A.P. Honda เดินหน้ากลยุทธ์ 3 ประสบการณ์ โดนใจคนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัว MSX125SF
เอ.พี. ฮอนด้า (A.P. Honda) ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทยเป็นปีที่ 27 ติดต่อกันด้วยยอดจำหน่าย 1.35 ล้านคัน จากตลาดรวมทั้งสิ้น 1.68 ล้านคัน และในปีนี้ทางบริษัทได้วางกลยุทธ์พลิกวงการรถจักรยานยนต์ในไทยสู่ยุคใหม่ให้กับผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การขับขี่ที่ครบครัน ด้วยการนำเสนอโมเดลใหม่ทั้ง 10 รุ่น ภายใน 2 ปี พร้อมวางเป้าหมายในปี 2016 ไว้ที่ 1.35 ล้านคันจากตลาดรวม 1.7 ล้านคัน ประเดิมด้วยรุ่นแรก Honda MSX125SF
มร.โนบุฮิเดะ นางาดะ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ได้เผยว่า...แม้ในปี 2015 ที่ผ่านมา ตลาดรถจักรยานยนต์ของไทยกำลังอยู่ในสภาวะทรงตัว โดยมียอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 1.68 ล้านคัน ซึ่งปรับตัวลดลงไป 1% จากปีก่อนหน้านี้ โดยสาเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนักเพราะอัตราถือครองรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยค่อนข้างสูงอยู่แล้ว และในทางเศรษฐกิจยังไม่มีปัจจัยบวกที่ก่อให้เกิดการซื้อขายมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ตลาดรถบิ๊กไบค์ในไทยมีอัตราเติบโตด้วยยอดจำหน่ายรวม 19,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 20% เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา โดยฮอนด้าสามารถทำยอดจำหน่ายโดยประมาณอยู่ที่ 6,900 คัน หรือเติบโตขึ้นราวๆ 26%
"การเติบโตไม่ได้มีเพียงแค่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในรถราคาสูงประเภทอื่นๆ และรถ Hobby ที่มีคุณค่าทางจิตใจและอารมณ์ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้ซื้อรถเพียงเพื่อใช้เดินทางเท่านั้น แต่ต้องการรถที่ให้ความสนุกในการขับขี่ เพื่อแสดงความเป็นตัวตนทางสังคม กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในที่สุด แม้ฮอนด้าจะเป็นผู้นำตลาดก็มิอาจหยุดยั้งการพัฒนา ดังนั้นจึงต้องก้าวนำเปลี่ยนแปลงเพื่อพลิกโฉมวงการรถจักรยานยนต์ไทยสู่ยุคอนาคต ด้วย 3 ประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
"ประสบการณ์แรกที่เราจะนำเสนอคือผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าใหม่ (New Valued Products) และผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น (Valued-Added Products) เพื่อส่งมอบความรู้สึกที่อยู่เหนือความคาดหวังของลูกค้าถึง 10 รุ่น ภายใน 2 ปี โดยในจำนวนนี้จะมี 5 รุ่น ที่เป็นโมเดลใหม่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย หรือที่เรียกว่า Brand New และอีก 5 รุ่น เป็นแบบปรับโฉมทั้งคันหรือ All-New"
"ประสบการณ์ที่สอง คือ การพัฒนาเครือข่ายเพื่อส่งเสริมไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่าง เริ่มจากการขยายสาขา Honda Bigwing เพิ่มอีก 8 แห่ง รวม 21 แห่ง ครอบคลุมทุกหัวเมืองสำคัญทั่วประเทศภายในปีนี้เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ที่กำลังเติบโตขึ้น นอกจากนั้น เราจะพัฒนาเครือข่ายร้านคอนเซ็ปต์ยุคใหม่ที่เรียกว่า New Valued Network ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ผู้ใช้รถที่มีความเป็นตัวของตัวเองและต้องการความแตกต่างโดยฮอนด้าจะเริ่มโครงการนี้ในปี 2017"
"ประสบการณ์ที่สาม คือ การนำเสนอความสนุกสนานใหม่ๆ ในการขับขี่ที่หลากหลายผ่านศูนย์ Active Riding Center ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อยอดจากศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยสู่การเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมการขับขี่ยุคใหม่ที่มีทั้งการขับขี่เพื่อท่องเที่ยว, การขับขี่แบบสปอร์ตเพื่อท้าทายสมรรถนะของรถและความสามารถของผู้ขับขี่ หรือขับขี่แบบออฟโรด นอกจากนี้ที่แห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางในการเติมเต็มความต้องการทางอารมณ์ของผู้ขับขี่ที่ชอบแต่งรถอีกด้วย ด้วยการนำเสนอสถานที่รวบรวมอุปกรณ์แต่งรถและคอเลคชั่นจากฮอนด้าอย่างสมบูรณ์แบบ โดยศูนย์ Active Riding Center จะเปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่พฤษภาคม นี้เป็นต้นไป ที่จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต
พร้อมกันนี้ เอ.พี. ฮอนด้า ยังได้ประเดิมเปิดตัวรถประเภทมูลค่าเพิ่ม (Valued-Added Products) เป็นครั้งแรกของปีด้วย Honda MSX125SF ที่ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ "Endorphine Clutcher" ให้สปอร์ตมินิไบค์ที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย ให้อารมณ์ที่ดุดัน มีความคล่องตัวในการใช้งาน เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาสิ่งที่เหนือกว่าสำหรับการขับขี่ในเมือง
Honda MSX125SF ล้ำสมัยด้วย Sporty Dynamic Design ถ่ายทอดอารมณ์จากรถบิ๊กไบค์แนวเนคเก็ต มาพร้อมกับไฟหน้า LED พร้อมไฟสูงแยกดวง และไฟบอกตำแหน่งสีฟ้าใน LED Line, แผงหน้าปัดแบบ Full Digital สีฟ้า, ท่อไอเสียสไตล์รถบิ๊กไบค์, ฝาถังน้ำมันแบบติดกับตัวถัง, กุญแจแบบพับได้เพื่อความสะดวกสบายในการเก็บและใช้งาน และโช๊คอัพหน้าแบบหัวกลับ
ในด้านระบบขับเคลื่อน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะขนาด 125 ซีซี. ระบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยอากาศ พร้อมสวิตซ์สำหรับเปิด-ปิดเครื่องยนต์เพื่อความปลอดภัย, ดิสก์เบรคหน้า-หลังพร้อมคาลิปเปอร์สีแดงเข้ากับชุดล็อแม็กสีดำและยางหน้ากว้างพิเศษ
เอ.พี. ฮอนด้า (A.P. Honda) พร้อมวางจำหน่าย Honda MSX125SF ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ด้วยราคาแนะนำที่ 70,500 บาท โดยมีให้เลือกทั้ง 4 สี ได้แก่สีแดงเบิร์นนิ่งเรด, สีเหลืองไฮเปอร์เยลโล่, สีขาวบูสเตอร์ไวท์ และสีดำอีคลิปส์แบล็ค
