Kawasaki Ninja ZX10-R ที่มีเพียง 25 คันในโลก

เขียนโดย: Bank BoxzaRacing

เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2559 - 17:28

ภาพโดย: Streetmetal

My name is Bank an automotive photographer and a based out of Thailand

ตัดต่อวิดีโอโดย: di5trotion

Blend the Image

 

Kawasaki ZX-10R 30 Anniversary By Area51

 


Kawasaki ZX-10R 30 Anniversary By Area51

 
          คาวาซากิเป็นอีกหนึ่งค่ายที่มีรถสปอร์ตคลาส 1000 อยู่ในสายการผลิตซึ่งมีผลงานในสนามแข่งมากมาย ซึ่งรุ่นที่คว้าชัยให้กับต้นสังกัดมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Ninja ZX-10R รถที่ได้เสียงตอบรับจากนักบิดทั่วโลกมากมายทั้งในสนามและท้องถนน


เมื่อ ZX-10R มาอยู่ในมือของ Benz Racing โปรเจ็คมันส์ๆจึงบังเกิด


          ซึ่งม้าศึกลำนี้อยู่ในอาณัติการครอบครองของ Benz Racing ทำไมถึงต้องเป็น ZX-10R เพราะความชอบและหลงไหลในความเร็วทำให้ Ninja ZX-10R จึงตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบความแรง เพราะลำพังแรงม้าจากโรงงานอยู่ที่ 200 ตัว ถ้าใช้แรมแอร์ช่วยดูดลม แรงม้าจะเพิ่มขึ้น 209 ตัว น้ำหนักตัวอยู่ที่ 200 กิโลกรัมเฉลี่ยแรงม้าต่อน้ำหนัก 1:1 ZX-10R ถือกำเนิดในช่วงปี 2004 ออกมาต่อกรกับขุนพลคลาส 1000 อาทิ HONDA CBR1000RR, SUZUKI GSX-R1000, BMW S1000RR, Aprilia RSV4 และ YAMAHA YZF-R1


"One of only 25" คุณได้เป็นหนึ่งของ 25 คันในโลก
 

          ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นที่สุดของซูเปอร์ไบค์คลาส 1000 ซึ่งต่อกรมาตั้งแต่รุ่นพี่เมื่อ 10 ปีที่แล้วจนมาถึงปัจจุบันจนมาถึงปี 2014 Kawasaki ได้เปิดตัวรุ่น ZX-10R รุ่นพิเศษเพื่อเป็นฉลองครบรอบ 30 ปีของการผลิต Ninja ZX-10R รุ่นแรกในปี 1984 ซึ่งมีเพียง 25 คันเท่าโดย 1 ใน 25 อยู่ที่ Benz Racing นั่นเองครับ เมื่ออยู่ในการครอบครองของ Benz Racing จะไม่ใช่รถเดิมๆอยู่แน่นอนครับไปดูกันว่า ZX-10R คันนี้ตกแต่งอะไรไปบ้าง

 


โช๊คฯหน้า Ohlins ตรงรุ่น ZX-10R

 


โช๊คฯหลัง Ohlins TTX GP ปรับได้ละเอียดยิบ

          เริ่มกันที่โช๊คฯหน้าเปลี่ยนมาใช้โช๊คฯ Ohlins ตรงรุ่น ZX-10R ด้านโช๊คหลังเป็น Ohlins TTX GP สามารถปรับ สปริง+Compression+Rebound ไม่น้อยหน้ารถสนามเลยทีเดียว ต่อด้วยระบบเบรคเลือกใช้บริการ ปั๊มบน Brembo ที่เด็กแว๊นซ์บ้านเราเรียกว่าหมุดทอง 19/18R ลูกสูบไททาเนี่ยม ส่วน มาพร้อมกับสายถักจาก Hel คาลิปเปอร์เป็นแบบ Monobloc ลูกสูบไททาเนี่ยม 36/32 mm ผ้าเบรค Z04 จับจานเบรค Brembo T-Drive 320 mm.X2 (จานเดิมจากโรงงาน 310mm.) ทำให้เบรคได้ลึกและนุ่มมือยิ่งขึ้น คาลิปเปอร์หลังด้วง GP สลักทอง ลูกสูบไททาเนี่ยม ปั๊มกระทุ้งกล่องไม้ขีด พร้อมสายถัก Hel อีกเช่นกัน จานเบรคหลัง Brake Tec (เหล็กดิบ Full Floating)


