Motor Expo 2019 หรือมหกรรมณ์ยานยนต์ครั้งที่ 36 หนึ่งในงานสุดร้อนแรงส่งท้ายปี 2019 ที่มีการเปิดตัวเปิดราคารถมอเตอร์ไซค์จากค่ายยักษ์ใหญ่ชั้นนำในหลายๆ รุ่น ที่ต่อยอดจากงานโชว์รถมอเตอร์ไซค์สุดยิ่งใหญ่ของโลกอย่าง EICMA Motorcycle Show 2019 นำรถใหม่ๆ มาให้แฟนๆ ไบค์เกอร์ได้ยลโฉมและสัมผัสกับตัวจริง และในครั้งนี้ BoxzaRacing จะมาจัดอันดับ 10 รถมอเตอร์ไซค์ตัวเด่น ในงาน Motor Expo 2019 จะมีรุ่นใดน่าสนใจบ้าง มาติดตามชมไปด้วยกันเลยครับ
1.Kawasaki Z H2
Naked Bike รุ่นใหญ่ ร่างจำแลงของ Exotic Superbike อย่าง Kawasaki Ninja H2 ที่ถ่ายทอด DNA สุดอหังการณ์ขุมพลัง Supercharge แยกร่างออกมาเป็น Naked Bike พันธุ์โหด ด้วยดีไซน์สุดบึกบึน และการเปิดตัวครั้งนี้ของ Kawasaki Z H2 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีมากมายจากทาง Kawasaki ที่อัดแน่นอยู่ภายใต้รูปลักษณ์อันทรงพลัง ภายใต้สเปคเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบ DOHC ความจุ 998 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมหมัดเด็ดด้วยการพ่วง Supercharge อัดอากาศอย่างเต็มสตรีมเพื่อความแรงแบบทะลุพิกัด ให้พละกำลังสูงสุดที่ 200 แรงม้า ภายใต้ค่าตัว 917,000 บาท
2.Suzuki Burgman 400
Suzuki Burgman 400 สกู๊ตเตอร์สุดหล่อน้องใหม่จากค่ายคนบ้า ที่มาพร้อมกับความหรูหรา พรีเมี่ยม และเป็นหนึ่งในสกู๊ตเตอร์ของ Suzuki ที่แฟนๆ ต่างอยากให้สร้างพิกัด 300-400 มาจำหน่าย ในราคาที่พอจับต้องได้พร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์และระบบการใช้งานพื้นฐานที่คุ้มค่าเกินราคา โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1 ลูกสูบ 400 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังสูงสุด 31 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 36 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที พร้อมระบบส่งกำลังแบบ CVT ที่ให้ความนิ่มนวมผนวกกับพละกำลังที่ให้แรงบิดที่ดีตั้งแต่รอบความเร็วต่ำ ที่พร้อมตอบโจทย์สำหรับการใช้งานให้กับการใช้งานในเมืองและการขับขี่เดินทาง สนนราคาอยู่ที่แนะนำที่ 199,000 บาท ก่อนจะขายราคาจริง 214,000 บาท
3.Honda Monkey Dragon Ball Limited Edition
Honda Monkey Dragon Ball Limited Edition มินิไบค์ระดับตำนานที่สานต่อมาจนถึงปัจจุบันและวางจำหน่ายโดย CUB House By Honda มาในครั้งนี้ Honda ได้จับมือกับ Toei Animation ร่วมสร้างตำนานอีกครั้ง กับการ์ตูนสุดอมตะตลอดกาลอย่าง Dragon Ball จึงได้ให้กำเนิด Honda Monkey Dragon Ball Limited Edition และมีจำนวนจำกัดเพียง 100 คันในโลกเท่านั้น ใครที่เป็นสาวก Dragon Ball ต้องไม่พลาดที่จะปล่อยพลังคลื่นเต่าเข้าใส่เจ้า Monkey Dragon Ball ในราคาเพียง 119,900 บาท เท่านั้น
4.Kawasaki Z900
Kawasaki Z900 หลังจากเริ่มทำตลาดมาสักพักใหญ่ ด้วยการตอบสนองความต้องการของสาวกแรดจากค่ายเขียว เรียกได้ว่า Z900 ที่มาแทนที่ Z800 นั้น ตอบโจทย์สำหรับไบค์เกอร์ผู้หลงใหลในความบึกบึนของรูปร่าง พร้อมกับดีไซน์เส้นสายสุดเฉียบคม มาในโฉม 2019 กับการปรับใหม่ขึ้นไปอีกระดับด้วยการอัพเกรดเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นระบบ Traction Control และระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยแอปพลิเคชั่น “RIDEOLOGY THE APP” ผ่านหน้าจอเรือนไมล์แบบ TFT ให้อารมณ์ความล้ำยุคได้อีก พร้อมอัพเกรดความทนทานและมั่นคงของช่วงล่างที่จะทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น โดยราคาค่าตัวในรุ่น Standard อยู่ที่ 443,100 บาท และรุ่น SE อยู่ที่ 465,400 บาท
5.BMW S1000RR
อีกหนึ่งซูเปอร์ที่ปลุกกระแสความล้ำยุคอีกครั้งในปีนี้ คงจะไม่พ้นเจ้าฉลามตัวใหม่จาก BMW อย่าง BMW S1000RR 2019 กับการเปลี่ยนโฉมใหม่หมด พร้อมอัดแน่นขุมพลังและเทคโนโลยีจากเยอรมนีมาเต็มลำ ในบล็อคเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบ 4 ขนาด 999 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบ BMW Shift Cam ที่ช่วยเสริมย่านกำลังในรอบกลางให้สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยให้พละกำลังสูงสุด 207 แรงม้า ที่ 13,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 Speed ด้วยระบบ Shift Assist Pro แบบ Up-Down ตามด้วยระบบสุดล้ำยุคที่จะเข้ามา Support ในการขับขี่ให้สนุกและมั่นใจยิ่งขึ้น โดยค่าตัว เริ่มต้นที่ 1,020,000 บาท สำหรับสีแดง Racing Red และ 1,050,000 บาท สำหรับสี Tri Colors Light White /Racing Blue Metallic / Racing Red
6.Ducati StreetFighter V4S
ไอ้หนุ่มอิตาลีหน้าหล่อ สายพันธุ์ Super Naked กับการเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงที่ปลุกตำนานของรถ Naked Bike สุดอมตะอีกหนึ่งรุ่น กับ Ducati StreetFighter V4S ที่สร้างขึ้นจากพื้นฐาน Ducati Panigale V4S ที่งานนี้อัดมาเต็ม Performance แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นขุมพลัง V4 วางทำมุม 90° ขนาดความจุ 1,103 ซีซี. บล็อคเดียวกันกับ Ducati Panigale V4 ให้พละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 208 แรงม้า ที่ 12,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 123 นิวตันเมตร ที่ 11,500 รอบต่อนาที และแบกน้ำหนักเพียง 178 กิโลกรัม แถม Winglet คู่หน้าสองชั้นเพื่อสร้าง DownForce ให้หน้ารถติดพื้นอย่างเต็มประสิทธิภาพผนวกกับเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับขี่มากมายที่จะสามารถล็อคคอความพยศของแรงม้า 208 ตัว ให้อยู่หมัด โดย Ducati StreetFighter V4S สนนราคาอยู่ที่ 1,059,000 บาท และ 899,000 บาท สำหรับ StreetFighter V4
7.Triumph Rocket III
Triumph Rocket III รถมอเตอร์ไซค์แนว Cruiser ระดับตำนานอีกหนึ่งรุ่น ที่ครั้งนี้กลับมาทวงคืนบัลลังก์รถมอเตอร์ไซค๋ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกับขุมพลัง 3 ลูกสูบ 2,500 ซีซี. ให้พละกำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมคอท่อไอเสียผ่านวิธีการขึ้นรูปแบบ HydroForm ที่จะให้เสียงคำราม 3 สูบ สุดกระหึ่ม และลดน้ำหนักที่เบาลงถึง 40 กิโลกรัม พร้อมกับชุดช่วงล่างแบบสปอร์ตไม่ว่าจะเป็นปั๊มเบรกหน้า Brembo Stylema รวมไปถึงชุดโช้คอัพของ Showa ที่สามารถปรับเซ็ตค่าได้ และระบบช่วยเหลือในการขับขี่อีกมากมายที่แสดงผลผ่านหน้าจอ TFT พร้อมตอบโจทย์ให้กับผู้ที่หลงรักในรถมอเตอร์ไซค์ที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสนนราคาในตัว Triumph Rocket III R อยู่ที่ 955,000 บาท และตัว Triumph Rocket III GT อยู่ที่ 985,000 บาท
8.Yamaha Tenere 700
Yamaha Tenere 700 รถมอเตอร์ไซค์ Adventure น้องใหม่สุดเฟี้ยวจากค่ายส้อมเสียง ที่เริ่มปลุกปั่นกระแสมาสักพัก กับทรวดทรงที่กระชับเหมาะสำหรับขาลุยโดยอาศัยพื้นฐานเครื่องยนต์ 2 ลูกสูบเรียง DOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำจาก Yamaha MT-07 ที่จะให้อารมณ์สุ้มเสียงสุดเร้าใจสไตล์ 2 สูบ ทอร์คหนักๆ พร้อมกับช่วงล่างสไตล์ Adventure เต็มตัวไม่ว่าจะเป็นโช้คหน้าแบบ UpSide Down โช้คอัพหลังเดี่ยว และวงล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และวงล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ที่พร้อมจะลุยทุกเส้นทาง โดยสนนราคาอยู่ที่ 439,000 บาท
9.Vespa Primavera S Special Edition
Vespa Primavera S Special Edition ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ให้อารมณ์สปอร์ตเหนือระดับ ด้วยการวางเฉดสีที่ลงตัวไม่เบาด้วยเฉดสีหลักที่เป็นสีเทา ตัดด้วยสีเทาเข้มและเสริมรายละเอียดเล็กน้อยด้วยสีส้ม ตามด้วยสีส้มที่นำสีเทามาตัดตรงกันข้ามในรูปแบบเดียวกัน พร้อมการจัดวางองค์ประกอบชิ้นส่วนและเฉดสีให้ลงตัวที่สุดให้สมกับเป็นรุ่น Special Edition โดดเด่นสะดุดอย่างต่อเนื่องด้วยเพลทโลโก้ S Special Edition เสริมความสะดวกสบายด้วยระบบกุญแจ Immobilizer และช่อง USB เสียบชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดย Vespa Primavera S Special Edition มีเฉดสีให้เลือกถึง 2 สีคือ สีส้ม (Orange Tramonto) และสีเทา (Grey Stile) สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 137,400 บาท
10.Honda CB1000R
Naked Bike รุ่นใหญ่ที่ทำตลาดมาสักพัก และได้รับการตอบรับจากแฟนๆที่หลงใหลในรูปทรง Neo Sport Cafe ได้ไม่น้อย กับความบึกบึน กล้ามเป็นมัดๆ ด้วยทรวดทรงที่มีความทะมัดทะแมง ขับขี่ควบคุมได้อย่างง่ายดาย พร้อมขุมพลังอัพเกรดใหม่ในบล็อคเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบ ขนาด 998 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ให้พละกำลังสูงสุดจากการปรับจูน ECU ได้ถึง 143 แรงม้า ที่ 10,500 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 104 นิวตันเมตร ที่ 8,250 รอบต่อนาที พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานสูงสุดจากทาง Honda มากมายที่จะทำให้การขับขี่ทุกเส้นทางไม่เสียฟิลลิ่ง โดย Honda CB1000R สนนราคาอยู่ที่ 515,000 บาท
จากที่เราได้นำเสนอ 10 อันดับ มอเตอร์ไซค์สุดเด่นในงาน Motor Expo 2019 นั้น ได้มีเกณฑ์ตัดสินจากเรทติ้งผู้ชมเป็นบางส่วน จากดุลพินิจของผู้เขียนเป็นบางส่วน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ หรือแฟนๆ ท่านใดมีรุ่นในใจก็สามารถมาคอมเม้นท์แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้นะครับ สำหรับใครที่กำลังมองหารถหล่อๆ โปรโดนๆ ในช่วงนี้ สามารถเข้าไปติดต่อสอบถามกันให้ไวเลย และในวันนี้ BoxzaRacing ต้องขอลากันไปก่อน...สวัสดีครับ
