Harley-Davidson DRT 2024 กิจกรรมขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สุดมันส์ประจำปี 2024 ที่ทาง Boxzaracing มีโอกาสได้ไปร่วมสนุกในปีนี้ ซึ่งคำว่า DRT ย่อมาจากคำว่า Dirt. Road. Track. Experience และในปีนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเดินทางมาจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไต้หวัน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง และอินเดีย
ปีนี้ Harley-Davidson Asia เลือกใช้สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดชลบุรี ้เป็นที่จัดกิจกรรมในครั้งนี้ ดังนั้นการขับขี่ Track ก็จะเป็นอะไรไม่ได้เลย นอกจากการได้ขี่ในสนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตนั้นเอง โดยส่วน Dirt และ Road ก็จะใช้สถานที่ใกล้กับสนามนั้นเอง แต่ยืนยันว่าสนุกทุกรูปแบบ
Track
เริ่มกันที่ Track จะเน้นเป็น Road Glide และ Street Glide พร้อมทั้งมีรุ่น Sportster S ที่ทุกคนจะได้ขับก่อนหนึ่งรอบสนาม ก่อนที่จะเลือกว่าจะขับ Road Glide หรือ Street Glide โดยไฮไลท์จริงๆ ของการขับขี่ใน Track จะเป็นรุ่น CVO Road Glide ST ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 3 ล้านบาท ทาง Harley-Davidson ก็ได้เอามาให้ทดลองขับขี่ในครั้งนี้เช่นกัน
Sportster S
สำหรับ Road Glide เป็นคันที่ผมได้ขับเยอะสุดใน Track ซึ่งมันเป็นรถที่ขับง่ายมากๆ แม้รูปร่างรูปทรงจะมีความใหญ่ ความน่าเกรงขาม เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ขนาด 1,900 ซีซี. ที่ให้ฟิวลิ่งแบบนุ่มนวลแบบสุดๆ เรียกว่ามีความเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก รถไม่ได้ดุดันหรือน่ากลัวเหมือนกับภาพลักษณ์ที่เราคุ้นชินกัน
Road Glide
ท่านั่งการขับขี่ที่สบาย ด้วยแฮนด์บาร์ยกสูงเข้าหาตัวผู้ขับขี่ โม่งหน้าขนาดใหญ่ที่ช่วยตัดลมเวลาขับขี่ ตัวรถมีน้ำหนัก 380 กิโลกรัม แต่เมื่อขับขี่จะรู้สึกว่าควบคุมง่าย สามารถโยนรถไปมาได้แบบสบายๆ โดยเฉพาะโค้งตัว S ที่สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต มันไม่ได้สร้างปัญหาใดๆ ต่อการขับขี่แม้แต่น้อย
Road
สำหรับการขับขี่แบบ Road ของ Harley-Davidson DRT 2024 เรียกว่าครบทุกรสชาติ เพราะขี่ลุยพายุฝนแบบหนักๆ ท้าทายประสิทธิภาพ ความสามารถของรถกันไปเลย โดยระยะทางการขับขี่จะประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งคันที่ผมได้ทดลองขับขี่จะเป็น Low Rider ST
Low Rider ST
ทาง Harley-Davidson ได้นิยามถึงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ไว้เป็นมอเตอร์ไซค์สปอร์ตทัวร์ริ่ง ตัวแชสซีตามแบบฉบับ Softail กับเครื่องยนต์ Milwaukee Eight 117 ที่ยิ่งขับยิ่งสนุกยิ่งมัน รถยังมีความดิบ ความมันส์ให้ได้สัมผัสอยู่พอสมควร
เสียงเครื่องยนต์ เสียงท่อไอเสีย เป็นอะไรที่ประทับใจมาก เช่นเดียวกับแรงบิดที่มีให้ใช้มหาศาล ใช้คำว่าบิดเป็นมากได้เลย ตัวรถดูจะมีความดิบอยู่เล็กน้อย ไม่มีโหมดการขับขี่อะไรให้ใช้งาน ระบบช่วยเหลือการขับขี่ก็มี ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และรุ่นใหม่ปี 2024 ก็เพิ่มระบบ Traction Control เข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว ในส่วนเทคโนโลยีอื่นๆ สามารถใส่เพิ่มเติมได้ แต่ไงผมขอยืนยันว่า Low Rider ST เป็นรถที่ขับสนุก ขับเพลินขับมันมากๆ ครับ
Dirt
สถานีสุดท้ายในกิจกรรมครั้งนี้ก็คือ Dirt ซึ่ง Harley-Davidson มาลุยในเส้นทางที่เป็นดินลูกรัง ผสมกับทรายรวนๆ เรียกว่าท้าทายทั้งรถ และผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก ซึ่งรถที่ใช้ขับจะเป็นรุ่นไหนไม่ได้นอกจาก Pan America 1250 รุ่นใหม่ล่าสุด
Pan America 1250
เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่แบบจัดเต็ม เรียกว่าถ้าขับขี่ทางดำปกติทั่วไป ประสิทธิภาพความสามารถไม่เป็นสองรองใครในท้องตลาด ประกอบกับระบบกันสะเทือนเป็นไฟฟ้า ซึ่งเวลาจอดหยุดนิ่ง ตัวโช้คอัพจะลดระดับความสูงของเบาะนั่งลงได้เมื่อหยุดรถ
เรื่องกำลังเครื่องยนต์มีให้ใช้แบบเหลือ เช่นเดียวกับโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกใช้ถึง 6 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Sport, Road, Rain, Off-Road หรือ Off-Road Plus ตลอดจนคุณสามารถคัสตอมได้ด้วยตัวเอง
เวลาลุยในเส้นทางฝุ่น เส้นทางที่ท้าทาย ท่าทางการยืนของรถออกแบบมาได้อย่างลงตัว คุณจะยังรู้สึกว่าควบคุมรถมอเตอร์ไซค์ให้ผ่านเส้นทางอุปสรรคต่างๆ ได้
สิ่งที่ท้าทายคนขับขี่จริงๆ จะเป็นเรื่องน้ำหนักของรถที่ 258 กิโลกรัม (ไม่รวมของเหลว) ถ้าใครเอาไปลุยเส้นทางแบบ Enduro ที่โหดในระดับหนึ่ง อาจจะเหนื่อยเป็นพิเศษในเรื่องน้ำหนักเพียงเท่านั้น พวกเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ระบบกันสะเทือน เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ของ Pan America 1250 ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ Harley-Davidson Asia ที่ชวน Boxzaracing ไปร่วมกิจกรรมสนุกๆ แบบนี้ ซึ่งกิจกรรมนี้ไม่ได้มีเพียงแค่สื่อเท่านั้นที่ได้ร่วมสนุก เพราะลูกค้าของ Harley-Davidson ก็มีการได้รับจดหมายเชิญมาร่วมกิจกรรมนี้ด้วย ทั้งนี้หากใครได้รับคำเชิญ ก็อย่าลังเลว่าจะไปไม่ไป โอกาสที่คุณจะได้ลองขับ Harley-Davidson หลายๆ รุ่นในวันเดียวกัน ในเส้นทางที่แตกต่างกันออกไป เรียกว่าเป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