กันสะบัดจาก Ohlins

          จัดการกับระบบระบายความร้อนโดยเปลี่ยนมาใช้ท่อยางของ Samco ช่วยลำเลียงน้ำไประบายความร้อยได้เร็วขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งน็อตแท่นเครื่องยังเปลี่ยนมาใช้วัสดุจากไททาเนี่ยมที่ให้น้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแรงไว้ได้อย่างดี จัดท่านั่งได้อย่างฉมังกับเกียร์โยง Gilles Tooling VCR38 ที่ช่วยปรับท่าทางการขับขี่ทั้งบนถนนและในสนามได้อย่างดี
ควบคุมการพยศของม้าฝูงใหญ่กับกันสะบัด Ohlin ปรับความหนืดได้อย่างอิสระ

         


Quick Shifter จาก Translogic
 

          เมื่อคอนเซ็ปต์ของรถคันนี้เป็นรถบ้านที่ใกล้เคียงกับรถสนามก็ต้องมีไม้เด็ดอย่าง Quick Shifter จาก Translogic เข้าเกียร์ 2-3-4-5-6 โดยไม่ต้องกำคลัทช์ (ในกรณีที่หยุดรถหรือเปลี่ยนเกียร์ต่ำยังคงต้องใช้คลัทช์เหมือนเดิม) เพิ่มอัตราเร่งให้จี๊ดจ๊าดมากขึ้น ชุดโซ่สเตอร์ Renthal จึงถูกเลือกมาประจำการแทนของเดิมช่วยให้ 0-200 km/h เร็วขึ้น

         


Leovince SBK เท่านั้นที่ Benz Racing ไว้ใจ

          เมื่อใกล้เคียงกับรถสนามท่อแต่งจึงเป็นสิ่งจำเป็นไว้ใจ Leovince Full System Titanium ที่เป็นชุดเดียวกับรถแข่ง WSBK-World Super Bike สุ้มเสียงที่ออกมาแผดกร้าวเร้าโสตประสาทของ Biker และปิดท้ายด้วยล้อแม็กซ์หล่อๆจาก Marchesini รุ่น M7RS 7ก้าน ลายเดียวกับที่ใช้ในรถแข่ง WSBK รัดด้วยยางเกรดสนาม Pirelli Diablo Supercor SP V2


ล้องามๆจาก Marchesini รุ่น M7RS รัดด้วยยาง Pirelli Diablo Supercor SP V2 พร้อมโซ่-สเตอร์ Renthal


          เป็นรถอีกหนึ่งคันที่เข้าข่ายรถหายาก เพราะในโลกมีเพียง 25 คันซึ่งคันนี้ตกแต่งใกล้เคียงกับรถสนามถ้าปิดไฟหน้า-ถอดไฟท้าย-ถอดกระจกมองข้าง-ใส่ยางสลิครับรองว่าลงสนามได้อย่างไม่อายใครเลยทีเดียว


Benz Racing เจ้าสำนัก Area51 พร้อมให้คำปรึกษา

 

          ทาง Benz Racing ได้ทิ้งท้ายสำหรับคนที่ใช้รถรุ่นเดียวกันแล้วหาของแต่งหรือต้องการคำปรึกษาสามารถเข้าไปดูได้ที่ Area51 หรือดูรายละเอียดของ ZX-10R คันนี้ได้ทาง BoxzaRacing.com 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook