ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ในหนึ่งหรือสองทศวรรษที่ผ่านมา รถมอเตอร์ไซค์ที่มีระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) จะถือได้ว่าเป็นรถที่มีความปลอดภัยอย่างมาก แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีเหล่านี้ได้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปในท้องตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้หลายๆ ค่ายก็ได้พัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อให้รถมอเตอร์ไซค์มีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม คุณสามารถเห็นระบบเรดาร์จาก BMW, Ducati และ KTM ได้แล้วในปัจจุบัน และตอนนี้ดูเหมือนว่า Honda ได้พัฒนาระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ที่คล้ายกัน
สิ่งที่น่าสนใจของเรื่องนี้คือ แทนที่ Honda จะเลือกใช้ ‘เรดาร์’ เพียงอย่างเดียวเหมือนกับค่ายรถมอเตอร์ไซค์อื่นๆ แต่ทาง Honda ได้เลือกใช้ ‘กล้อง’ เข้ามาทำงานร่วมกับเรดาร์ด้วย ซึ่งทำให้สร้างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ภาพสิทธิบัตร
การมีกล้องเพิ่มเติมเข้ามา ทำให้รถมีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะระบบเรดาร์เพียงอย่างเดียวมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ไม่สามารถแยกแยะวัตถุบางชนิดบนท้องถนนได้ แต่เรดาร์ก็มีข้อดีในเรื่องการตรวจจับที่มีระยะไกลกว่ากล้อง แต่ในส่วนของกล้องจะสามารถระบุวัตถุได้อย่างรวดเร็ว แต่ในบางจังหวะที่เจอแสงแดดจ้า การทำงานของกล้องก็อาจเกิดปัญหาได้เช่นกัน
ดังนั้น Honda จึงได้พัฒนาให้ระบบเรดาร์ทำงานรวมกับกล้อง ทำให้รถมอเตอร์ไซค์ที่มีระบบนี้จะมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
ภาพสิทธิบัตร
สำหรับภาพสิทธิบัตรที่ถูกเปิดเผยออกมา จะเห็นได้ว่าระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ด้วยเทคโนโลยีเรดาร์ และกล้อง จะถูกติดตั้งให้ใช้ในรุ่น Honda Africa Twin ในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าระบบดังกล่าวจะเหมาะกับรุ่นทัวร์ริ่ง เช่น NT1100, Rebel 1100 และ Gold Wing เช่นกัน
เรากำลังได้เห็นระบบความปลอดภัยขั้นสูงมากขึ้นในรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเทคโนโลยีกำลังก้าวหน้า แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเหล่านี้สุดท้ายจะสามารถขับขี่ได้แบบอัตโนมัติแน่นอน โดยแนวคิดนี้เหมือนกับฝั่งรถยนต์สี่ล้อนั้นล่ะ และเชื่อว่ามีทั้งคนที่ชื่นชอบและไม่ชอบอย่างแน่นอน