เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2562 - 15:28

BMW S1000RR กลับมาเขย่าวงการอีกครั้ง ด้วยค่าตัวเริ่มต้น 1.02 ล้านบาท จัดเต็มความเร้าใจอย่างเหนือชั้น

 

            หลังจากที่เป็นข่าวให้คาดเดากันไปต่างๆ นานา ในที่สุดทางค่าย BMW Motorrad ก็ได้เปิดตัวสปอร์ตตัวแรงอย่าง BMW S1000RR 2020 ในงาน Motor Expo 2019 ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี 

 

 

             นอกจากจะเปิดตัว BMW S1000RR 2020 อย่างเป็นทางการ ในงาน Motor Expo 2019 แล้ว ทาง BMW Motorrad ยังได้เผยราคาของ BMW S1000RR 2020 โดยค่าตัวเริ่มต้นของ BMW S1000RR 2020 จะอยู่ที่ 1,020,000 บาท สำหรับสีแดง Racing Red และ 1,050,000 บาท สำหรับสีไตรคัลเลอร์ Light White /Racing Blue Metallic / Racing Red

 

BMW S1000RR 2020 สีแดง...ราคา 1,020,000 บาท

 

BMW S1000RR 2020 สีไตรคัลเลอร์...ราคา 1,050,000 บาท

 

            BMW S1000RR 2020 นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกในปี 2552 ซึ่งนอกจากได้รับการพัฒนาในด้านสมรรถนะแล้ว ไฮไลท์ของ BMW S1000RR 2020 ยังเป็นในเรื่องของความเร็ว ที่มีความเร็วสูงสุดต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 1 วินาที การออกแบบรูปโฉมและระบบต่างๆ คำถึงถึงการใช้งานที่สะดวกสบายของผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมและการขับขี่สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน บนเส้นทางคดเคี้ยว หรือแม้กระทั่งการโลดแล่นด้วยความเร็วสูงบนสนามแข่ง ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ และเทคโนโลยี BMW ShiftCam สมรรถนะโดยรวมของ BMW S1000RR 2020 จึงได้รับการยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง BMW ShiftCam มีส่วนสำคัญในการเสริมความสมดุลของเพลาลูกเบี้ยวและจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ เสริมด้วยระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและระบบท่อไอเสียที่ได้รับการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 1.3 กิโลกรัม

 

 

             นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 999 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ยังส่งพละกำลังเพิ่มขึ้น 6 กิโลวัตต์ (8 แรงม้า) เป็น 152 กิโลวัตต์ (207 แรงม้า) ที่ 13,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบ/นาที ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่ และการเร่งขณะขับขี่ที่ความเร็วต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญ BMW S1000RR 2020 ยังมีน้ำหนักเบาลงถึง 11 กิโลกรัม ลงจาก 208 กิโลกรัม ในรุ่นก่อนหน้ามาอยู่ที่ 197 กิโลกรัม

 

 

              BMW S1000RR 2020 ยังพัฒนามาให้มีน้ำหนักลดลง โดยการออกแบบเฟรมรถใหม่ นอกจากจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการยศาสตร์ของผู้ขับขี่แล้ว ยังเน้นไปที่การส่งน้ำหนักไปยังเครื่องยนต์ในระยะทางที่สั้นที่สุด การเคลื่อนที่ของรถมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น จากการผสานประสิทธิภาพระหว่างมิติรถ การกระจายน้ำหนักระหว่างล้อ และความสามารถในการรับน้ำหนักที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนระบบ Full Floater Pro ช่วยเสริมสมรรถนะของช่วงล่างล้อหลังให้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม ซึ่งด้วยการพัฒนาทั้งหมดนี้ ทำให้ BMW S1000RR 2020 สามารถนำเสนอการควบคุมรถและการยึดเกาะถนนที่แม่นยำยิ่งขึ้นในทุกสภาวะการขับขี่ 

 

 

             BMW S1000RR 2020 ยังสามารถรองรับสไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย ทั้ง 4 รูปแบบการขับขี่พื้นฐาน ได้แก่ Rain, Road, Dynamic และ Race อีกทั้งยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบโปร ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนการควบคุมต่างๆ ให้ตรงกับรูปแบบการขับขี่เฉพาะตัว ทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS Pro ระบบ Dynamic Traction Control อัตราเร่ง และการหน่วงกำลังเครื่องยนต์ ที่ปรับเปลี่ยนตามทักษะและรูปแบบในการขับขี่ นอกจากนี้ ระบบ Dynamic Damping Control (DDC) ยังได้รับการพัฒนาเฉพาะสำหรับ BMW S1000RR 2020

 

 

             แผงหน้าปัดของ BMW S1000RR 2020 ได้รับการออกแบบใหม่ให้ลงตัวกับการโลดแล่นด้วยความเร็วสูงในสไตล์ซูเปอร์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มตัวเลือกในการแสดงผลต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมจอแสดงผล TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่ง่ายต่อการอ่านค่าในทุกสภาพแสง โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ Pure Ride ซึ่งเน้นการแสดงผลเฉพาะข้อมูลที่สำคัญต่อการขับขี่ และ Core Ride ที่สามารถเลือกการแสดงผลค่าต่างๆ เพิ่มได้อีก 3 รูปแบบ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกการแสดงผลที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ที่หลากหลายได้ตามความต้องการ

 

 

            BMW S1000RR 2020 มาพร้อมเฟรมตัวถังแบบใหม่ หรือ Flex Frame ที่ใช้พื้นที่บริเวณถังน้ำมันและเบาะนั่งน้อยลง จึงเพิ่มพื้นที่สำหรับการรองรับน้ำหนักและที่รองเข่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ จุดสัมผัสระหว่างผู้ขับขี่และตัวรถยังได้รับการออกแบบใหม่ให้สอดรับกับองศาระหว่างผู้ขับขี่ มือจับทั้ง 2 ข้าง เบาะนั่ง และที่พักเท้า เพื่อให้ผู้ขับขี่อยู่ในท่วงท่าที่สบายที่สุดตามหลักการยศาสตร์ ไฟหน้า LED ตอกย้ำถึงความโฉบเฉี่ยวและความดุดันของ BMW S1000RR 2020 ดีไซน์ตัวถังใหม่สร้างความโดดเด่นสะดุดตาจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน โดยมาใน 2 สี 2 สไตล์ คือ สีแดง Racing Red Uni และสี Light White Uni/Racing โดย BMW S1000RR 2020 มาพร้อมกับโปรแกรม BMSI (BMW Motorrad Service Inclusive) ที่มีระยะเวลาบำรุงรักษาตามมาตรฐาน 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร และรับประกันคุณภาพ 3 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook