 4 POT ด้านเบรคหลังใช้เป็นดิสก์เบรคเดี่ยวขนาด 265 มม. ปั๊มเบรคแบบ 2 POT มาพร้อมกับล้อซี่ลวดสีดำสไตล์คลาสสิค ขนาดยางด้านหน้าอยู่ที่ 120/70 ZR17 และล้อหลังใช้ยางขนาด 180/55 ZR17
สำหรับขุมพลังของเจ้า BMW R nine T มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1,170 ซีซี. 2 สูบ 4 จังหวะ ทางด้านขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 101 x 73 มม. ใช้การระบายความร้อน 2 แบบ คือ ระบายความร้อนด้วยอากาศ และน้ำมันแบบ Flat Twin หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเครื่อง Boxer ใช้การจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด ด้านพละกำลังของ BMW R nine T คันนี้ พกแรงม้าติดตัวมาถึง 110 ตัว ที่ 7,550 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิด 119 นิวตัน-เมตรที่ 6,000 รอบ/นาที และอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 12.0:1 ขับเคลื่อนผ่านระบบเกียร์ 6 สปีดแบบใช้เพลา ส่วนทางด้านคลัทช์ของเจ้า R9T คันนี้ เป็นแบบแห้ง ซึ่งถือว่าทาง BMW ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ความคลาสสิคเอาไว้ แม้จะมีการแต่งแต้มเอาเทคโนโลยีต่างๆ ใส่เข้าไปมากมาย
สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า BMW R nine T ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน เพราะได้ขึ้นไปเหยียบ 7 หลัก แต่หากใครที่ชื่นชอบรถในสไตล์ Café Racer แบบ Modern Classic ที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ภายใต้สัญลักษณ์แบรนด์ BMW ก็ถือว่าสามารถตอบโจทย์ของคุณได้อย่างแน่นอน โดยราคาของ BMW R nine T ถูกตั้งไว้ที่ 1,090,000 บาท
เรามาต่อกันที่รถ Café Racer สัญชาติอังกฤษกันบ้าง กับ Triumph Thruxton R ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคู่ต่อกรที่สูสีที่สุดในคลาสนี้ โดยเจ้า Triumph Thruxton R ถูกออกแบบมาในสไตล์ Café Racer โดยเฉพาะ เพื่อสานต่อตำนานของค่ายผู้ดี Triumph โดยมาพร้อมดีไซน์อันงดงามแบบดั่งเดิม ผสมผสานกับสไตล์ที่โฉบเฉี่ยวพร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงอย่างครบครัน ทั้งถังน้ำมันเชื้อเพลิงทรงเพรียวแกะสลักลาย และฝาปิดถังน้ำมัน Monza ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไฟหน้า DRL แบบทรงกลมในสไตล์ Café Racer ด้านท้ายทรงตูดมดมาพร้อมกับไฟท้ายแบบ LED ในทรงคลาสสิค
Triumph Thruxton R มาพร้อมกับเรือนไมล์ทรงนาฬิกาที่ดูดีมีสไตล์ ซึ่งมีหน้าปัดแบบ 3D พร้อมระบบเมนูดิจิตอลอัจฉริยะ ซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยปุ่มเลื่อนที่ติดตั้งไว้บนแฮนด์ แฮนด์แบบจับยึดที่กระบอกโช๊คอัพ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถในสไตล์ Café Racer มาพร้อมกับระบบคันเร่งไฟฟ้า และสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้งแบบ Rain (ถนนเปียก หรือฝนตก) เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้น และแบบ Sport ซึ่งจะเชื่อมโยงกับคันเร่งไฟฟ้าเพื่อสร้างความเร้าใจได้แบบเต็มพิกัด โดยจะมีระบบ Slipper Clutch มาเป็นตัวช่วยลดแรงกระชากขณะเปลี่ยนเกียร์อีกด้วย
สำหรับระบบช่วงล่างของ Triumph Thruxton R มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมกันทรงตัว Traction Control ที่สามารถเปิด-ปิดได้ จานเบรกคู่หน้าแบบ Semi Floating พร้อมปั๊มเบรกบน-ล่างของ Brembo ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside Down แบบปรับค่าได้ของ Showa และโช๊คอัพหลังแบบปรับค่าได้เช่นกันของ Öhlins
สำหรับขุมพลังของ Triumph Thruxton R มาพร้อมกับเครื่องยนต์ในพิกัด 1.2 ลิตร แบบ 2 สูบเรียง 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด ใช้ข้อเหวี่ยงที่เบาลง และแอร์บ็อกซ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Triumph Thruxton R รวมไปถึงการตอบสนองของเรือนปีกผีเสื้อคู่ที่เฉียบคมและเร็วทันใจ จากระบบหัวฉีดคันเร่งไฟฟ้า โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 110 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที
สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า Triumph Thruxton R ถือว่าเร้าใจชาวไบค์เกอร์สาย Café Racer เป็นอย่างมาก โดยมาพร้อมค่าตัวเพียง 600,000 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าแบบปฏิเสธไม่ลงเลยทีเดียว สำหรับรถ Café Racer แบบ Modern Classic ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขนาดนี้
BMW R nine T |
สเปครายละเอียดพื้นฐาน | Triumph Thruxton R |
4 จังหวะ 2 สูบ | เครื่องยนต์ | 4 จังหวะ 2 สูบ |
1,170 ซีซี. | ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,200 ซีซี. |
DOHC 4 วาล์ว/สูบ | ระบบวาล์ว | DOHC 8 วาล์ว |
101 x 73 มม. | ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | - |
110 ตัว ที่ 7,550 รอบต่อนาที | แรงม้า | - |
119 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ/นาที | แรงบิด | 110 นิวตัน-เมตรที่ 3,500 รอบ/นาที |
12.0:1 | อัตราส่วนการอัด | - |
หัวฉีด | ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ |
สตาร์ทไฟฟ้า | ระบบสตาร์ท | สตาร์ทไฟฟ้า |
คลัทช์แบบแห้ง |
ระบบคลัทช์ |
- |
120/70 ZR-17 | ขนาดยางหน้า | - |
180/55 ZR-17 | ขนาดยางหลัง | - |
แบบเทเลสโคปิค USD | โช๊คอัพหน้า | โช๊คอัพ Showa แบบ Upside Down |
โช๊คอัพเดี่ยวแบบสวิงอาร์ม BMW | โช๊คอัพหลัง | โช้คอัพคู่ Öhlins |
ดิสก์คู่ 320 มม. พร้อมระบบ ABS |
เบรคหน้า | ดิสก์คู่แบบ Semi Floating พร้อมปั๊มเบรกบน-ล่างของ Brembo |
ดิสก์เบรคเดี่ยว 265 มม. พร้อมระบบ ABS |
เบรคหลัง | - |
2,220 มม. x 890 มม. x 1,265 มม. | ยาว x กว้าง x สูง | - |
222 กก. | น้ำหนักรถ | - |
18 ลิตร | ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | - |
1,090,000 บาท | ราคาจำหน่าย | 600,000 บาท |
ตารางเปรียบเทียบ
Comment
เป็นอย่างไรกันบ้างครับเพื่อนๆ ชาวไบค์เกอร์ที่มีใจรักในมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สไตล์ Café Racer ในแบบ Modern Classic กับการ Battle กันของ BMW R nine T และ Triumph Thruxton R ที่เรานำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ ซึ่งสำหรับใครที่ชื่นชอบความเท่แบบมีระดับ พร้อมสมรรถนะอันเหลือล้น และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าสุดๆ แล้วล่ะก็ BMW R nine T เป็นต่อในเรื่องนี้อยู่พอสมควร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าตัวที่มากกว่าอยู่ 490,000 บาท แต่หากใครที่มองหาความคุ้มค่า และความเป็น Café Racer ขนานแท้ คงต้องบอกว่า Triumph Thruxton R สามารถตอบโจทย์ได้อย่างสบายกระเป๋ากว่า โดยภาพรวมแล้วถือว่า Triumph Thruxton R ดูท่าจะทำตลาดได้ดีกว่า BMW R nine T อยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีต่างๆ อาจจะเป็นรองอยู่บ้าง แต่อย่างที่บอกครับว่า Triumph Thruxton R เปิดราคามาแบบนี้ นักบิดตัวจริง ปฏิเสธไม่ลงแน่นอน
สำหรับในครั้งหน้า เราจะมาทำการเปรียบเทียบ หรือ Battle รถมอเตอร์ไซค์ BigBike จากค่ายไหน แบรนด์ใดให้เพื่อนๆ ชาวสองล้อได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันให้ดีเลยนะครับ และในวันนี้เราคงต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าใน BoxzaRacing ที่นี่...ที่เดียว สวัสดีครับ